xs
xsm
sm
md
lg

"3บิ๊ก"ขู่เสื้อแดงถ่อย บุกบก.ทบ.เจอปราบ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - 3 บิ๊กฝ่ายความมั่นคง "สุเทพ-ประวิตร-อนุพงษ์" ประสานเสียงยันไม่น่าห่วงกลุ่มเสื้อแดงชุมนุมหน้า บก.ทบ.ถามเรื่องปฏิวัติ ลั่นจัดการขั้นเด็ดขาด "หากฝ่าฝืนหรือใช้ความรุนแรงก็ต้องใช้กฎหมายเข้ามาจัดการ" ขณะที่นครบาลวางกำลังเข้มรับมือ แดงเชียงใหม่เลื่อนชุมนุมอ้าง นปช.ส่วนกลางไม่พร้อม ส่วนแดงกาฬสินธุ์ปูดบิ๊กเสือรุกที่สาธารณะ


วานนี้ (28 ม.ค.) นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง กล่าวถึงการที่กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) หรือกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะรวมตัวหน้ากองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) เพื่อเพื่อสอบถามความชัดเจนเรื่องการปฏิวัติในวันนี้ (29 ม.ค.) ว่า รัฐบาลยังคงใช้มาตรการปกติให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลความสงบเรียบร้อย หากการชุมนุมเป็นไปอย่างสงบ แต่หากฝ่าฝืน หรือใช้ความรุนแรงก็ต้องใช้กฎหมายเข้ามาจัดการ แต่ทั้งนี้ จะประเมินสถานการณ์เป็นระยะ ซึ่งได้ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) ทำหนังสืออนุมัติไว้แล้ว และไม่เป็นห่วงว่า มือที่สามจะเข้ามาสร้างสถานการณ์ แต่ห่วงการกระทำของกลุ่มคนเสื้อแดงมากกว่า แต่อย่างไรก็ตาม ตนยืนยันว่ารัฐบาลสามารถดูแลสถานการณ์ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวในเรื่องเดียวกันว่า ที่ผ่านมาผู้บังคับบัญชาระดับสูงยืนยันแล้วว่าไม่มีปฏิวัติ ประชาชนไม่ต้องตระหนก แต่ยอมรับว่ากระแสข่าวปฏิวัติไม่เป็นผลดีต่อภาพรวมของประเทศ อย่างไรก็ตาม นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ไม่ได้ฝากให้ดูแลอะไรเป็นพิเศษช่วงที่ไปร่วมประชุม World Economic Forum ที่เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ ระหว่างวันที่ 29-31 ม.ค.นี้

“ไม่น่าจะมีปัญหา หรือสถานการณ์บานปลาย ซึ่งกลุ่มคนเสื้อแดงคงมารวมตัวเพื่อทวงถามข้อสงสัยเท่านั้น แต่กองทัพก็ต้องทำตามกฎหมาย ระเบียบ และขั้นตอนที่ถูกต้องหากมีการชุมนุมอะไร แต่ก็เชื่อว่าสถานการณ์จะไม่บานปลาย” พล.อ.ประวิตร กล่าว

ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ก่อนออกเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ จ.ยะลาในประเด้นเดียวกันว่า ไม่ได้สั่งการให้ดูแลใด ๆ เป็นพิเศษ เป็นการอยู่เวรยามตามปกติของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ทั้งภายนอกและภายในกองบัญชาการกองทัพบก

**นครบาล 1 พร้อมรับม็อบแดง

ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น.1 กล่าวถึงมาตรการเตรียมการในการดูแลการชุมนุมของกลุ่ม นปช.ที่จะรวมตัวหน้ากองบัญชาการกองทัพบกในวันนี้ว่า บก.น.1 ได้มีการเตรียมความพร้อมรับมือการชุมนุมอยู่แล้วโดยใช้กำลัง 1 กองร้อยในการดูแลคาวมเรียบร้อยในการชุมนุม และกำลังสนับสนุนอีก 1 กองร้อยหากเกิดเหตุรุนแรง พร้อมมีชุดเคลื่อนที่เร็วหรือชุดปะฉะดะอีก 35 นาย ฝ่ายสืบสวนลงพื้นที่ดูแลหาข่าวอีกประมาณ 100 นาย ที่จะดูแลรวมทั้งตำรวจจราจรที่จะคอยอำนวยความสะดวกหากมีการปิดถนนหรือ ปิดช่องทางจราจร

