ASTVผู้จัดการรายวัน – “ฉัตรทวีกิจฯ” ปรับแผนทำตลาดเสื้อแบรนด์ “ครอคโคไดล์” ครั้งใหญ่ หลังเงียบมานาน ทุ่มงบรวม 400 ล้านบาท ทั้งขยายผลิต เพิ่มชอป โหมตลาดและ ซีเอสอาร์ พร้อมขยายตกลุ่มวัยรุ่น มั่นใจปีนี้ยอดขายโต 50% สู่ 350 ล้านบาท
นายสมศักดิ์ ฉัตรทวีศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฉัตรทวีกิจคอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ได้รับไลเซ่นส์ในการผลิตและจำหน่ายเสื้อแบรนด์ครอคโคไดล์ของสิงคโปร์ เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯจะรุกทำการตลาดอย่างหนัก หลังจากที่ผ่านมาเพียงแค่ผลิตและขายเท่านั้น ไม่ได้ทำตลาดเชิงรุกมากนักและอยู่เงียบๆมานาน และล่าสุดได้แต่งตั้งนายพันธ์ศักดิ์ ถิระบัญชาศักดิ์ เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป ซึ่งก่อนหน้านี้เคยบริหารงานอยู่ที่โกดักประเทศไทยมาก่อน
ทั้งนี้มองว่า เศรษฐกิจของไทยในปีนี้น่าจะกลับมาดีขึ้น อีกทั้งเป็นการรับมือกับการแข่งขันของตลาดเสื้อผ้าด้วยที่จะแข่งรุนแรงมากขึ้นจากการเปิดเสรีและการประกาศใช้อาฟตา หลังจากที่ปีที่แล้วตลาดรวมเสื้อผ้าตกลงกว่า 30% ขณะที่รายได้รวมของบริษัทฯเมื่อปีที่แล้วต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย โดยมีรายได้รวมกว่า 200 ล้านบาท อย่างไรก็ตามสำหรับตลาดต่างประเทศนั้น ขณะนี้บริษัทฯได้ชะลอการทำตลาดมาระยะหนึ่งแล้วเนื่องจากการแข่งขันค่อนข้างสูงอีกทั้งก่อนหน้านี้กำลังผลิตไม่เพียงพอด้วย
โดยเฉพาะปีนี้ จะทุ่มงบรวมมาดกว่า 400 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น การลงทุน 300 ล้านบาท ซึ่งต่อเนื่องจากปีที่แล้วในการปรับปรุงคุณภาพการผลิตทั้งซื้อเครื่องจักรใหม่ การนำเข้าวัตถุดิบอย่างดีจากต่างประเทศ เพื่อขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 30% จากกำลังผลิตปัจจุบันประมาณ 30,000 ชิ้นต่อเดือน หรือทั้งปี 2552 มีการผลิตเสื้อออกมารวมมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท
นอกนั้นอีก 50 ล้านบาทเบ่งเป็นงบการลงทุนขยายจุดขายทั้งในรูปแบบชอปอินชอป สแตนด์อโลนชอป เอาท์เล็ต รวมแล้วมากกว่า 20 แห่ง ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯมีจุดขายมากกว่า 70 แห่ง กระจายในห้างสรรพสินค้าเช่น เซ็นทรัล โรบินสัน เดอะมอลล์ และมีสแตนด์อโลนชอปอีก 1 แห่งที่ อัมรินทร์พลาซ่า
ส่วนอีก 50 ล้านบาท เป็นงบการตลาด ซึ่งมากกว่าปีที่แล้วที่ใช้เพียง 20 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งปีนี้จะเน้นหนันทั้งการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ การตลาด กิจกรรม การทำโปรโมชั่นกับพันธมิตรและการทำซีเอสอาร์ด้วย เพื่อเป็นการตอกย้ำแบนรด์ครอคโคไดล์ ซึ่งอยู่ในตลาดไทยมานานปีนี้ขึ้นปีที่ 23 แล้ว
