ASTVผู้จัดการรายวัน- "มาร์ค" สั่งก.วิทย์ฯ เร่งพิสูจน์ประสิทธิภาพ จีที 200 เพื่อขจัดข้อสงสัย หากใช้ไม่ได้ ก็ไม่ควรใช้อีก และต้องรื้อสอบขั้นตอนจัดซื้อ ส่วนเรื่องจะมีการทุจริตหรือไม่นั้นเร็วไปที่จะพูด ย้ำต่อจากนี้ไปการจัดซื้ออุปกรณ์ ต้องผ่านการพิสูจน์ก่อน ขณะที่ผู้ใช้จากหลายหน่วยงานยืนยันประสิทธิภาพใช้ได้
วานนี้ (2 ก.พ.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการตรวจสอบเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดหรือเครื่องจีที 200 ที่กำลังมีปัญหาอยู่ในขณะนี้ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้ขอให้ทางบุคลากรที่ใช้อุปกรณ์ดังกล่าวมาชี้แจงใน ครม. โดยทุกหน่วยงานยืนยันว่า อุปกรณ์ดังกล่าวใช้ได้ มีประสิทธิภาพพอสมควร แต่ข้อมูลในส่วนวิชาการ และที่เป็นข่าวในต่างประเทศจะตรงกันข้ามกัน ครม.เห็นว่าควรจะทดสอบและพิสูจน์เรื่องนี้ให้ข้อเท็จจริงปรากฏ เพื่อที่จะดำเนินการได้อย่างเหมาะสมต่อไป จึงได้มอบให้ทางกระทรวงวิทยาศาสตร์ไปดำเนินการ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่าตนได้คุยกับรมว.วิทยาศาสตร์ฯโดยตรงว่า ให้เชิญนักวิชาการที่ทำงานด้านนี้ เพื่อที่จะมาออกแบบการทดลองเพื่อให้การพิสูจน์ประสิทธิภาพ ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์เหล่านี้เป็นที่ยอมรับได้ข้อยุติกับทุกฝ่าย รัฐบาลก็จะได้มีการตัดสินใจอย่างเหมาะสมต่อไปกับอุปกรณ์เหล่านี้ทั้งหมด
"ถ้าใช้ไม่ได้ก็ไม่ควรใช้อยู่แล้วครับ เพราะถ้าใช้ไม่ได้จริงก็จะเป็นผลเสียต่อทุกฝ่ายถ้าจะใช้จริงๆ ก็ต้องไปดูทางเลือกอย่างอื่นๆ ตัวที่เป็นที่ยอมรับกันในเรื่องของประสิทธิภาพสูงกว่า หรือเป็นที่ยอมรับในเรื่องของเทคโนโลยี ที่เป็นที่พิสูจน์แล้ว ราคาจะสูงกว่ากันประมาณ 10 เท่า"
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า ถ้าหากว่าอุปกรณ์ดังกล่าวใช้ไม่ได้ ก็ต้องย้อนกลับไปดูที่มาที่ไปอีกที แต่ว่าเฉพาะกรณี จีที มันก็มีหลายยี่ห้อในลักษณะที่คล้ายกันอยู่ เฉพาะ จีที ก็มีลูกค้าอยู่น่าจะหลายสิบประเทศ คือมีการซื้อกันค่อนข้างแพร่หลาย ทั้งตัวที่เป็น จีที และยี่ห้ออื่นๆ ของเราก็มีทั้งจีที และอัลฟ่า 6
เมื่อถามว่า จะมีการรื้อไปดูถึงขั้นตอนในการจัดซื้อจัดจ้างด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องโปร่งใสใช้ไม่ได้ ก็ต้องตรวจสอบอยู่แล้ว แต่ว่าการซื้อเท่าที่ดูจากตัวเลข ซื้อมาเมื่อประมาณปี 49 ต่อเนื่องมาจนถึงปี 53 ราคาจะแตกต่างกัน แต่ละหน่วยงานจะใช้ของไม่ตรงกันเสียทีเดียว และบางทีก็จะคนละยี่ห้อ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ปัญหาเรื่องของจีที 