xs
xsm
sm
md
lg

โมบายเอ็กซ์โปเงินสะพัด1.2พันล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ไทยแลนด์ โมบายเอ็กซ์โปตั้งเป้าเงินสะพัดภายในงานกว่า 1,200 ล้านบาท ผู้ค้าเข้าร่วมกว่า 30 แบรนด์ ชี้แนวโน้ม 3G และสมาร์ทโฟนเป็นตัวปลุกตลาด คาดสิ้นปีตลาดรวมมือถือโตไม่ต่ำกว่า 5% โนเกีย-แอลจี-ซัมซุง-ไอ-โมบาย จัดทัพสินค้ากระตุ้นยอดขาย หวังแบ่งเค้กเม็ดเงินที่สะพัดภายในงานนี้

นายโอภาส เฉิดพันธุ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอ็ม วิชัน จำกัด กล่าวว่า ตั้งแต่ปลายปี 52 ที่ผ่านมา เริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ เนื่องจากผู้บริโภคเริ่มหันมาใช้จ่ายมากขึ้น รวมกับปัจจัยในการเติบโตของตลาดโทรศัทพ์เคลื่อนที่ ไม่ว่าจะเป็นการมาของ 3G รวมถึงสมาร์ทโฟนจากระบบปฎิบัติการต่างๆ ทำให้ผู้บริโภคชะลอการซื้อโทรศัพท์มือถือ ซึ่งการจัดงานดังกล่าวถือเป็นตลาดกลางให้ผู้ขายและผู้บริโภคได้มาซื้อ-ขายกัน

ทั้งนี้ จากการจัดงานกว่า 6 ครั้งที่ผ่านมาได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีมาตลอด คาดว่ายอดผู้เข้าร่วมงานครั้งนี้มากกว่า 6 แสนคน ยอดเงินสะพัดภายในงานไม่ต่ำกว่า 1,200 ล้านบาท เช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากอินเตอร์แบรนด์ลดราคาเครื่องลูกข่ายลง รวมไปถึงกระแสการซื้อไอโฟนเริ่มตกลง ทำให้ยอดรวมทั้งงานไม่น่าจะสูงเกินกว่าปีที่ผ่านมา

***3G-สมาร์ทโฟนคึกคัก

ฝั่งแอลจีเริ่มประเดิมตลาดโทรศัพท์มือถือรองรับ 3G รุ่นใหม่อย่าง Lollipop หวังขายทั้งปีเกิน 100,000 เครื่อง ส่วนยอดขายภายในงานคาดว่าประมาณ 15 ล้านบาท เพิ่มจากปีที่ผ่านมา 30% เชื่อสิ้นปีตลาดรวมมือถือขึ้นไป อยู่ประมาณ 9.5 ล้านเครื่อง จากปัจจัยทั้ง 3G และกระแสสมาร์ทโฟน ส่วนมาเก็ตแชร์หวัง 15% ในปีนี้

เอียน วู ลี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอลจี อิเลกทรอนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า LG Lollipop ถือเป็นแฟล็กชิปหลักของปีนี้ ที่จะมาช่วยกระตุ้นยอดขายให้กับทางแอลจี โดยจากการสำรวจตลาดก่อนนำมาวางจำหน่ายพบผู้บริโภคสนใจมากกว่าแสนราย นอกจากนี้ยังคาดว่าจะเปิดตัวมือถือไม่ต่ำกว่า 40 รุ่นภายในปีนี้ โดยมีทั้งฟีเจอร์โฟนและสมาร์ทโฟน

ปัจจุบันมาเก็ตแชร์ของแอลจีอยู่ที่ประมาณ 7% ซึ่งหวังว่าในปีนี้จะขึ้นมาอยู่ราว 15% จากไลน์โทรศัพท์มือถือในช่วงราคาปานกลาง-สูง ประมาณ 30 รุ่น ซึ่งในจำนวนนี้จะมีทั้งเครื่องที่เป็นสมาร์ทโฟนและรองรับ 3G อยู่ด้วย ส่วนมูลรวมของตลาดโทรศัพท์มือถือในปีนี้ ไม่น่าจะต่ำกว่า 4 หมื่นล้านบาท จากราคาเฉลี่ยต่อเครื่องที่ปรับขึ้นจากสมาร์ทโฟน

ด้านซัมซุงหันมาให้ความสำคัญกับทัชสกรีนโฟนราคาถูกอย่าง ซัมซุงแคนดี้ ตั้งเป้ายอดขายเดือนละ 50,000 เครื่อง ส่วนภายในงานคาดว่าจะมียอดขายโทรศัพท์ประมาณ 4,000 เครื่อง เชื่อว่ายังคงเป็นผู้นำตลาดทัชโฟนแน่นอน นอกจากนี้ยังได้ มีการเปิดตัวซัมซุง กาแล็คซี สปิก้า ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ภายในงานด้วย

