ASTVผู้จัดการรายวัน - นักรบค่ายจักรพงษ์นับพันตบเท้าแสดงพลังป้อง ?อนุพงษ์? ต้าน ?เสธ.แดง? ประพฤติตัวเสื่อมเสียสถาบัน ขณะที่ จรป.31นายทหารคุมกำลังระดับ ผบ.กรม และ ผบ.พันพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑล เปิด ร.11 รอ.ตะเพิด ?เสธ.แดง? วันนี้ จี้ลาออกไปเล่นการเมือง ขณะที่กองพลที่ 1 รอ.ออกหนังสือห้ามเข้าเขตทหาร ?เสธ.แดง? โผล่งานวันจักรดาว ?ประวิตร-อนุพงษ์? พร้อม 5 เสือ ทบ.เมิน เจ้าตัวยังหน้าด่านขอกลับเข้ารับราชการ
วานนี้ (27 ม.ค.) ที่หน้ากองบังคับการกรมทหาราบที่ 2 รักษาพระองค์ (ร.2 รอ.) ค่ายจักรพงษ์ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี เมื่อเวลา 08.30 น. วานนี้ (27 ม.ค.) นายทหารและกำลังพลสังกัด ร.2 รอ. กองพลทหาราบที่ 2 รักษาพระองค์ และหน่วยขึ้นตรง ที่เป็นกำลังรบหลักจาก 3 กองพันกว่า 1,000 คนนำโดย พ.อ.กู้เกียรติ ศรีนาคา ผบ.ร.2 รอ. ร่วมกันจัดกิจกรรมรวมพลังมวลชนข้าราชการของหน่วยและหน่วยขึ้นตรง กว่า 1,000 คน ออกแถลงการณ์ต่อต้านการกระทำของบุคคลบางกลุ่มที่ใช้ข้าราชการทหารโดยเฉพาะ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ ?เสธ.แดง? ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ออกมาจาบจ้วงสถาบันทหาร ดูหมิ่นผู้บังคับบัญชาชั้นสูง โดยเฉพาะ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รอง ผบ.ทบ. เนื่องจากระบบทหารถือเป็นการกระทำผิดวินัยร้ายแรงเสื่อมเสียสถาบันทหาร
จากนั้นกำลังทหารทั้งหมด ได้ร่วมกันปฏิญาณตน เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่มีวินัย และให้กำลังใจ พล.อ.อนุพงษ์ ต่อต้าน พล.ต.ขัตติยะ โดยให้เหตุผลว่าไม่ฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาทำให้กองทัพเสียหาย จากนั้นได้มอบหนังสือให้กำลังใจผู้บังคับบัญชา พร้อมร่วมกันร้องเพลง ?ไทยสามัคคี? เพื่อเป็นการปลุกใจและแสดงออกถึงความสามัคคีของชนในชาติ
ด้าน พล.ต.วลิต โรจนภักดี ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ กล่าวภายหลังการนำกำลังพลหน่วยขึ้นตรงกว่า 1,000 นาย ออกมาร่วมแสดงพลังปฏิญาณตนเป็นทหารของชาติในครั้งนี้ได้ให้ความมั่นใจกับประชาชนว่า ทหารกองพลทหารราบที่ 2 จะไม่ปฏิวัติอย่างแน่นอนหลังมีข่าวทหารไปหารือลับที่นั่นเพื่อวางแผนปฏิวัติ