200 เป็นภาพสะท้อนของการใช้งบประมาณที่รั่วไหลไปกับการทุจริตด้วยหรือเปล่า นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนว่ายังเร็วเกินไปที่จะไปสรุปอะไรทำนองนั้น เราจะเห็นว่าอุปกรณ์นี้ก็มีการใช้กันอยู่หลายประเทศ และพูดตามตรงเวลา ที่ตนเดินทางไปก่อนหน้านี้หลายที่ พบกับเจ้าหน้าที่ที่ทำงานด้านยาเสพติด ก็บอกว่าใช้ได้ผล มันถึงเป็นเรื่องซึ่งต้องมีการพิสูจน์
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีนักวิชาการบางรายออกมาระบุบอกว่า มันเป็นเรื่องของพลังจิตที่เอามาใช้กับเครื่องนี้ มันไม่ใช่เรื่องวิทยาศาสตร์ มันเป็นไปได้ไหมที่หน่วยงานราชการเลือกเครื่องแบบนี้มาให้คนไปเสี่ยงกับระเบิด นายกฯ กล่าวว่า ตนถึงได้บอกผลการทดสอบที่ดีที่สุดก็คือการเทียบสถานการณ์ที่ใช้ หรือไม่ใช้อุปกรณ์นี้ ตนก็ไม่ว่าเรื่องจิตมันวิทยาศาสตร์หรือเปล่า
เมื่อถามว่า โดยส่วนตัวนายกฯมีความสงสัยหรือไม่ว่า กรณีการจัดซื้อจัดจ้างเครื่อง จีที 200 มันจะเกิดการคอรัปชั่นขึ้นในนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนยังไม่เคยดูรายละเอียดของการจัดซื้อจัดจ้างแต่ละชุด ทราบแต่เพียงว่ามีใช้ที่หน่วยไหนบ้าง
เมื่อถามว่า ทางเนคเทคได้ให้ข้อสังเกตในเรื่องเหล่านี้ ต่อไปเราจะมีมาตรการในการจัดซื้อจัดหาอุปกรณ์เหล่านี้อย่างไร นายกฯ กล่าวว่า มาตรการสำคัญที่สุดต่อไปนี้ ถ้าจะมีการซื้ออุปกรณ์ใดๆ ก็ตาม คงต้องเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว
อย่างไรก็ตาม กรณีนี้การทดลองที่ดีที่สุดคือ การจำลองสถานการณ์ และมาพิสูจน์เครื่องนี้ มีหรือไม่มี มันแตกต่างกันหรือไม่
"สิ่งแรกคือ ต้องไปเชิญผู้เกี่ยวข้องมาเพื่อออกแบบการทดลอง การพิสูจน์ที่ทุกฝ่ายจะยอมรับ เพราะถ้าหากว่าเดี๋ยวไปทดสอบฝ่ายที่เขาอ้างว่าใช้ไม่ได้ เขาจะบอกว่าการทดลองนี้ใช้ไม่ได้ เถียงกันไม่จบอีก ดีที่สุดคือการเชิญนักวิชาการมาก่อน ส่วนฝ่ายเจ้าหน้าที่ที่ยืนยันว่าใช้ได้ ถ้าเป็นการทดสอบพิสูจน์การใช้งาน ก็ต้องพร้อมที่จะให้มีการพิสูจน์ ถ้ามั่นใจว่าใช้ได้ มันก็ต้องใช้ได้"
เมื่อถามต่อว่า ทูตอังกฤษเองก็บอกว่าเขาเลิกใช้รุ่นนี้ไปนานแล้ว นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อังกฤษเองแทบไม่ได้ใช้ แต่เป็นบริษัทอังกฤษที่ส่งออก แล้วก็ถูกตรวจสอบอยู่ในขณะนี้