นายสมศักดิ์กล่าวด้วยว่า ปีนี้บริษัทฯจะขยายตลาดหันมามุ่งเน้นการทำตลาดในกลุ่มวัยรุ่นตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไปมากขึ้น ราคาหากเป็นรุ่นลิมิเต็ดก็จะแพงกว่ากลุ่มเดิม 5-10% ที่ราคาเฉลี่ย 1,000 กว่าบาทขึ้นไป จากเดิมกลุ่มเป้าหมายหลักอยู่ที่อายุ 30 ปีขึ้นไปมากกว่า 70-80% ของรายได้รวม ด้วยการออกคอลเลคชั่นใหม่ทั้งบิสซิเนส แคชชวล เทรนดี้ ตลอดทั้งปี ซึ่งมีการรับดีไซน์เนอร์ใหม่เข้ามามากกว่า 10 คน ในการออกแบบรุ่นใหม่ๆ รวมไปถึงมีแผนที่จะขยายไลน์สินค้าด้วย เช่น ครอคโคไดล์คิดส์ ครอคโคไดล์เลดี้ เป็นต้น คาดว่าจะทำตลาดในปลายปีนี้
ส่วนการทำซีเอสอาร์นั้นปีนี้จะมีต่อเนื่องทั้งปี คาดว่าจะเปิดตัวกิจกรรมใหญ่ได้ในเร็วๆนี้ ซึ่งจะเน้นไปในเชิงการช่วยอนุรักษ์สัตว์ไทยที่กำลังจะสูญพันธ์ เป็นต้น ล่าสุดได้ร่วมมือกับทางรถยนต์โตโยต้า ในการจัดกิจกรรมร่วมกันคือ แคมเปญ “สวมครอคโคไดล์ ขับโตโยต้า” โดยทางโตโยต้าให้ความร่วมมือในการแจกบัตรกำนัลมูลค่า 500 บาท ให้ลูกค้าที่นำรถเข้าไปใช้บริการที่ศูนย์บริการรวมจำนวนกว่า 1 แสนใบ เพื่อให้ลูกค้านำไปเป็นส่วนลดเมื่อซื้อสินค้าภายในร้านครอคโคไดล์ทุกแห่ง
ทั้งนี้จากการรุกตลาดอย่างหนักในปีนี้คาดว่าจะสามารถสร้างยอดขายเติบโตได้มากถึง 50% โดยตั้งป้าหมายอดรายได้รวมไว้ที่ 350 ล้านบาท โดยคาดว่ามีสัดส่วนรายได้จาก กลุ่มเสื้อผ้าธุรกิจ 30% กลุ่มเสื้อผ้าแคชชวลสปอร์ต 70%
นายสมศักดิ์ ฉัตรทวีศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฉัตรทวีกิจคอร์ปอเรชั่น จำกัด ผู้ได้รับไลเซ่นส์ในการผลิตและจำหน่ายเสื้อแบรนด์ครอคโคไดล์ของสิงคโปร์ เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทฯจะรุกทำการตลาดอย่างหนัก หลังจากที่ผ่านมาเพียงแค่ผลิตและขายเท่านั้น ไม่ได้ทำตลาดเชิงรุกมากนักและอยู่เงียบๆมานาน และล่าสุดได้แต่งตั้งนายพันธ์ศักดิ์ ถิระบัญชาศักดิ์ เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป ซึ่งก่อนหน้านี้เคยบริหารงานอยู่ที่โกดักประเทศไทยมาก่อน
ทั้งนี้มองว่า เศรษฐกิจของไทยในปีนี้น่าจะกลับมาดีขึ้น อีกทั้งเป็นการรับมือกับการแข่งขันของตลาดเสื้อผ้าด้วยที่จะแข่งรุนแรงมากขึ้นจากการเปิดเสรีและการประกาศใช้อาฟตา หลังจากที่ปีที่แล้วตลาดรวมเสื้อผ้าตกลงกว่า 30% ขณะที่รายได้รวมของบริษัทฯเมื่อปีที่แล้วต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย โดยมีรายได้รวมกว่า 200 ล้านบาท อย่างไรก็ตามสำหรับตลาดต่างประเทศนั้น ขณะนี้บริษัทฯได้ชะลอการทำตลาดมาระยะหนึ่งแล้วเนื่องจากการแข่งขันค่อนข้างสูงอีกทั้งก่อนหน้านี้กำลังผลิตไม่เพียงพอด้วย
