สงครามสถาบันลดน้ำหนักสะดุด ปีนี้ทรงตัว เหตุมุ่งรัดเข็มขัด หั่นงบตลาด ดึงงรายได้กลับคืน หลังปีก่อนวางหมากผิด ลูกค้าเก่าหนี “คริสตี้ ฟรองซ์”โว ชูกลยุทธ์มัดใจฐานลูกค้ามา 2-3 ปี ส่งรายได้ปี52ตามเป้า พร้อมเดินหน้าผุดโปรโมชั่นและกิจกรรมใหญ่ 4 แคมเปญ เปิดตัวนวัตกรรมใหม่กลางปี ส่งสินค้าผ่านช่องทางอื่น มั่นใจสิ้นปีเสือ ยอดขยับอีก 10-15%
นางฐิตาภรณ์ นาคศรี ผู้จัดการทั่วไป บริษัท คริสตี้ ฟรองซ์ (ประเทศไทย) จำกัด หนึ่งในกลุ่มธุรกิจของ บริษัท บอดี้เชพ คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด ให้บริการด้านการลดน้ำหนักและกระชับสัดส่วน เปิดเผยกับ “ASTVผู้จัดการรายวัน” ว่า ภาพรวมตลาดสถาบันลดน้ำหนักมูลค่าประมาณ 2,000-2,500 ล้านบาท ปีนี้มองว่าน่าจะทรงตัว เพราะเท่าที่สังเกตจะพบว่า สถาบันลดน้ำหนักหลายๆแบรนด์ โดยเฉพาะในกลุ่มไฮฮเอนด์ในปีนี้ค่อนข้างเงียบ โดยเฉพาะในแง่ของการทำตลาด จากเดิมที่โหมเล่นในเรื่องของแมสมีเดีย กับการโฆษณาประชาสัมพันธ์ จะลดน้อยลง มีการปรับลดงบประมาณทางการตลาดลง ทั้งนี้เพื่อให้สามารถรักษาระดับรายได้ให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้
“จะเห็นได้ว่า ปีที่ผ่านมา ธุรกิจในกลุ่มสถาบันลดน้ำหนัก จะมีการแข่งขันรุนแรง มีการใช้สื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ค่อนข้างสูง แต่ในทางกลับกันกลับไม่ส่งผลต่อรายได้มากนัก ไม่สามารถรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้ได้ เพราะเน้นแมสมีเดียมากกว่าการสร้างรอยัลตี้ให้ลูกค้า ขณะเดียวกันลูกค้าเองก็มีทางเลือกอื่นในการควบคุมน้ำหนักได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น กาแฟควบคุมน้ำหนัก ซึ่งกำลังมาแรง เลยส่งผลให้สถาบันลดน้ำหนักในปีนี้จะหันมาให้ความสำคัญกับฐานลูกค้าเดิมเป็นหลัก มากกว่าเล่นเรื่องของโฆษณาอย่างที่ผ่านมา”
สำหรับคริสตี้ ฟรองซ์ เนื่องจากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ได้หันมาให้ความสำคัญกับการเพิ่มสิทธิพิเศษให้ลูกค้า เน้นสร้างรอยัลตี้มาโดยตลอด และปรับสัดส่วนการใช้แมสมีเดียมากยิ่งขึ้น จึงส่งผลให้สิ้นปี 2552 ที่ผ่านมา ยังคงมีรายได้เป็นไปตามเป้า
ดังนั้นแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทจะยังคงเดินหน้าให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ดังกล่าวอยู่ ภายใต้งบการตลาดที่ใช้ใกล้เคียงกับปีก่อน แต่จะปรับสัดส่วนไปใช้กับการสร้างรอยัลตี้ให้ลูกค้ามากขึ้นอีก 30% และลดแมสมีเดียลงอีก โดยทั้งปีนี้จะมีโปรโมชั่นและแคมเปญใหญ่รวม 4 รายการ จากปกติจะจัดขึ้นปีละ 2 รายการเท่านั้น เชื่อว่าจะช่วยให้ฐานลูกค้าเดิมพึงพอใจและขยับสัดส่วนขึ้นเป็น 70% ที่เหลือเป็นลูกค้าใหม่ 30% จากปีก่อนลูกค้าเดิมอยู่ที่ประมาณ 60% กว่าเท่านั้น
นอกจากนี้ในช่วงกลางปี ทางบริษัทจะเพิ่มบริการใหม่ กับนวัตกรรมในการลดสลายไขมันเพิ่มมาอีก 1 รายการ รวมถึงแผนการการขยายสาขาเพิ่มทั้งปีอีก 7 สาขา คาดว่าสิ้นปีนี้คริสตี้ ฟรองซ์ จะมีครบ 50 สาขาตามแผนที่วางไว้ โดยสาขาใหม่ในปีนี้ เช่น เพชรบุรี และชัยภูมิ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันคริสตี้ ฟรองซ์ เป็นสถาบันลดน้ำหนักที่มีฐานลูกค้าระดับบีลงมา ส่วนใหญ่เฉลี่ยยอายุตั้งแต่ 30-45 ปี 65% และกลุ่ม 20ปี อีก 35% โดยค่าใช้จ่ายแต่ละคอร์ส เฉลี่ยอยู่ที่ 10,000-20,000 บาท ต่อเดือน ซึ่งมองว่ายังมีช่องว่างในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ไม่สามารถเข้ามาใช้บริการที่สถาบันได้ จึงได้มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อลดน้ำหนักและกระชับสัดส่วนด้วย โดยปีนี้ได้เพิ่มช่องทางจำหน่ายมากยิ่งขึ้น เชื่อว่าจะเป็นส่วนสำคัญอีกส่วนหนึ่งที่จะช่วยผลักดันให้สิ้นปีนี้ คริสตี้ ฟรอซ์ จะมีรายได้เติบโตขึ้นอีกอย่างน้อย 10-15%