เมื่อถามว่างบประมาณที่ใช้ไปแล้วในการจัดซื้อเครื่องนี้เป็นเท่าไร นายกฯ กล่าวว่าประมาณ 700 กว่าเครื่อง ราคาที่ซื้อใหม่สุด อัลฟ่า 6 เครื่องละ 3 แสนบาท ที่ซื้อสูงสุดไปเครื่องละ 120,000 บาท ก็จะมีตั้งแต่ 120,000 ,900,000,700,000 และ 300,000 บาท เรื่องของความโปร่งใสในการจัดซื้อ ตนว่าเอากันทีละขั้นก่อน เอาเรื่องการพิสูจน์ก่อน แล้วจะไปไล่ดูขอซื้อแต่ละช่วงการจัดซื้อจัดจ้างเป็นอย่างไร
เมื่อถามต่อว่าต้องมาเถียงกันอีกหรือไม่กับที่ว่า ใช้ได้กับใช้ยาก จะเอาอย่างไหน นายกฯ กล่าวว่า ไม่ครับ เวลาทดลองเราก็ต้องให้เจ้าหน้าที่ที่ได้รับการฝึกในการใช้เครื่องนี้แล้วไปทดลอง จะได้ไม่มีปัญหามาบอกว่า ใช้ไม่ได้เพราะตัวบุคคลไม่เชี่ยวชาญ
เมื่อถามว่า ทางกองทัพเองจะดึงดันไหมถ้าเขายอมรับเท่ากับเขาจัดซื้อผิด นายกฯ กล่าวว่า คิดว่าอย่าเพิ่งไปพูดว่าเขาจัดซื้อผิด หรือไม่ผิด เราพูดถึงว่า ใช้ได้หรือไม่ได้ หากใช้ไม่ได้ต้องย้อนกลับไปว่า การจัดซื้อจัดจ้างที่ผ่านมามันทำถูกต้องตามระเบียบหรือไม่ มีเหตุผลเพียงพอหรือไม่ เพราะเราก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกคน คือบางทีเรามารู้อะไรที่หลังเราก็กลับไปตัดสินย้อนกลับไป เราก็ต้องนึกถึงว่า ในสถานการณ์นั้นเขารู้อะไรบ้างแค่ไหนอย่างไร
เมื่อถามต่อว่า เรื่องที่เกิดขึ้นกระทบต่อขวัญกำลังใจที่เขาปฏิบัติงานและต้องใช้เครื่องมือนี้หรือเปล่า นายกฯ กล่าวว่า ก็มีส่วน เพราะมันถูกตั้งคำถามว่าเครื่องนี้ช่วยเขาได้จริงหรือเปล่า แต่ในเมื่อผู้ปฏิบัติส่วนใหญ่เขายืนยันว่าใช้ได้ เขาก็ต้องมั่นใจตรงนั้น
เมื่อถามว่า ความแตกต่างระหว่างเครื่องอัลฟา 6 กับเครื่อง จีที 200 มีความแตกต่างอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เครื่องอัลฟา 6 มีพลังงานในตัว ซึ่งกระทรวงมหาดไทย และสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) มีการสั่งซื้อ ขณะนี้ไทยสั่งซื้อเครื่องทั้ง 2ชนิด มาใช้ในไทย
**ชี้ทีจี 200 เจ๋งกว่าสุนัขดมกลิ่น
นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ที่ประชุมครม. ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการใช้เครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด จีที 200 ทั้งกระทรวงยุติธรรม มหาดไทย รวมถึงเจ้าหน้าที่ทหาร มาสอบถามถึงประสิทธิภาพการใช้งาน เพื่อเปรียบเทียบการใช้งานกับประเทศต่าง ๆ ซึ่งตัวแทนทุกหน่วยงานยืนยันว่า พอใจการใช้เครื่องจีที 200 โดยปัญหาที่พบส่วนใหญ่ มาจากตัวบุคคลผู้ใช้งาน