นายสิทธิโชค นพชินบุตร หัวหน้าฝ่ายการตลาด ธุรกิจโทรคมนาคม ไทยซัมซุง อิเล็กทรอนิคส์ มองภาพรวมตลาดโทรศัพท์มือถือในปีนี้ว่า เติบโตแน่ โดยคาดว่าจำนวนยอดขายจะเพิ่มขึ้นประมาณ 5% จากปีที่ผ่านมา ส่วนเรื่องของมูลค่านั้นก็เติบโตเช่นเดียวกันแต่อยู่ในหลัก 1 ดิจิต ซึ่งยังต้องรอดูว่าการเข้ามาของสมาร์ทโฟนจะทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นหรือไม่

"เป้าหมายหลักของซัมซุงภายในงานนี้คือ จำหน่าย ซัมซุง วัน ให้ได้ประมาณวันละ 400 เครื่อง เชื่อว่าผู้บริโภคที่หันมาสนใจทัชโฟนราคาถูกเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก ส่วนผู้ที่เคยใช้อยู่เดิม อาจเกิดการเปลี่ยนแปลงในการเลือกซื้อสมาร์ทโฟนที่มีความสามารถเพิ่มขึ้น สำหรับผลิตภัณฑ์ของซัมซุงในปีนี้ จะมีรุ่นที่รองรับ 3G ไม่ต่ำกว่า 20 รุ่นในตลาด ส่วนงบการตลาดในปีนี้อยู่ที่ประมาณ 1 พันล้านบาท หรือ 10% จากยอดขายในปีที่ผ่านมา"

ส่วนไอ-โมบาย เปิดตัวโทรศัทพ์กว่า 15 รุ่น รุกตลาด 3G-สมาร์ทโฟนจากระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ ทั้ง 2 ซิม ดูทีวี รองรับการเชื่อมต่อ 3G รวมกับตั้งบูทกระตุ้นยอดขาย ไอ-โมบาย 3Gx ตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 4.5 ล้านเครื่อง ส่วนผู้ใช้ 3Gx เพิ่มเป็น 200,000 รายภายในสิ้นปีนี้ มาเก็ตแชร์ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 30% ตั้งเป้าสิ้นปีขึ้นเป็น 33%

นายธนานันท์ วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถ ไอ-โมบาย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การทำตลาดของไอ-โมบาย ในปีนี้จะเน้นการนำเข้าเครื่องที่รองรับ 3G และสมาร์ทโฟนเช่นเดียวกับกระแสของตลาดในปีนี้ โดยปีนี้จะมีการเปิดตัวไม่ต่ำกว่า 30 รุ่นซึ่ง ซึ่งครึ่งหนึ่งจะรองรับการใช้งาน 3G ส่วนจุดเด่นของไอ-โมบายในปีนี้จะอยู่ที่สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ ราคาถูกในช่วง 6,000-11,000 บาท และในอนาคตเชื่อว่าจะทำให้อยู่ในช่วง 5,000 บาทให้ได้

"แม้ว่าตลาด 3G กำลังเติบโต แต่ผู้บริโภคที่ต้องการใช้ฟีเจอร์โฟนทั่วไปยังคงมีอยู่ ทำให้สินค้าที่ออกมาต้องตอบรับกับทุกกลุ่มลูกค้า สำหรับส่วนแบ่งตลาดเฮาส์แบรนด์ในปัจจุบันคาดว่าอยู่ที่ประมาณ 65-70% ซึ่งในอนาคตเชื่อว่าถ้า 3G เข้ามาแบบเต็มตัวผู้บริโภคจะเริ่มหันมาให้ความสนใจกับแบรนด์และเซอร์วิสหลังการขายมากขึ้น ทำให้เชื่อว่าตลาดเฮาส์แบรนด์จะต้องมีการเปลี่ยนแปลง"

นายธนานันท์กล่าวถึงความคืบหน้าทางด้าน ไอ-โมบาย 3Gx ที่ต้องการเป้าผู้ใช้ 200,000 รายในปีนี้ว่า บริษัทเตรียมเพิ่มช่องทางจำหน่ายในร้านค้าปลีกอย่าง 7-11 ในเขตกรุงเทพฯและปริมณทลภายในเดือนมีนาคมนี้ เพื่อขยายให้ผู้บริโภคทั่วไปเข้าถึงได้มากขึ้น พร้อมกับการเปิดศูนย์บริการอีก 2-3 แห่ง เพื่อรองรับผู้ใช้งานสมาร์ทโฟนและ 3G
กำลังโหลดความคิดเห็น