นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการสอบข้อร้องเรียนซื้อขายตำแหน่งนายตำรวจที่ พล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ดูแลอยู่ว่ามีคนร้องผ่านพล.ต.อ.ธานี มา ขณะนี้มีการส่งข้อมูลมาในเบื้องต้นแล้ว ตนกำลังจะดูว่าจะดำเนินการอย่างไร เบื้องต้นคิดว่าจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาดูในบางกรณีที่เห็นว่าการร้องเรียนมีสาระเพียงพอที่จะมีการสอบ
เมื่อถามว่าจะมีการรื้อโผใหม่หรือไม่ หากผลออกมามีการซื้อขายตำแหน่งจริงนายกฯ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการสอบ เมื่อถามว่าพื้นที่ไหนที่มีการร้องเรียนมากที่สุดหรือเป็น 2 พื้นที่ คือนครบาล และสถานีตำรวจภูธรภาค 2 นายกฯกล่าวว่า ภาค 2 หนักสุด ส่วนภาคนครบาลและภาคอื่นๆ ก็มีร้องเข้ามาบ้าง แต่ขณะนี้ที่ให้รายละเอียดมาเยอะสุดคือภาค 2
เมื่อถามว่ากรอบอำนาจคณะกรรมการชุดนี้คืออะไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กำลังดูคำสั่ง ซึ่งตนจะต้องดูในช้อกฎหมายด้วย และกำลังคุยกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง อยู่ด้วย เพื่อดูในข้อกฎหมายว่าจะตั้งขึ้นมาในรูปไหนอย่างไร
เมื่อถามว่าจะมีผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงคำสั่งแต่งตั้งโยกย้าย หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าถ้าสอบไปแล้วพบว่ามีความไม่ถูกต้อง ก็ต้องแก้ไข
เมื่อถามว่าได้วันนัดประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) เพื่อเลือก ผบ.ตร.คนใหม่หรือยัง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยัง แต่ตอนนี้ทำความเข้าใจกันได้ระดับหนึ่ง กำลังดูวันเวลาที่เหมาะสม เมื่อถามว่าถ้าได้ตัวผบ.ตร.คนใหม่ จะมีส่วนช่วยดูแลสถานการณ์หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า จริงๆขณะนี้พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการ ผบ.ตร. ก็ดูแลเต็มที่ เมื่อถามว่าพล.ต.อ.ปทีป มีสิทธิจะได้เป็นตัวจริงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ หัวเราะโดยไม่ได้ตอบคำถามแต่อย่างใด และลุกขึ้นทันที
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เรื่องหนังสือร้องเรียน ตนไม่เคยได้รับ ที่ร้องเรียนมาเมื่อคราวแต่งตั้งปี 2551 ที่มีเลขาฯก.พ.ดำเนินการสอบ ก็ยังสอบไม่เสร็จ
"ขนาดมีนามบัตรคุณศิริโชคมาก็ยังพิสูจน์ไม่ได้เลยว่า ลายเซ็นจริงหรือปลอม ก็ยังพิสูจน์อยู่ มันก็ยากนิดหน่อย ผมคิดว่าเราต้องช่วยกัน พยายามหาทางแก้ไขให้ได้ว่า ในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจทำอย่างไรจะให้เป็นไปตามหลักจริยธรรม คุณธรรม ตำรวจต้องเสียเงิน เสียทอง เพื่อเลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่งนั้นเป็นความ ที่อัปยศที่สุดแล้ว แต่เวลาจะเอาผิดก็ยาก แต่ก็อย่าละความพยายาม"นายสุเทพกล่าว
