สวนดุสิตโพลเผย ประชาชนร้อยละ 41.20 หวั่นคดียึดทรัพย์จะบานปลายสู่ความรุนแรง ด้านเอแบคโพล ระบุดัชนีเชื่อมั่นความเป็นผู้นำของนายกฯ เพิ่มขึ้นเกือบทุกตัวชี้วัด
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นเรื่องความวุ่นวายที่เกิดขึ้นหรือกระแสข่าวที่จะสร้างสถานการณ์ในบ้านเมืองทั้งช่วงก่อนและหลังที่จะมีการตัดสินคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทของอดีตนายกรัฐมนตี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พบว่า คดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทเป็นคดีสำคัญที่ประชาชนส่วนใหญ่สนใจและติดตามข่าวกันมาก ร้อยละ 38.22 อยากให้การพิจารณาของศาลเป็นไปอย่างถูกต้อง ยุติธรรม ว่ากันด้วยกฎหมายถูกว่าไปตามถูก ผิดว่าไปตามผิด ร้อยละ 31.61
ส่วนความเห็นต่อการตัดสินคดียึดทรัพย์ ในวันที่ 26 ก.พ.นี้ จะก่อให้เกิดเหตุการณ์บานปลายหรือไม่ พบว่า ร้อยละ 41.20 กลัวว่าจะบานปลายนำไปสู่ความรุนแรง ขณะที่ร้อยละ 23.13 เชื่อว่าจะไม่บานปลาย ส่วนวิธีแก้ไขที่ดีที่สุดส่วนใหญ่ร้อยละ 33.34 เห็นว่าต้องเป็นไปตามกฎหมายอย่างยุติธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ รองลงมา คือ ต้องการให้มองว่าเป็นเพียงคดีหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องให้ความสำคัญ รวมถึงต้องการให้ศาลพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ
ด้านเอแบคโพล เผยผลสำรวจความเชื่อมั่นในความเป็นผู้นำ ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เมื่อเปรียบเทียบกับผลสำรวจเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา พบว่าดัชนีตัววัดความเชื่อมั่นสูงขึ้นในเกือบทุกตัวดัชนี โดยเฉพาะการควบคุมอารมณ์ ความรู้ความสามารถ และความซื้อสัตย์สุจริต ส่วนความเห็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองขณะนี้ ผลสำรวจกลุ่มตัวอย่างเชื่อว่า เป็นการทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัว มากกว่าทำเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ.
สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้สำรวจความคิดเห็นเรื่องความวุ่นวายที่เกิดขึ้นหรือกระแสข่าวที่จะสร้างสถานการณ์ในบ้านเมืองทั้งช่วงก่อนและหลังที่จะมีการตัดสินคดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทของอดีตนายกรัฐมนตี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พบว่า คดียึดทรัพย์ 7.6 หมื่นล้านบาทเป็นคดีสำคัญที่ประชาชนส่วนใหญ่สนใจและติดตามข่าวกันมาก ร้อยละ 38.22 อยากให้การพิจารณาของศาลเป็นไปอย่างถูกต้อง ยุติธรรม ว่ากันด้วยกฎหมายถูกว่าไปตามถูก ผิดว่าไปตามผิด ร้อยละ 31.61
ส่วนความเห็นต่อการตัดสินคดียึดทรัพย์ ในวันที่ 26 ก.พ.นี้ จะก่อให้เกิดเหตุการณ์บานปลายหรือไม่ พบว่า ร้อยละ 41.20 กลัวว่าจะบานปลายนำไปสู่ความรุนแรง ขณะที่ร้อยละ 23.13 เชื่อว่าจะไม่บานปลาย ส่วนวิธีแก้ไขที่ดีที่สุดส่วนใหญ่ร้อยละ 33.34 เห็นว่าต้องเป็นไปตามกฎหมายอย่างยุติธรรม ไม่เลือกปฏิบัติ รองลงมา คือ ต้องการให้มองว่าเป็นเพียงคดีหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องให้ความสำคัญ รวมถึงต้องการให้ศาลพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ
ด้านเอแบคโพล เผยผลสำรวจความเชื่อมั่นในความเป็นผู้นำ ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เมื่อเปรียบเทียบกับผลสำรวจเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา พบว่าดัชนีตัววัดความเชื่อมั่นสูงขึ้นในเกือบทุกตัวดัชนี โดยเฉพาะการควบคุมอารมณ์ ความรู้ความสามารถ และความซื้อสัตย์สุจริต ส่วนความเห็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองขณะนี้ ผลสำรวจกลุ่มตัวอย่างเชื่อว่า เป็นการทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัว มากกว่าทำเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ.