**จปร.31นำนายทหารคุมกำลังแสดงพลัง
ขณะเดียวกัน พ.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11รอ.) ในฐานะแกนนำ จปร.31 กล่าวว่า ในวันนี้ (28 ม.ค.) เวลา 14.00 น. ที่สโมสรนายทหารภายใน ร. 11 รอ. ตนพร้อมด้วยเพื่อน จปร.31 ที่มีตำแหน่ง ผู้บังคับการกรม เป็นหน่วยกุมกำลังหลักของกองทัพบก อาทิ พ.อ.นัฐวัฒน์ อัครนิบุตร ผบ.ร.1 รอ. พ.อ.กฤษณ์ดนัย อิทธิมณฑล ผบ.ป.1 รอ. พ.อ.กู้เกียรติ ศรีนาคา ผบ.ร.2 รอ. และนายทหารระดับผู้บังคับกองพันในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวนกว่า 11 กองพันจะมารวมตัวกัน เพื่อแถลงในฐานะที่เป็นศิษย์เก่านักเรียนนายร้อย จปร. โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีภาพพจน์ของกองทัพบก ภายหลังที่ผู้บังคับบัญชาระดับสูงถูกดูหมิ่นศักดิ์ศรี โดยเฉพาะกรณีของ พล.ต.ขัตติยะ ที่ออกมากระทำการกล่าวจาบจ้วงดูหมิ่น พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะผู้บังคับบัญชาชั้นสูงของกองทัพบก
**จี้"เสธ.แดง"ลาออกไปเล่นการเมือง
"การเป็นทหารอาชีพควรจะมีสำนึก ไม่สมควรออกมาด่าผู้บังคับบัญชา ความเป็นประชาธิปไตยในหมู่ทหาร สามารถกระทำได้ แต่ไม่สมควรดูหมิ่นดูแคลนผู้บังคับบัญชา ผมอยากขอเรียกร้องให้ พี่แดง ลาออกจากราชการทหารไปเล่นการเมือง ไปใส่สูทผูกไท ลงเล่นการเมืองเต็มตัว อย่ามาหากินกับเครื่องแบบทหารอย่างนี้เลย เพราะพวกเราถือว่าเป็นเรื่องของเกียรติและศักดิ์ศรีในอาชีพทหาร อย่ามาทำให้กองทัพต้องเปอะเปื้อนเลย ถ้ายังรักความเป็นทหารอยู่ก็อย่านำกองทัพไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง พวกเราทนไม่ได้และจะไม่ทนอีกต่อไป ถ้าพี่แดงยังมีพฤติกรรมเช่นนี้"
พ.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ตนขอชี้แจงถึงมาตรการป้องกันความปลอดภัยบริเวณบ้านพัก ของ พล.ต.ขัตติยะ ภายในกองพันทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ (ม.พัน 4 รอ.) มีความจำเป็นต้องตั้งจุดตรวจบริเวณดังกล่าว เนื่องจากเกรงว่า อาจจะมีการสร้างสถานการณ์ หากว่ามีมือที่ 3 หรือใครก็ตามที่ไม่หวังดีต้องการสร้าง สถานการณ์ในช่วงนี้เพราะอาจจะเกี่ยวเนื่องกับพล.ต.ขัตติยะ ที่ผ่านมารถของพล.ต.ขัตติยะ เคยถูกระเบิดมาครั้งหนึ่ง เมื่อครั้งที่เคยมีเรื่องมีราวกับ พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ อดีต ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อความไม่ประมาทจึงจำเป็นต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ ม.พัน.4 รอ.