เมื่อถามว่า ในช่วงสูญญากาศ มีการนินทากันมากว่า ต้องจ่ายเงินระดับ 7 หลัก นายสุเทพ กล่าวว่าก็มีคนพูดอยู่เรื่อย ตนก็พยายามขอว่าตรงไหน ถ้าได้หลักฐานจังๆสักคนก็ดี แต่ก็ยังไม่เจอ แต่ก็จะพยายามถ้านายกรัฐมนตรี สั่งการมาที่ตน ตนก็จะดำเนินการตรวจสอบหาคนที่รู้ทางหนีทีไล่ดี ที่จะพยายามขุดคุ้ยออกมาดูว่าจะทำได้อย่างไร
เมื่อถามต่อว่า กับในพื้นที่นครบาลที่มักจะมีเสียงกล่าวกันว่าซื้อขายตำแหน่งกันถึงตัวเลข 7-8 หลัก ตรงนี้จะแก้ไขอย่างไรได้ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจและตนไม่กล้าปรักปรำ แต่ถ้ามีคำร้องเรียนอะไรที่เป็นหลักฐานก็จะต้องสอบสวน แต่ถ้าจะไปปรักปรำว่าตรงนั้นตรงนี้ คงไม่กล้า บางทีคนที่ฝากฝังหรือไปวิ่งเต้นแล้วไม่สำเร็จอาจจะออกมาร้องเรียนเองก็ได้ ก็ต้องดูกันไป
**"ปทีป"ไม่พบร้องเรียนซื้อตำแหน่ง
พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. กล่าวถึงเรื่องการซื้อขายตำแหน่งกรณีการแต่งตั้งรองผบก.-สว.ที่ผ่านมาว่า ถึงขณะนี้ยังไม่มีบุคคลใดร้องเรียน เรื่องการซื้อขายตำแหน่งหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้งแต่อย่างใด มีเพียงข่าวเท่านั้น ซึ่งตนยืนยันหากมีใครมาร้องเรียน ก็จะดำเนินการตรวจสอบดำเนินการให้ความเป็นธรรม แต่ตอนนี้ยังไม่มี
ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรี ตั้งพล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี มาดูแลเรื่องซื้อขายตำแหน่งนั้น ตอนนี้ตนยังไม่ทราบ และยังไม่เห็นหนังสือ
อย่างไรก็ตามถึงตอนนี้นายกรัฐมนตรี ก็ไม่ได้เรียกตนเองเข้าไปสั่งการอะไรเป็นพิเศษในเรื่องนี้ และไม่ได้สั่งการให้ไปชี้แจงเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายที่ผ่านมาแต่อย่างใด
เมื่อถามว่าจะมีการรื้อโผใหม่หรือไม่ หากผลออกมามีการซื้อขายตำแหน่งจริงนายกฯ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการสอบ เมื่อถามว่าพื้นที่ไหนที่มีการร้องเรียนมากที่สุดหรือเป็น 2 พื้นที่ คือนครบาล และสถานีตำรวจภูธรภาค 2 นายกฯกล่าวว่า ภาค 2 หนักสุด ส่วนภาคนครบาลและภาคอื่นๆ ก็มีร้องเข้ามาบ้าง แต่ขณะนี้ที่ให้รายละเอียดมาเยอะสุดคือภาค 2
เมื่อถามว่ากรอบอำนาจคณะกรรมการชุดนี้คืออะไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า กำลังดูคำสั่ง ซึ่งตนจะต้องดูในช้อกฎหมายด้วย และกำลังคุยกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง อยู่ด้วย เพื่อดูในข้อกฎหมายว่าจะตั้งขึ้นมาในรูปไหนอย่างไร
เมื่อถามว่าจะมีผลทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงคำสั่งแต่งตั้งโยกย้าย หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่าถ้าสอบไปแล้วพบว่ามีความไม่ถูกต้อง ก็ต้องแก้ไข