สำหรับเครื่องจีที 200 จัดซื้อมาในปี 2549 ส่วนใหญ่ใช้ในราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยขณะนี้มีอีกกว่า 10 ประเทศใช้เครื่องดังกล่าวด้วย เช่น อัฟกานิสถาน อิรัก ประเทศต่างๆ ในทวีปเอเชีย และบางประเทศในทวีปยุโรป ซึ่งแตกต่างจากประเทศพัฒนาแล้ว ที่ส่วนใหญ่ใช้เครื่องที่ราคาแพงกว่าเครื่องจีที 200 เกือบ 10 เท่า ที่มีความแม่นยำมากกว่า แต่สาเหตุที่ประเทศไทยใช้จีที 200 เพราะมีความคล่องตัวมากกว่า เนื่องจากมีขนาดเล็ก โดยมีข้อสังเกตว่าหลังใช้เครื่องจีที 200 สถานการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ ดีขึ้น เมื่อเทียบกับการใช้สุนัขดมกลิ่น เนื่องจากการใช้สุนัขจะเกิดปัญหายามเข้าไปตรวจค้นในที่ศาสนสถาน
อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบประสิทธิภาพเครื่องจีที 200 จะต้องเปรียบเทียบกับ ระหว่างมีหรือไม่ ใช้จีที 200 กับใช้สุนัข อะไรได้ผลดีกว่ากัน โดยอาจใช้วิธีจำลองสถานการณ์ในห้องแล็บ
**พรรคร่วมรุมโขยก จีที 200
แหล่งข่าวในที่ประชุมครม. เปิดเผยว่า พล.ท.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รอง เสธ.ทบ. พล.ท.เอกชัย วัชรประทีป เจ้ากรมสรรพาวุธ ทบ. และตัวแทนจากกรมการทหารช่าง เข้าชี้แจงเกี่ยวกับประสิทธิภาพของ จีที200 โดยคณะนายทหารที่มาชี้แจงยืนยันว่า สามารถใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากการตรวจสอบ 236เหตุการณ์ สามารถตรวจพบสูงถึง173 เหตุการณ์ แบ่งเป็น ตรวจพบอาวุธ 69 ครั้ง ยาเสพติด 63 ครั้ง และระเบิด 41 ครั้ง ส่วนข้อสงสัยว่าประเทศที่ร่ำรวยไม่ได้ใช้เครื่องจีที 200 แต่ใช้เครื่อง ไฟโด ที่มีราคากว่า4 ล้านบาทนั้น เครื่องดังกล่าวประเทศไทย ก็มีการใช้เหมือนกัน โดยใช้ในขั้นตอนการพิสูจน์ เท่านั้น
ขณะที่ นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน ซักถามว่าเครื่องจีที200 และสุนัขตรวจสอบ อย่างใดมีประสิทธิภาพกว่ากัน โดยเจ้าหน้าที่ที่มาชี้แจงระบุว่า หากเปรียบเทียบราคา สุนัขจะแพงกว่าเนื่องจากต้องใช้เวลาฝึก และเลี้ยง การทำงานก็ทำได้เพียง 2 ชั่วโมงต้องหยุดพักและตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยได้เพียงระยะใกล้เท่านั้น แต่เครื่องจีที 200 ตรวสอบได้ในระยะไกล แต่ในบางงานก็มีการใช้สุนัขและจีทีพร้อมกัน
อย่างไรก็ดีกระทรวงฯ ที่ได้นำเครื่องจีทีไปใช้ ก็ได้ช่วยยืนยันในประสิทธิภาพ โดยนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย และนายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม ระบุว่าเจ้าหน้าที่ที่ใช้เครื่อง ยืนยันสามารถนำไปใช้ได้จริง อีกทั้งพ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ก็ยืนยัน และเคยนำไปใช้ในหตุตรวจซากไฟไหม้ที่ซานติก้าผับ เมื่อต้นปี 52
