00 น่าจะเป็นไปตามคำพูดของนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ยอมรับว่าในช่วง 1-2 เดือนนี้ เป็นช่วงที่หนักหน่อย เพราะแต่ละฝ่ายมีการเคลื่อนไหวกันหนัก เท่าที่เห็นก็มี “เสื้อแดง” ของทักษิณ ชินวัตร เริ่มเปิดเกมโหมโรงกันมาตั้งแต่ต้นปี เน้นเฉพาะเป้าหมายหลัก เช่น องคมนตรี และ กองทัพ ขณะที่ในพรรคร่วมรัฐบาลก็ถือโอกาสสร้างสถานการณ์ต่อรอง ด้วยการผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้ตัวเองได้ประโยชน์ในการเลือกตั้งคราวหน้า และล่าสุดยังรวมไปถึงการขู่ฆ่าผู้พิพากษา และองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้องกับคดีที่สร้างผลกระทบให้กับทักษิณ โดยตรง เช่น คตส. , ป.ป.ช. เป็นหลัก
00 แต่การเคลื่อนไหวกดดันทั้งหลายทั้งปวงล้วนมุ่งไปสู่สถานการณ์ก่อนและหลังการพิพากษาคดียึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาท ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ กำหนดวันชี้ขาดในวันที่ 26 ก.พ.นี้ ยิ่งใกล้วันเข้ามามากเท่าไร ก็ยิ่งขย่มหนักข้อ เล่นทั้งใต้ดินบนดิน ทางหนึ่งกำลังส่งเครือญาติที่เคยทำงานอยู่ในวงการยุติธรรม เดินเคาะประตูล็อบบี้กันอย่างถึงพริงถึงขิง ถ้ายังจำเรื่อง “ถุงขนม” กันได้ แต่คราวนี้ว่ากันว่าจะพยายามใส่ถุงถึงมือกันเป็น “พันล้าน” เล่นกันเรื่องจำนวนเงินให้รบกวนสมาธิกันไปเลย
00 ขณะที่ในทางเปิดเผยก็ใช้วิธีปล่อยข่าว “ข่มขู่แบบมุมกลับ” ของ“เสธ.แดง” พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล คือใช้วิธีอ้างว่าได้ข่าวมาว่าจะมีการลอบฆ่า ผู้พิพากษา และองค์อิสระดังกล่าว พร้อมเตือนว่าให้ระวังตัว ทำเป็นพูดเหมือนกับหวังดี แต่เป็นการหวังดีประสงค์ร้าย เพราะนี่คือการขู่ทางอ้อม หวังผลทางด้านจิตวิทยา ที่สำคัญคือหวังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงต่อคำพิพากษาที่จะออกมาในอนาคตหรือไม่
00 วิรัช ชินวินิจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ก็ยังเชื่อว่าการปล่อยข่าวลอบฆ่าผู้พิพากษาดังกล่าว เพื่อหวังผลทางคดียึดทรัพย์ และได้มีการประสานงานไปยังหน่วยงานความปลอดภัยมาช่วยรักษาความปลอดภัยองค์คณะผู้พิพากษาเพื่อความไม่ประมาทแล้ว
00 ข่าวลือปฏิวัติก็ยังมีออกมาต่อเนื่อง ก็ว่ากันไป แล้วแต่ว่าใครจะได้ข้อมูลมาแบบไหน และเชื่อหรือไม่ แต่ถึงอย่างไรก็ให้ดูมาตรฐานการยึดอำนาจครั้งหลังสุดของทหารคณะ คมช. ที่ทำแล้วเสียของ“หน่อมแน้ม” ทำให้ประเทศเสียหาย เป็นการลงทุนที่เสียเปล่า ประเภทมีอำนาจแล้วบริหารไม่เป็น ดังนั้นทางที่ดีขอเรียกร้องให้ทหารทำหน้าที่ตามที่ปฏิญาณเอาไว้ให้ได้คือ “ชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์ และประชาชน” ถ้าทำกันอย่างจริงจังบ้านเมืองก็ไปได้ อย่ามัวแต่ตบเท้าปกป้อง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เพียงคนเดียวเท่านั้น !!
00 แต่รายนี้ซิถือว่าเข้าขั้นสติแตก จนควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่เข้าไปทุกทีแล้ว วันก่อนบอกว่า ถ้าแพ้ศาลไทยก็จะเอาเรื่องไปฟ้องศาลโลก พูดแบบนี้ไม่รู้ว่าพูดจริงหรือพูดเล่น หรือพูดเรื่อยเปื่อย เพื่อปลุกระดมสาวกเท่านั้น เพราะถ้าพูดจริงก็แสดงให้เห็นว่า ทักษิณ นี่มันโง่เง่าสิ้นดี ในคดีศาลโลกหากเป็นไปได้ก็อาจมีอยู่คดีเดียวก็คือเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน “ฆ่าตัดตอน” 2,500 ศพ นั่นแหละที่คนหน้าเหลี่ยมมีสิทธิ์จะได้เห็น
00 ล่าสุด ออกมาพูดผ่านวิดีโอลิงก์เวทีเสื้อแดง บอกว่าที่เปรียบทหารเหมือน“แตงโม” ว่าข้างนอกเป็นสีเขียว แต่ข้างในเป็นสีแดง และทหารส่วนใหญ่เป็นสีแดงนั้น และยังเปรียบเทียบอีกว่า ยังมีเขียวอีกบางจำพวก ที่เขียวไม่เป็นสัปปะรด ข้างนอกเขียวแต่ข้างในเป็นสีเหลืองนั้น ก็อยากจะบอกว่า แตงโมเดี๋ยวนี้ข้างในเป็นสีเหลืองก็มีถมไป แถมยังราคาดีอีกต่างหาก ขณะที่สัปปะรดนั้นแม้ข้างนอกจะเป็นสีอะไรก็ตาม แต่ก็มี “ตา” อยู่รอบตัว !!