เมื่อถามว่าได้วันนัดประชุมคณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ (ก.ต.ช.) เพื่อเลือก ผบ.ตร.คนใหม่หรือยัง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ยัง แต่ตอนนี้ทำความเข้าใจกันได้ระดับหนึ่ง กำลังดูวันเวลาที่เหมาะสม เมื่อถามว่าถ้าได้ตัวผบ.ตร.คนใหม่ จะมีส่วนช่วยดูแลสถานการณ์หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า จริงๆขณะนี้พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รักษาการ ผบ.ตร. ก็ดูแลเต็มที่ เมื่อถามว่าพล.ต.อ.ปทีป มีสิทธิจะได้เป็นตัวจริงหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ หัวเราะโดยไม่ได้ตอบคำถามแต่อย่างใด และลุกขึ้นทันที
ด้านนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เรื่องหนังสือร้องเรียน ตนไม่เคยได้รับ ที่ร้องเรียนมาเมื่อคราวแต่งตั้งปี 2551 ที่มีเลขาฯก.พ.ดำเนินการสอบ ก็ยังสอบไม่เสร็จ
"ขนาดมีนามบัตรคุณศิริโชคมาก็ยังพิสูจน์ไม่ได้เลยว่า ลายเซ็นจริงหรือปลอม ก็ยังพิสูจน์อยู่ มันก็ยากนิดหน่อย ผมคิดว่าเราต้องช่วยกัน พยายามหาทางแก้ไขให้ได้ว่า ในการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการตำรวจทำอย่างไรจะให้เป็นไปตามหลักจริยธรรม คุณธรรม ตำรวจต้องเสียเงิน เสียทอง เพื่อเลื่อนยศ เลื่อนตำแหน่งนั้นเป็นความ ที่อัปยศที่สุดแล้ว แต่เวลาจะเอาผิดก็ยาก แต่ก็อย่าละความพยายาม"นายสุเทพกล่าว
เมื่อถามว่า ในช่วงสูญญากาศ มีการนินทากันมากว่า ต้องจ่ายเงินระดับ 7 หลัก นายสุเทพ กล่าวว่าก็มีคนพูดอยู่เรื่อย ตนก็พยายามขอว่าตรงไหน ถ้าได้หลักฐานจังๆสักคนก็ดี แต่ก็ยังไม่เจอ แต่ก็จะพยายามถ้านายกรัฐมนตรี สั่งการมาที่ตน ตนก็จะดำเนินการตรวจสอบหาคนที่รู้ทางหนีทีไล่ดี ที่จะพยายามขุดคุ้ยออกมาดูว่าจะทำได้อย่างไร
เมื่อถามต่อว่า กับในพื้นที่นครบาลที่มักจะมีเสียงกล่าวกันว่าซื้อขายตำแหน่งกันถึงตัวเลข 7-8 หลัก ตรงนี้จะแก้ไขอย่างไรได้ นายสุเทพ กล่าวว่า ตนไม่แน่ใจและตนไม่กล้าปรักปรำ แต่ถ้ามีคำร้องเรียนอะไรที่เป็นหลักฐานก็จะต้องสอบสวน แต่ถ้าจะไปปรักปรำว่าตรงนั้นตรงนี้ คงไม่กล้า บางทีคนที่ฝากฝังหรือไปวิ่งเต้นแล้วไม่สำเร็จอาจจะออกมาร้องเรียนเองก็ได้ ก็ต้องดูกันไป
**"ปทีป"ไม่พบร้องเรียนซื้อตำแหน่ง
พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ รรท.ผบ.ตร. กล่าวถึงเรื่องการซื้อขายตำแหน่งกรณีการแต่งตั้งรองผบก.-สว.ที่ผ่านมาว่า ถึงขณะนี้ยังไม่มีบุคคลใดร้องเรียน เรื่องการซื้อขายตำแหน่งหรือไม่ได้รับความเป็นธรรมในการแต่งตั้งแต่อย่างใด มีเพียงข่าวเท่านั้น ซึ่งตนยืนยันหากมีใครมาร้องเรียน ก็จะดำเนินการตรวจสอบดำเนินการให้ความเป็นธรรม แต่ตอนนี้ยังไม่มี
ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรี ตั้งพล.ต.อ.ธานี สมบูรณ์ทรัพย์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี มาดูแลเรื่องซื้อขายตำแหน่งนั้น ตอนนี้ตนยังไม่ทราบ และยังไม่เห็นหนังสือ
อย่างไรก็ตามถึงตอนนี้นายกรัฐมนตรี ก็ไม่ได้เรียกตนเองเข้าไปสั่งการอะไรเป็นพิเศษในเรื่องนี้ และไม่ได้สั่งการให้ไปชี้แจงเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายที่ผ่านมาแต่อย่างใด