จากนั้นนายกฯแจ้งว่าจากข้อมูลทางวิชาการและข้อมูลในต่างประเทศ ระบุเครื่องจีที 200 ที่ใช้ในการตรวจสอบ ไม่สามารถใช้การได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่หน่วยงานความมั่นคงของไทยได้ใช้ จีที 200 ในหลายหน่วยงาน จึงควรมีการพิสูจน์ในแนวทางที่ทุกฝ่ายยอมรับได้ จึงขอมอบหมายให้กระทรวงวิทยาศาสตร์พิสูจน์โดยเร็ว
วานนี้ (2 ก.พ.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการตรวจสอบเครื่องตรวจจับวัตถุระเบิดหรือเครื่องจีที 200 ที่กำลังมีปัญหาอยู่ในขณะนี้ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ได้ขอให้ทางบุคลากรที่ใช้อุปกรณ์ดังกล่าวมาชี้แจงใน ครม. โดยทุกหน่วยงานยืนยันว่า อุปกรณ์ดังกล่าวใช้ได้ มีประสิทธิภาพพอสมควร แต่ข้อมูลในส่วนวิชาการ และที่เป็นข่าวในต่างประเทศจะตรงกันข้ามกัน ครม.เห็นว่าควรจะทดสอบและพิสูจน์เรื่องนี้ให้ข้อเท็จจริงปรากฏ เพื่อที่จะดำเนินการได้อย่างเหมาะสมต่อไป จึงได้มอบให้ทางกระทรวงวิทยาศาสตร์ไปดำเนินการ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่าตนได้คุยกับรมว.วิทยาศาสตร์ฯโดยตรงว่า ให้เชิญนักวิชาการที่ทำงานด้านนี้ เพื่อที่จะมาออกแบบการทดลองเพื่อให้การพิสูจน์ประสิทธิภาพ ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์เหล่านี้เป็นที่ยอมรับได้ข้อยุติกับทุกฝ่าย รัฐบาลก็จะได้มีการตัดสินใจอย่างเหมาะสมต่อไปกับอุปกรณ์เหล่านี้ทั้งหมด
"ถ้าใช้ไม่ได้ก็ไม่ควรใช้อยู่แล้วครับ เพราะถ้าใช้ไม่ได้จริงก็จะเป็นผลเสียต่อทุกฝ่ายถ้าจะใช้จริงๆ ก็ต้องไปดูทางเลือกอย่างอื่นๆ ตัวที่เป็นที่ยอมรับกันในเรื่องของประสิทธิภาพสูงกว่า หรือเป็นที่ยอมรับในเรื่องของเทคโนโลยี ที่เป็นที่พิสูจน์แล้ว ราคาจะสูงกว่ากันประมาณ 10 เท่า"
นายอภิสิทธิ์ กล่าวด้วยว่า ถ้าหากว่าอุปกรณ์ดังกล่าวใช้ไม่ได้ ก็ต้องย้อนกลับไปดูที่มาที่ไปอีกที แต่ว่าเฉพาะกรณี จีที มันก็มีหลายยี่ห้อในลักษณะที่คล้ายกันอยู่ เฉพาะ จีที ก็มีลูกค้าอยู่น่าจะหลายสิบประเทศ คือมีการซื้อกันค่อนข้างแพร่หลาย ทั้งตัวที่เป็น จีที และยี่ห้ออื่นๆ ของเราก็มีทั้งจีที และอัลฟ่า 6
เมื่อถามว่า จะมีการรื้อไปดูถึงขั้นตอนในการจัดซื้อจัดจ้างด้วยหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เรื่องโปร่งใสใช้ไม่ได้ ก็ต้องตรวจสอบอยู่แล้ว แต่ว่าการซื้อเท่าที่ดูจากตัวเลข ซื้อมาเมื่อประมาณปี 49 ต่อเนื่องมาจนถึงปี 53 ราคาจะแตกต่างกัน แต่ละหน่วยงานจะใช้ของไม่ตรงกันเสียทีเดียว และบางทีก็จะคนละยี่ห้อ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ปัญหาเรื่องของจีที 200 เป็นภาพสะท้อนของการใช้งบประมาณที่รั่วไหลไปกับการทุจริตด้วยหรือเปล่า นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนว่ายังเร็วเกินไปที่จะไปสรุปอะไรทำนองนั้น เราจะเห็นว่าอุปกรณ์นี้ก็มีการใช้กันอยู่หลายประเทศ และพูดตามตรงเวลา ที่ตนเดินทางไปก่อนหน้านี้หลายที่ พบกับเจ้าหน้าที่ที่ทำงานด้านยาเสพติด ก็บอกว่าใช้ได้ผล มันถึงเป็นเรื่องซึ่งต้องมีการพิสูจน์