โดยเฉพาะปีนี้ จะทุ่มงบรวมมาดกว่า 400 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น การลงทุน 300 ล้านบาท ซึ่งต่อเนื่องจากปีที่แล้วในการปรับปรุงคุณภาพการผลิตทั้งซื้อเครื่องจักรใหม่ การนำเข้าวัตถุดิบอย่างดีจากต่างประเทศ เพื่อขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 30% จากกำลังผลิตปัจจุบันประมาณ 30,000 ชิ้นต่อเดือน หรือทั้งปี 2552 มีการผลิตเสื้อออกมารวมมูลค่ากว่า 200 ล้านบาท
นอกนั้นอีก 50 ล้านบาทเบ่งเป็นงบการลงทุนขยายจุดขายทั้งในรูปแบบชอปอินชอป สแตนด์อโลนชอป เอาท์เล็ต รวมแล้วมากกว่า 20 แห่ง ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯมีจุดขายมากกว่า 70 แห่ง กระจายในห้างสรรพสินค้าเช่น เซ็นทรัล โรบินสัน เดอะมอลล์ และมีสแตนด์อโลนชอปอีก 1 แห่งที่ อัมรินทร์พลาซ่า
ส่วนอีก 50 ล้านบาท เป็นงบการตลาด ซึ่งมากกว่าปีที่แล้วที่ใช้เพียง 20 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งปีนี้จะเน้นหนันทั้งการโฆษณา ประชาสัมพันธ์ การตลาด กิจกรรม การทำโปรโมชั่นกับพันธมิตรและการทำซีเอสอาร์ด้วย เพื่อเป็นการตอกย้ำแบนรด์ครอคโคไดล์ ซึ่งอยู่ในตลาดไทยมานานปีนี้ขึ้นปีที่ 23 แล้ว
นายสมศักดิ์กล่าวด้วยว่า ปีนี้บริษัทฯจะขยายตลาดหันมามุ่งเน้นการทำตลาดในกลุ่มวัยรุ่นตั้งแต่อายุ 20 ปีขึ้นไปมากขึ้น ราคาหากเป็นรุ่นลิมิเต็ดก็จะแพงกว่ากลุ่มเดิม 5-10% ที่ราคาเฉลี่ย 1,000 กว่าบาทขึ้นไป จากเดิมกลุ่มเป้าหมายหลักอยู่ที่อายุ 30 ปีขึ้นไปมากกว่า 70-80% ของรายได้รวม ด้วยการออกคอลเลคชั่นใหม่ทั้งบิสซิเนส แคชชวล เทรนดี้ ตลอดทั้งปี ซึ่งมีการรับดีไซน์เนอร์ใหม่เข้ามามากกว่า 10 คน ในการออกแบบรุ่นใหม่ๆ รวมไปถึงมีแผนที่จะขยายไลน์สินค้าด้วย เช่น ครอคโคไดล์คิดส์ ครอคโคไดล์เลดี้ เป็นต้น คาดว่าจะทำตลาดในปลายปีนี้
ส่วนการทำซีเอสอาร์นั้นปีนี้จะมีต่อเนื่องทั้งปี คาดว่าจะเปิดตัวกิจกรรมใหญ่ได้ในเร็วๆนี้ ซึ่งจะเน้นไปในเชิงการช่วยอนุรักษ์สัตว์ไทยที่กำลังจะสูญพันธ์ เป็นต้น ล่าสุดได้ร่วมมือกับทางรถยนต์โตโยต้า ในการจัดกิจกรรมร่วมกันคือ แคมเปญ “สวมครอคโคไดล์ ขับโตโยต้า” โดยทางโตโยต้าให้ความร่วมมือในการแจกบัตรกำนัลมูลค่า 500 บาท ให้ลูกค้าที่นำรถเข้าไปใช้บริการที่ศูนย์บริการรวมจำนวนกว่า 1 แสนใบ เพื่อให้ลูกค้านำไปเป็นส่วนลดเมื่อซื้อสินค้าภายในร้านครอคโคไดล์ทุกแห่ง
ทั้งนี้จากการรุกตลาดอย่างหนักในปีนี้คาดว่าจะสามารถสร้างยอดขายเติบโตได้มากถึง 50% โดยตั้งป้าหมายอดรายได้รวมไว้ที่ 350 ล้านบาท โดยคาดว่ามีสัดส่วนรายได้จาก กลุ่มเสื้อผ้าธุรกิจ 30% กลุ่มเสื้อผ้าแคชชวลสปอร์ต 70%