พล.ต.ต.วิชัย กล่าวอีกว่า สถานการณ์การชุมนุมคาดว่าไม่เกิดเหตุการรุนแรงแต่อย่างใด โดยทางเจ้าหน้าที่ก็ไม่ประมาทก็ได้มีการเตรียมความพร้อมตลอดเวลา ไม่ได้กดดันเพราะเจ้าหน้าที่ก็มีความพร้อมเพราะดูแลการชุมนุมมาหลายครั้ง

**แดง ชม.ยังไม่เบื่อล้อมภาค5ไล่ “สมคิด”

รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ตั้งแต่ช่วงเที่ยงวานนี้ (28 ม.ค.53) กลุ่มรักเชียงใหม่ 51 หรือ กลุ่มคนเสื้อแดงเชียงใหม่ ประมาณ 150 คน ได้รวมตัวชุมนุม พร้อมตั้งเวทีและเต็นท์ ที่บริเวณประตูทางเข้ากองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เพื่อแสดงพลังขับไล่และกดดันพลตำรวจโทสมคิด บุญถนอม ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 ที่ถูกอัยการสั่งฟ้องในคดีอุ้มฆ่านักธุรกิจซาอุดิอาระเบีย ให้ยุติการปฏิบัติหน้าที่ โดยแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดงเชียงใหม่ ได้ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นกล่าวปราศรัยโจมตีพลตำรวจโทสมคิด อย่างต่อเนื่อง และประกาศจะปักหลักชุมนุมยืดเยื้อจนกว่าจะขับไล่พลตำรวจโทสมคิด เป็นผลสำเร็จ

ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ได้วางมาตรการรักษาความปลอดภัยบริเวณกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 อย่างเข้มงวด โดยนอกจากการจัดวางกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปราบจลาจล ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ รวมกว่า 500 นาย เพื่อควบคุมดูแลสถานการณ์แล้วยังได้มีการใช้รั้วลวดหนามวางเป็นแนวรอบกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 อีกด้วยเพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มคนเสื้อแดงสามารถบุกรุกเข้าไปภายในได้ สำหรับ พล.ต.ท.สมคิด นั้น รายงานข่าวแจ้งว่า ไม่ได้อยู่ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เนื่องจากเดินทางไปราชการที่กรุงเทพฯ

**เลื่อนปิดล้อมสนามกอล์ฟรอยัล ชม.

ส่วนการนัดหมายชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดงที่จะไปปิดล้อมสนามกอล์ฟรอยัลเชียงใหม่กอล์ฟคลับ ต.แม่แฝก อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ซึ่งกลุ่มคนเสื้อแดงเชื่อว่ามีการบุกรุกพื้นที่ป่าสงวน และ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี มีส่วนเกี่ยวข้องกับสนามกอล์ฟแห่งนี้ด้วย ที่เดิมนัดหมายชุมนุมกันในวันนี้ (29 ม.ค.53) นั้น รายงานข่าวแจ้งว่า ได้มีการประกาศยกเลิกการนัดชุมนุมดังกล่าวและเลื่อนออกไปก่อนเนื่องแกนนำ นปช.ติดภารกิจ

สำหรับกรณีสามเณรอนุวัน เขมะชะ ที่ร่วมกับกลุ่มรักเชียงใหม่ 51 ปิดล้อมกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เมื่อวันที่ 25 ม.ค.53 ที่ผ่านมา และปรากฏภาพข่าวถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวนั้น รายงานข่าวแจ้งว่าเป็นสามเณรของวัดเวียงด้ง ตำบลน้ำแพร่ อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ทั้งนี้ที่ผ่านมาเคยถูกเจ้าอาวาสวัดตำหนิการร่วมเคลื่อนไหวลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง รวมทั้งเคยบอกให้ออกจากวัดไปเลยก็ได้หากต้องการจะเคลื่อนไหวทางการเมือง