นางฐิตาภรณ์ นาคศรี ผู้จัดการทั่วไป บริษัท คริสตี้ ฟรองซ์ (ประเทศไทย) จำกัด หนึ่งในกลุ่มธุรกิจของ บริษัท บอดี้เชพ คอร์ปอเรชั่น กรุ๊ป จำกัด ให้บริการด้านการลดน้ำหนักและกระชับสัดส่วน เปิดเผยกับ “ASTVผู้จัดการรายวัน” ว่า ภาพรวมตลาดสถาบันลดน้ำหนักมูลค่าประมาณ 2,000-2,500 ล้านบาท ปีนี้มองว่าน่าจะทรงตัว เพราะเท่าที่สังเกตจะพบว่า สถาบันลดน้ำหนักหลายๆแบรนด์ โดยเฉพาะในกลุ่มไฮฮเอนด์ในปีนี้ค่อนข้างเงียบ โดยเฉพาะในแง่ของการทำตลาด จากเดิมที่โหมเล่นในเรื่องของแมสมีเดีย กับการโฆษณาประชาสัมพันธ์ จะลดน้อยลง มีการปรับลดงบประมาณทางการตลาดลง ทั้งนี้เพื่อให้สามารถรักษาระดับรายได้ให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้
“จะเห็นได้ว่า ปีที่ผ่านมา ธุรกิจในกลุ่มสถาบันลดน้ำหนัก จะมีการแข่งขันรุนแรง มีการใช้สื่อโฆษณาประชาสัมพันธ์ค่อนข้างสูง แต่ในทางกลับกันกลับไม่ส่งผลต่อรายได้มากนัก ไม่สามารถรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้ได้ เพราะเน้นแมสมีเดียมากกว่าการสร้างรอยัลตี้ให้ลูกค้า ขณะเดียวกันลูกค้าเองก็มีทางเลือกอื่นในการควบคุมน้ำหนักได้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น กาแฟควบคุมน้ำหนัก ซึ่งกำลังมาแรง เลยส่งผลให้สถาบันลดน้ำหนักในปีนี้จะหันมาให้ความสำคัญกับฐานลูกค้าเดิมเป็นหลัก มากกว่าเล่นเรื่องของโฆษณาอย่างที่ผ่านมา”
สำหรับคริสตี้ ฟรองซ์ เนื่องจากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ได้หันมาให้ความสำคัญกับการเพิ่มสิทธิพิเศษให้ลูกค้า เน้นสร้างรอยัลตี้มาโดยตลอด และปรับสัดส่วนการใช้แมสมีเดียมากยิ่งขึ้น จึงส่งผลให้สิ้นปี 2552 ที่ผ่านมา ยังคงมีรายได้เป็นไปตามเป้า
ดังนั้นแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทจะยังคงเดินหน้าให้ความสำคัญกับกลยุทธ์ดังกล่าวอยู่ ภายใต้งบการตลาดที่ใช้ใกล้เคียงกับปีก่อน แต่จะปรับสัดส่วนไปใช้กับการสร้างรอยัลตี้ให้ลูกค้ามากขึ้นอีก 30% และลดแมสมีเดียลงอีก โดยทั้งปีนี้จะมีโปรโมชั่นและแคมเปญใหญ่รวม 4 รายการ จากปกติจะจัดขึ้นปีละ 2 รายการเท่านั้น เชื่อว่าจะช่วยให้ฐานลูกค้าเดิมพึงพอใจและขยับสัดส่วนขึ้นเป็น 70% ที่เหลือเป็นลูกค้าใหม่ 30% จากปีก่อนลูกค้าเดิมอยู่ที่ประมาณ 60% กว่าเท่านั้น
นอกจากนี้ในช่วงกลางปี ทางบริษัทจะเพิ่มบริการใหม่ กับนวัตกรรมในการลดสลายไขมันเพิ่มมาอีก 1 รายการ รวมถึงแผนการการขยายสาขาเพิ่มทั้งปีอีก 7 สาขา คาดว่าสิ้นปีนี้คริสตี้ ฟรองซ์ จะมีครบ 50 สาขาตามแผนที่วางไว้ โดยสาขาใหม่ในปีนี้ เช่น เพชรบุรี และชัยภูมิ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันคริสตี้ ฟรองซ์ เป็นสถาบันลดน้ำหนักที่มีฐานลูกค้าระดับบีลงมา ส่วนใหญ่เฉลี่ยยอายุตั้งแต่ 30-45 ปี 65% และกลุ่ม 20ปี อีก 35% โดยค่าใช้จ่ายแต่ละคอร์ส เฉลี่ยอยู่ที่ 10,000-20,000 บาท ต่อเดือน ซึ่งมองว่ายังมีช่องว่างในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่ไม่สามารถเข้ามาใช้บริการที่สถาบันได้ จึงได้มีการจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อลดน้ำหนักและกระชับสัดส่วนด้วย โดยปีนี้ได้เพิ่มช่องทางจำหน่ายมากยิ่งขึ้น เชื่อว่าจะเป็นส่วนสำคัญอีกส่วนหนึ่งที่จะช่วยผลักดันให้สิ้นปีนี้ คริสตี้ ฟรอซ์ จะมีรายได้เติบโตขึ้นอีกอย่างน้อย 10-15%