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีนักวิชาการบางรายออกมาระบุบอกว่า มันเป็นเรื่องของพลังจิตที่เอามาใช้กับเครื่องนี้ มันไม่ใช่เรื่องวิทยาศาสตร์ มันเป็นไปได้ไหมที่หน่วยงานราชการเลือกเครื่องแบบนี้มาให้คนไปเสี่ยงกับระเบิด นายกฯ กล่าวว่า ตนถึงได้บอกผลการทดสอบที่ดีที่สุดก็คือการเทียบสถานการณ์ที่ใช้ หรือไม่ใช้อุปกรณ์นี้ ตนก็ไม่ว่าเรื่องจิตมันวิทยาศาสตร์หรือเปล่า
เมื่อถามว่า โดยส่วนตัวนายกฯมีความสงสัยหรือไม่ว่า กรณีการจัดซื้อจัดจ้างเครื่อง จีที 200 มันจะเกิดการคอรัปชั่นขึ้นในนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนยังไม่เคยดูรายละเอียดของการจัดซื้อจัดจ้างแต่ละชุด ทราบแต่เพียงว่ามีใช้ที่หน่วยไหนบ้าง
เมื่อถามว่า ทางเนคเทคได้ให้ข้อสังเกตในเรื่องเหล่านี้ ต่อไปเราจะมีมาตรการในการจัดซื้อจัดหาอุปกรณ์เหล่านี้อย่างไร นายกฯ กล่าวว่า มาตรการสำคัญที่สุดต่อไปนี้ ถ้าจะมีการซื้ออุปกรณ์ใดๆ ก็ตาม คงต้องเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว
อย่างไรก็ตาม กรณีนี้การทดลองที่ดีที่สุดคือ การจำลองสถานการณ์ และมาพิสูจน์เครื่องนี้ มีหรือไม่มี มันแตกต่างกันหรือไม่
"สิ่งแรกคือ ต้องไปเชิญผู้เกี่ยวข้องมาเพื่อออกแบบการทดลอง การพิสูจน์ที่ทุกฝ่ายจะยอมรับ เพราะถ้าหากว่าเดี๋ยวไปทดสอบฝ่ายที่เขาอ้างว่าใช้ไม่ได้ เขาจะบอกว่าการทดลองนี้ใช้ไม่ได้ เถียงกันไม่จบอีก ดีที่สุดคือการเชิญนักวิชาการมาก่อน ส่วนฝ่ายเจ้าหน้าที่ที่ยืนยันว่าใช้ได้ ถ้าเป็นการทดสอบพิสูจน์การใช้งาน ก็ต้องพร้อมที่จะให้มีการพิสูจน์ ถ้ามั่นใจว่าใช้ได้ มันก็ต้องใช้ได้"
เมื่อถามต่อว่า ทูตอังกฤษเองก็บอกว่าเขาเลิกใช้รุ่นนี้ไปนานแล้ว นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า อังกฤษเองแทบไม่ได้ใช้ แต่เป็นบริษัทอังกฤษที่ส่งออก แล้วก็ถูกตรวจสอบอยู่ในขณะนี้
เมื่อถามว่างบประมาณที่ใช้ไปแล้วในการจัดซื้อเครื่องนี้เป็นเท่าไร นายกฯ กล่าวว่าประมาณ 700 กว่าเครื่อง ราคาที่ซื้อใหม่สุด อัลฟ่า 6 เครื่องละ 3 แสนบาท ที่ซื้อสูงสุดไปเครื่องละ 120,000 บาท ก็จะมีตั้งแต่ 120,000 ,900,000,700,000 และ 300,000 บาท เรื่องของความโปร่งใสในการจัดซื้อ ตนว่าเอากันทีละขั้นก่อน เอาเรื่องการพิสูจน์ก่อน แล้วจะไปไล่ดูขอซื้อแต่ละช่วงการจัดซื้อจัดจ้างเป็นอย่างไร