00 แต่การเคลื่อนไหวกดดันทั้งหลายทั้งปวงล้วนมุ่งไปสู่สถานการณ์ก่อนและหลังการพิพากษาคดียึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาท ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาฯ กำหนดวันชี้ขาดในวันที่ 26 ก.พ.นี้ ยิ่งใกล้วันเข้ามามากเท่าไร ก็ยิ่งขย่มหนักข้อ เล่นทั้งใต้ดินบนดิน ทางหนึ่งกำลังส่งเครือญาติที่เคยทำงานอยู่ในวงการยุติธรรม เดินเคาะประตูล็อบบี้กันอย่างถึงพริงถึงขิง ถ้ายังจำเรื่อง “ถุงขนม” กันได้ แต่คราวนี้ว่ากันว่าจะพยายามใส่ถุงถึงมือกันเป็น “พันล้าน” เล่นกันเรื่องจำนวนเงินให้รบกวนสมาธิกันไปเลย
00 ขณะที่ในทางเปิดเผยก็ใช้วิธีปล่อยข่าว “ข่มขู่แบบมุมกลับ” ของ“เสธ.แดง” พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล คือใช้วิธีอ้างว่าได้ข่าวมาว่าจะมีการลอบฆ่า ผู้พิพากษา และองค์อิสระดังกล่าว พร้อมเตือนว่าให้ระวังตัว ทำเป็นพูดเหมือนกับหวังดี แต่เป็นการหวังดีประสงค์ร้าย เพราะนี่คือการขู่ทางอ้อม หวังผลทางด้านจิตวิทยา ที่สำคัญคือหวังผลให้มีการเปลี่ยนแปลงต่อคำพิพากษาที่จะออกมาในอนาคตหรือไม่
00 วิรัช ชินวินิจกุล เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ก็ยังเชื่อว่าการปล่อยข่าวลอบฆ่าผู้พิพากษาดังกล่าว เพื่อหวังผลทางคดียึดทรัพย์ และได้มีการประสานงานไปยังหน่วยงานความปลอดภัยมาช่วยรักษาความปลอดภัยองค์คณะผู้พิพากษาเพื่อความไม่ประมาทแล้ว
00 ข่าวลือปฏิวัติก็ยังมีออกมาต่อเนื่อง ก็ว่ากันไป แล้วแต่ว่าใครจะได้ข้อมูลมาแบบไหน และเชื่อหรือไม่ แต่ถึงอย่างไรก็ให้ดูมาตรฐานการยึดอำนาจครั้งหลังสุดของทหารคณะ คมช. ที่ทำแล้วเสียของ“หน่อมแน้ม” ทำให้ประเทศเสียหาย เป็นการลงทุนที่เสียเปล่า ประเภทมีอำนาจแล้วบริหารไม่เป็น ดังนั้นทางที่ดีขอเรียกร้องให้ทหารทำหน้าที่ตามที่ปฏิญาณเอาไว้ให้ได้คือ “ชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์ และประชาชน” ถ้าทำกันอย่างจริงจังบ้านเมืองก็ไปได้ อย่ามัวแต่ตบเท้าปกป้อง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา เพียงคนเดียวเท่านั้น !!
00 แต่รายนี้ซิถือว่าเข้าขั้นสติแตก จนควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่เข้าไปทุกทีแล้ว วันก่อนบอกว่า ถ้าแพ้ศาลไทยก็จะเอาเรื่องไปฟ้องศาลโลก พูดแบบนี้ไม่รู้ว่าพูดจริงหรือพูดเล่น หรือพูดเรื่อยเปื่อย เพื่อปลุกระดมสาวกเท่านั้น เพราะถ้าพูดจริงก็แสดงให้เห็นว่า ทักษิณ นี่มันโง่เง่าสิ้นดี ในคดีศาลโลกหากเป็นไปได้ก็อาจมีอยู่คดีเดียวก็คือเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน “ฆ่าตัดตอน” 2,500 ศพ นั่นแหละที่คนหน้าเหลี่ยมมีสิทธิ์จะได้เห็น
00 ล่าสุด ออกมาพูดผ่านวิดีโอลิงก์เวทีเสื้อแดง บอกว่าที่เปรียบทหารเหมือน“แตงโม” ว่าข้างนอกเป็นสีเขียว แต่ข้างในเป็นสีแดง และทหารส่วนใหญ่เป็นสีแดงนั้น และยังเปรียบเทียบอีกว่า ยังมีเขียวอีกบางจำพวก ที่เขียวไม่เป็นสัปปะรด ข้างนอกเขียวแต่ข้างในเป็นสีเหลืองนั้น ก็อยากจะบอกว่า แตงโมเดี๋ยวนี้ข้างในเป็นสีเหลืองก็มีถมไป แถมยังราคาดีอีกต่างหาก ขณะที่สัปปะรดนั้นแม้ข้างนอกจะเป็นสีอะไรก็ตาม แต่ก็มี “ตา” อยู่รอบตัว !!
