ASTVผู้จัดการรายวัน - 3 แบงก์"กสิกรไทย-ไทยพาณิชย์-นครหลวงไทย"จับมือปล่อยกู้พิเศษให้ผู้ที่ต้องการธุรกิจเฟรนไชส์ เซเว่น อีเลฟ-เว่น ทั้งบุลคลทั่วไปและพนักงานซีพี หนุนผู้ประกอบการรายย่อยเริ่มต้นธุรกิจอย่างมั่นคง ผลักดันตลาดค้าปลีกปี 53 มั่นใจช่วยกระตุ้นภาวะเศรษฐกิจของประเทศ
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) เปิดเผยถึงความร่วมมือกับบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ในการปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ที่ต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ เซเว่น อีเลฟ-เว่น ว่า ธนาคารพร้อมที่จะสนับสนุนด้านเงินทุนแก่นักธุรกิจที่สนใจจะเปิดร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ด้วยวงเงินกู้สูงสุด 2.5 ล้านบาทต่อ 1 ร้าน สำหรับผู้ประกอบการทั่วไป และวงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อ 1 ร้าน สำหรับพนักงานของบริษัท ซีพี โดยคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำในปีแรกคิด MLR-2.0% ปีที่สองคิด MLR-1.5% ปีที่สาม MLR-1.0% ผ่อนนานถึง 10 ปี โดยผู้ขอกู้จะทราบผลการพิจารณาเบื้องต้นภายใน 3 วัน และได้รับเงินภายใน 7 วัน ทั้งนี้ ธนาคารตั้งเป้าปล่อยกู้ในปีแรกไว้ 300 ล้านบาท
ขณะที่ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB) โดยนางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า ธนาคารมีนโยบายปล่อยสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการรายเล็กเพิ่มมากขึ้นในปี 2553 นี้ เพื่อรองรับการขยายตัวทางธุรกิจให้สามารถเติบโตได้อย่างสอดคล้องกับสภาวะการฟื้นตัวด้านเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ โดยปล่อยวงเงินกู้สูงสุด 1.5 ล้านบาท สำหรับลูกค้าทั่วไป และวงเงินกู้ 1 ล้านบาทสำหรับพนักงานของบริษัทซีพี คิดอัตราดอกเบี้ยปีแรก MRR-2.25% ปีที่สอง MRR-1.75% ปีที่สาม MRR-1.25% หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ย MRR-0.25% ต่อปี ซึ่งธนาคารตั้งเป้าหมายปล่อยกู้ธุรกิจแฟรนไชส์ เซเว่น-อีเลฟเว่น 250 สาขา หรือคิดเป็น 50% ของแฟรนไชส์เซเว่น-อีเลฟเว่น ที่จะเปิด 500 สาขา
นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) (SCIB) กล่าวว่า ธนาคารให้การสนับสนุนสินเชื่อแก่ลูกค้าของบริษัท ซีพี โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้ ประเภทผู้ประกอบการที่ทำระยะเวลาสัญญาประกอบธุรกิจอายุ 6 ปี (Type B) วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาท ระยะเวลาการกู้สูงสุดไม่เกิน 5 ปี ประเภทผู้ประกอบการที่ทำระยะเวลาสัญญาประกอบธุรกิจอายุ 10 ปี (Type C) วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 1.9 ล้านบาท ระยะเวลาการกู้สูงสุดไม่เกิน 8 ปี และประเภทพนักงานร้าน เซเว่น-อีเลฟเว่น ที่ต้องการแปลงสภาพจากลูกจ้างเป็นเจ้าของกิจการ ทำสัญญาประกอบธุรกิจอายุ 6 ปี วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 6 แสนบาท ระยะเวลาการกู้สูงสุดไม่เกิน 5 ปี คิดอัตราดอกเบี้ยปีแรก MLR- 2.00% ปีที่สอง MLR-1.50% ปีที่สาม MLR-1.00% หลังจากนั้นคิด MLR ตลอดอายุสัญญา โดยไม่มีหลักทรัพย์เป็นประกัน
นอกจากนี้ ธนาคารยังเปิดให้บริการสินเชื่อเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการร้าน เซเว่น-อีเลฟเว่น ในสถานีบริการน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTT) โดยเสนอสินเชื่อพิเศษวงเงินกู้ไม่เกิน 70% ของเงินลงทุนทั้งหมด แต่ไม่เกินจำนวนที่กำหนดมาตรฐานไว้ตามขนาดของร้าน สูงสุดถึง 3.5 ล้านบาท ระยะเวลากู้สูงสุดไม่เกิน 8 ปี อัตราดอกเบี้ยปีที่แรก MLR-2.00% ปีที่สอง MLR-1.50% ปีที่สาม MLR-1.00% หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ย MLR ตลอดอายุสัญญา
ด้านนายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น กล่าวว่า บริษัทมีนโยบายจะขยายสาขาให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคโดยใช้ระบบแฟรนไชส์ เพื่อให้ผู้ประกอบการคนไทยมีโอกาสเป็นเจ้าของธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ที่คุ้มค่าต่อการลงทุน โดยตั้งเป้าว่าในปี 2556 จะขยายสาขาร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น ในประเทศไทยเป็น 7,000 สาขา และเพิ่มสัดส่วนสาขาของร้านแฟรนไชซี่เป็น 59% จากปัจจุบันมีจำนวนสาขาทั้งหมด 5,3000 สาขา แบ่งเป็นสาขาของร้านแฟรนไชซี่ 47%