เมื่อถามต่อว่าต้องมาเถียงกันอีกหรือไม่กับที่ว่า ใช้ได้กับใช้ยาก จะเอาอย่างไหน นายกฯ กล่าวว่า ไม่ครับ เวลาทดลองเราก็ต้องให้เจ้าหน้าที่ที่ได้รับการฝึกในการใช้เครื่องนี้แล้วไปทดลอง จะได้ไม่มีปัญหามาบอกว่า ใช้ไม่ได้เพราะตัวบุคคลไม่เชี่ยวชาญ
เมื่อถามว่า ทางกองทัพเองจะดึงดันไหมถ้าเขายอมรับเท่ากับเขาจัดซื้อผิด นายกฯ กล่าวว่า คิดว่าอย่าเพิ่งไปพูดว่าเขาจัดซื้อผิด หรือไม่ผิด เราพูดถึงว่า ใช้ได้หรือไม่ได้ หากใช้ไม่ได้ต้องย้อนกลับไปว่า การจัดซื้อจัดจ้างที่ผ่านมามันทำถูกต้องตามระเบียบหรือไม่ มีเหตุผลเพียงพอหรือไม่ เพราะเราก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกคน คือบางทีเรามารู้อะไรที่หลังเราก็กลับไปตัดสินย้อนกลับไป เราก็ต้องนึกถึงว่า ในสถานการณ์นั้นเขารู้อะไรบ้างแค่ไหนอย่างไร
เมื่อถามต่อว่า เรื่องที่เกิดขึ้นกระทบต่อขวัญกำลังใจที่เขาปฏิบัติงานและต้องใช้เครื่องมือนี้หรือเปล่า นายกฯ กล่าวว่า ก็มีส่วน เพราะมันถูกตั้งคำถามว่าเครื่องนี้ช่วยเขาได้จริงหรือเปล่า แต่ในเมื่อผู้ปฏิบัติส่วนใหญ่เขายืนยันว่าใช้ได้ เขาก็ต้องมั่นใจตรงนั้น
เมื่อถามว่า ความแตกต่างระหว่างเครื่องอัลฟา 6 กับเครื่อง จีที 200 มีความแตกต่างอย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เครื่องอัลฟา 6 มีพลังงานในตัว ซึ่งกระทรวงมหาดไทย และสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ปปส.) มีการสั่งซื้อ ขณะนี้ไทยสั่งซื้อเครื่องทั้ง 2ชนิด มาใช้ในไทย
**ชี้ทีจี 200 เจ๋งกว่าสุนัขดมกลิ่น
นายปณิธาน วัฒนายากร รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ที่ประชุมครม. ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการใช้เครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด จีที 200 ทั้งกระทรวงยุติธรรม มหาดไทย รวมถึงเจ้าหน้าที่ทหาร มาสอบถามถึงประสิทธิภาพการใช้งาน เพื่อเปรียบเทียบการใช้งานกับประเทศต่าง ๆ ซึ่งตัวแทนทุกหน่วยงานยืนยันว่า พอใจการใช้เครื่องจีที 200 โดยปัญหาที่พบส่วนใหญ่ มาจากตัวบุคคลผู้ใช้งาน
สำหรับเครื่องจีที 200 จัดซื้อมาในปี 2549 ส่วนใหญ่ใช้ในราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยขณะนี้มีอีกกว่า 10 ประเทศใช้เครื่องดังกล่าวด้วย เช่น อัฟกานิสถาน อิรัก ประเทศต่างๆ ในทวีปเอเชีย และบางประเทศในทวีปยุโรป ซึ่งแตกต่างจากประเทศพัฒนาแล้ว ที่ส่วนใหญ่ใช้เครื่องที่ราคาแพงกว่าเครื่องจีที 200 เกือบ 10 เท่า ที่มีความแม่นยำมากกว่า แต่สาเหตุที่ประเทศไทยใช้จีที 200 เพราะมีความคล่องตัวมากกว่า เนื่องจากมีขนาดเล็ก โดยมีข้อสังเกตว่าหลังใช้เครื่องจีที 200 สถานการณ์ความไม่สงบในภาคใต้ ดีขึ้น เมื่อเทียบกับการใช้สุนัขดมกลิ่น เนื่องจากการใช้สุนัขจะเกิดปัญหายามเข้าไปตรวจค้นในที่ศาสนสถาน
อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบประสิทธิภาพเครื่องจีที 200 จะต้องเปรียบเทียบกับ ระหว่างมีหรือไม่ ใช้จีที 200 กับใช้สุนัข อะไรได้ผลดีกว่ากัน โดยอาจใช้วิธีจำลองสถานการณ์ในห้องแล็บ
**พรรคร่วมรุมโขยก จีที 200
แหล่งข่าวในที่ประชุมครม. เปิดเผยว่า พล.ท.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รอง เสธ.ทบ. พล.ท.เอกชัย วัชรประทีป เจ้ากรมสรรพาวุธ ทบ. และตัวแทนจากกรมการทหารช่าง เข้าชี้แจงเกี่ยวกับประสิทธิภาพของ จีที200 โดยคณะนายทหารที่มาชี้แจงยืนยันว่า สามารถใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จากการตรวจสอบ 236เหตุการณ์ สามารถตรวจพบสูงถึง173 เหตุการณ์ แบ่งเป็น ตรวจพบอาวุธ 69 ครั้ง ยาเสพติด 63 ครั้ง และระเบิด 41 ครั้ง ส่วนข้อสงสัยว่าประเทศที่ร่ำรวยไม่ได้ใช้เครื่องจีที 200 แต่ใช้เครื่อง ไฟโด ที่มีราคากว่า4 ล้านบาทนั้น เครื่องดังกล่าวประเทศไทย ก็มีการใช้เหมือนกัน โดยใช้ในขั้นตอนการพิสูจน์ เท่านั้น
ขณะที่ นพ.วรรณรัตน์ ชาญนุกูล รมว.พลังงาน ซักถามว่าเครื่องจีที200 และสุนัขตรวจสอบ อย่างใดมีประสิทธิภาพกว่ากัน โดยเจ้าหน้าที่ที่มาชี้แจงระบุว่า หากเปรียบเทียบราคา สุนัขจะแพงกว่าเนื่องจากต้องใช้เวลาฝึก และเลี้ยง การทำงานก็ทำได้เพียง 2 ชั่วโมงต้องหยุดพักและตรวจสอบวัตถุต้องสงสัยได้เพียงระยะใกล้เท่านั้น แต่เครื่องจีที 200 ตรวสอบได้ในระยะไกล แต่ในบางงานก็มีการใช้สุนัขและจีทีพร้อมกัน
อย่างไรก็ดีกระทรวงฯ ที่ได้นำเครื่องจีทีไปใช้ ก็ได้ช่วยยืนยันในประสิทธิภาพ โดยนายบุญจง วงศ์ไตรรัตน์ รมช.มหาดไทย และนายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค รมว.ยุติธรรม ระบุว่าเจ้าหน้าที่ที่ใช้เครื่อง ยืนยันสามารถนำไปใช้ได้จริง อีกทั้งพ.ญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ก็ยืนยัน และเคยนำไปใช้ในหตุตรวจซากไฟไหม้ที่ซานติก้าผับ เมื่อต้นปี 52
จากนั้นนายกฯแจ้งว่าจากข้อมูลทางวิชาการและข้อมูลในต่างประเทศ ระบุเครื่องจีที 200 ที่ใช้ในการตรวจสอบ ไม่สามารถใช้การได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่หน่วยงานความมั่นคงของไทยได้ใช้ จีที 200 ในหลายหน่วยงาน จึงควรมีการพิสูจน์ในแนวทางที่ทุกฝ่ายยอมรับได้ จึงขอมอบหมายให้กระทรวงวิทยาศาสตร์พิสูจน์โดยเร็ว