**แดงกาฬสินธุ์ปูดบิ๊กเสือรุกที่สาธารณะ

รัฐสภาวานนี้ นายสุดชาย บุญไชย แนวร่วมคนเสื้อแดงจังหวัดกาฬสินธุ์ ได้ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน เพื่อขอให้ตรวจสอบ พล.อ.พิจิตร กุลละวณิชย์ องคมนตรี กรณีรุกล้ำที่สาธารณะ โดยนายสุดชาย ได้นำภาพถ่ายผ่านดาวเทียม สำเนาโฉนดที่ดินมาแถลงว่า ได้รับการร้องเรียนจากคนในครอบครัวเจ้าของโครงการหมู่บ้านปัฐวิกรณ์ 2 ว่า พล.อ.พิจิตร มีบ้านและพื้นที่ในโครงการดังกล่าวจำนวน 100 ตารางวา

แต่ปรากฏว่ามีการรุกล้ำที่สาธารณะเพิ่มอีก 162 ตารางวา โดยทำการครอบครองที่ดินสาธารณะ ครอบครองถนนสาธารณะ บึงน้ำสาธารณะ อีกทั้งยังปิดทางเข้าออกถนนที่เชื่อมต่อไปยังบึงน้ำสาธารณะ ทำให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านไม่สามารถเข้าไปใช้บึงน้ำดังกล่าวได้ ยกเว้นบ้านที่อยู่บริเวณติดบึงเท่านั้น นอกจากนี้ พล.อ.พิจิตร ยังได้สร้างศาลากลางน้ำอยู่กลางบึงดังกล่าวอีก 2 หลังด้วย

ด้านนายประชา กล่าวว่า คณะกรรมาธิการฯ จะตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่าง ๆ เมื่อชัดเจนแล้วว่าเป็นความจริงตามที่นายสุดชายอ้าง คณะกรรมาธิการฯ จะเชิญ พล.อ.พิจิตร เจ้าของโครงการ ผอ.เขตบึงกุ่ม และอธิบดีกรมที่ดิน มาชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการฯ คาดว่าภายในสัปดาห์หน้า

**“เพื่อไทย”เชื่อสุดท้ายทหารปฎิวัติ

ด้านนายสงวน พงษ์มณี ส.ส.ลำพูน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวการปฎิวัติว่า อาจมาจากฝ่ายอำนาจที่มีส่วนในการตั้งรัฐบาลคงจะปล่อยให้บริหารประเทศอยู่ใน สภาพเช่นนี้ต่อไปไม่ได้ สถานการณ์จะลุกลามกลายเป็นปัญหา ที่สำคัญรัฐบาล ไม่สามารถทำให้การเมืองดีขึ้นทั้งในรัฐบาล เสื้อเหลือง เสื้อแดง จะเห็นว่าความขัดแย้งไม่ลดลง อีกทั้งปัญหาในขณะนี้อาจเป็นผลมาจากการหลอกกันเองของคน ที่อยู่ในอำนาจจนเกิดความกลัวจะสูญเสียอำนาจ ทุกครั้งสาเหตุจากความกลัวเป็นต้นเหตุให้มีการปฎิวัติหรือรัฐประหารมาตลอด ครั้งที่ผ่านมาที่กล้าทำการปฎิวัติหรือรัฐประหารเพราะไม่มีใครออกมาต่อต้าน แต่หากจะมีการปฎิวัติครั้งใหม่รับรองว่าจะต้องเผชิญหน้ากับการต่อต้านการปฎิวัติอย่างเปิดเผย ซึ่งเป็นเรื่องที่ถูกกฎหมาย มีการเตรียมความพร้อมต่อต้านอย่างต่อเนื่อง

"ถ้าเกิดการปฎิวัติขึ้นจะเป็นการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประเทศครั้งใหญ่ ต้องยอมรับว่าปัจจุบันโครงสร้างที่ยังมีปัญหาเพราะประชาชนไม่มีอำนาจที่แท้จริง ส่วนใหญ่อำนาจไปอยู่กับข้าราชการและระดับใหญ่อยากให้จับตานักธุรกิจว่าจะทนอยู่กับสภาพบ้านเมืองเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร เมื่อรัฐบาลบริหารประเทศโดยแบบไม่แก้ปัญหา ปล่อยไปตามสภาพ ฉะนั้นจึงมีโอกาสที่ทหารจะทำรัฐประหารเองเพราะทนเห็นประเทศล้มไม่ได้ ซึ่งจะเสียหายทั้งภาคอุตสาหกรรมและภาคเกษตร เหตุการณ์จะจบอย่างสันติโดยไม่มีความรุนแรงนั้นยังมองไม่เห็น".
กำลังโหลดความคิดเห็น