นายประสาร ไตรรัตน์วรกุล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) (KBANK) เปิดเผยถึงความร่วมมือกับบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ในการปล่อยสินเชื่อให้กับผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) ที่ต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์ เซเว่น อีเลฟ-เว่น ว่า ธนาคารพร้อมที่จะสนับสนุนด้านเงินทุนแก่นักธุรกิจที่สนใจจะเปิดร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ด้วยวงเงินกู้สูงสุด 2.5 ล้านบาทต่อ 1 ร้าน สำหรับผู้ประกอบการทั่วไป และวงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อ 1 ร้าน สำหรับพนักงานของบริษัท ซีพี โดยคิดอัตราดอกเบี้ยต่ำในปีแรกคิด MLR-2.0% ปีที่สองคิด MLR-1.5% ปีที่สาม MLR-1.0% ผ่อนนานถึง 10 ปี โดยผู้ขอกู้จะทราบผลการพิจารณาเบื้องต้นภายใน 3 วัน และได้รับเงินภายใน 7 วัน ทั้งนี้ ธนาคารตั้งเป้าปล่อยกู้ในปีแรกไว้ 300 ล้านบาท
ขณะที่ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB) โดยนางกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ กล่าวว่า ธนาคารมีนโยบายปล่อยสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการรายเล็กเพิ่มมากขึ้นในปี 2553 นี้ เพื่อรองรับการขยายตัวทางธุรกิจให้สามารถเติบโตได้อย่างสอดคล้องกับสภาวะการฟื้นตัวด้านเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ โดยปล่อยวงเงินกู้สูงสุด 1.5 ล้านบาท สำหรับลูกค้าทั่วไป และวงเงินกู้ 1 ล้านบาทสำหรับพนักงานของบริษัทซีพี คิดอัตราดอกเบี้ยปีแรก MRR-2.25% ปีที่สอง MRR-1.75% ปีที่สาม MRR-1.25% หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ย MRR-0.25% ต่อปี ซึ่งธนาคารตั้งเป้าหมายปล่อยกู้ธุรกิจแฟรนไชส์ เซเว่น-อีเลฟเว่น 250 สาขา หรือคิดเป็น 50% ของแฟรนไชส์เซเว่น-อีเลฟเว่น ที่จะเปิด 500 สาขา
นายชัยวัฒน์ อุทัยวรรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) (SCIB) กล่าวว่า ธนาคารให้การสนับสนุนสินเชื่อแก่ลูกค้าของบริษัท ซีพี โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้ ประเภทผู้ประกอบการที่ทำระยะเวลาสัญญาประกอบธุรกิจอายุ 6 ปี (Type B) วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 1 ล้านบาท ระยะเวลาการกู้สูงสุดไม่เกิน 5 ปี ประเภทผู้ประกอบการที่ทำระยะเวลาสัญญาประกอบธุรกิจอายุ 10 ปี (Type C) วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 1.9 ล้านบาท ระยะเวลาการกู้สูงสุดไม่เกิน 8 ปี และประเภทพนักงานร้าน เซเว่น-อีเลฟเว่น ที่ต้องการแปลงสภาพจากลูกจ้างเป็นเจ้าของกิจการ ทำสัญญาประกอบธุรกิจอายุ 6 ปี วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 6 แสนบาท ระยะเวลาการกู้สูงสุดไม่เกิน 5 ปี คิดอัตราดอกเบี้ยปีแรก MLR- 2.00% ปีที่สอง MLR-1.50% ปีที่สาม MLR-1.00% หลังจากนั้นคิด MLR ตลอดอายุสัญญา โดยไม่มีหลักทรัพย์เป็นประกัน
นอกจากนี้ ธนาคารยังเปิดให้บริการสินเชื่อเพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการร้าน เซเว่น-อีเลฟเว่น ในสถานีบริการน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (PTT) โดยเสนอสินเชื่อพิเศษวงเงินกู้ไม่เกิน 70% ของเงินลงทุนทั้งหมด แต่ไม่เกินจำนวนที่กำหนดมาตรฐานไว้ตามขนาดของร้าน สูงสุดถึง 3.5 ล้านบาท ระยะเวลากู้สูงสุดไม่เกิน 8 ปี อัตราดอกเบี้ยปีที่แรก MLR-2.00% ปีที่สอง MLR-1.50% ปีที่สาม MLR-1.00% หลังจากนั้นคิดอัตราดอกเบี้ย MLR ตลอดอายุสัญญา
ด้านนายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น กล่าวว่า บริษัทมีนโยบายจะขยายสาขาให้เพียงพอต่อความต้องการของผู้บริโภคโดยใช้ระบบแฟรนไชส์ เพื่อให้ผู้ประกอบการคนไทยมีโอกาสเป็นเจ้าของธุรกิจค้าปลีกสมัยใหม่ที่คุ้มค่าต่อการลงทุน โดยตั้งเป้าว่าในปี 2556 จะขยายสาขาร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น ในประเทศไทยเป็น 7,000 สาขา และเพิ่มสัดส่วนสาขาของร้านแฟรนไชซี่เป็น 59% จากปัจจุบันมีจำนวนสาขาทั้งหมด 5,3000 สาขา แบ่งเป็นสาขาของร้านแฟรนไชซี่ 47%