**สั่งม.พัน4ห้าม"เสธ.แดง"เข้าพื้นที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีเอกสารของทางราชการที่ กลาโหม 0481.1/90 ลงวันที่ 26 ม.ค.2553 ด่วนที่สุด จากกองพลที่ 1 รอ. ได้ติดไว้ที่กองรักษาการณ์กองพันทหารม้าที่ 4 รอ. ด้วยข้อความว่า เนื่องจากปัจจุบันได้ปรากฏข่าวสารของพล.ต.ขัตติยะ ได้ใช้คำพูดข่มขู่ก้าวร้าวต่อ ผบ.ทบ. ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของกองทัพ หลังจากที่กระทรวงกลาโหมมีคำสั่งพักราชการ เนื่องจากมีความประพฤติที่ไม่เหมาะสม ทำให้ภาพลักษณ์ของกองทัพเสื่อมเสียและเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีต่อผู้บังคับบัญชา อีกทั้งมีการพกพาอาวุธประจำการติดตัวอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันทุกกรณี จึงให้หน่วยปฏิบัติดังนี้
1.1ชี้แจงกำลังพลประจำกองรักษาการณ์ให้เข้าใจสถานการณ์ พร้อมแสดงภาพถ่ายยานพาหนะตามข้อมูลที่ส่งมาเพื่อให้รับรู้กันทั่วหน้า เมื่อมีการเปลี่ยนทหารกองรักษาการณ์ทุกวัน
1.2 ห้ามบุคคลดังกล่าวผ่านเข้า-ออกพื้นที่หน่วยอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้หากจำเป็นต้องเข้าต้องปฏิบัติตสมมาตรการ รปภ.ของหน่วยอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตรวจค้นอาวุธสงคราม รวมถึงบุคคลติดตามและยานพาหนะ
1.3 รายงานให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นทราบทันที
1.4 อุปกรณ์ประจำกองรักษาการณ์มีทั้งกล้องวิดีโอ ถ่ายภาพเคลื่อนไหว และภาพนิ่ง ไฟฉายประจำผู้ปฎิบัติหน้าที่ เครื่องมือหาวัตถุระเบิด ขั้นตอนการตรวจค้นตามระเบียบการผ่านเข้า-ออก
**ผบ.ม.พัน4ยันไม่ได้ห้ามแต่ตรวจเข้ม
พ.ท. ชินสรณ์ เรืองศุข ผบ.ม.พัน 4 รอ. กล่าวว่า หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีการตรวจค้นบ้านพัก พล.ต.ขัตติยะ พบสิ่งผิดกฎหมายและอาวุธสงครามจำนวนหนึ่ง ผบ.กองพลทหารม้าจึงเห็นว่าเข้มงวด และเพิ่มเติม รปภ. รปภ.เพิ่มเติมจึงให้สารวัตรทหารมาช่วยดูแลความปลอดภัย ซึ่งมีความเป็นห่วง ถ้ามีเหตุการณ์เกิดขึ้นเพราะเป็นพื้นที่บ้านพักของกำลังพลและครอบครัว กลัวจะมีเหตุการณ์ที่ไม่ดี และจะส่งผลกระทบต่อกองทัพบก ซึ่งในอดีตก็เคยมีเหตุการณ์ การเอาวัตถุระเบิดมาวางหน้าบ้านพัก พล.ต.ขัตติยะ ถือว่าเป็นการดูแลรักษาความปลอดภัยตัวเขาด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้คนภายนอกเข้ามาทำอะไรที่ไม่ดี
สำหรับการสั่งห้ามพล.ต.ขัตติยะ เข้าพื้นที่ของกองพันทหารม้าที่ 4 รอ.นั้น พ.ท.ชินวรณ์ กล่าวว่า พื้นที่มีอยู่ 2 ส่วน พื้นที่แรกคือสำนักงานคือตัวกองพันทหารม้าที่ 4 รอ. และพื้นที่บ้านพัก ซึ่งการแบ่งความรับผิดชอบในพื้นที่สำนักงานคือพื้นที่ห้ามเข้า ส่วนพื้นที่บ้านพักบุคคลที่ผ่านเข้า-ออก จะเป็นบุคคลภายนอก และกำลังพลภายใน ซึ่งขณะนี้ถ้าใครผ่านเข้าบ้านพักต้องปฏิบัติตามระเบียบการรักษาความปลอดภัยของหน่วยอย่างเคร่งครัด คือการตรวจค้นอาวุธ สิ่งผิดกฎหมาย ซี่งมาตรการนี้ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าก็มีความเห็นชอบ พร้อมกับอกว่าถ้ามีสิ่งผิดกฎหมาย ก็ให้ยึดและนำส่งเจ้าพนักงานได้ตามระเบียบ และให้กำลังพลที่มีความผิดออกจากพื้นที่ได้ภายใน 24 ชั่วโมง
"พล.ต.ขัตติยะ ยังสามารถเข้าพักในบ้านพักได้แต่ต้องปฏิบัติตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ต้องไม่มีอาวุธและสิ่งผิดกฎหมายนำเข้าไปในบ้านพัก ไม่ได้สั่งห้ามเข้า"
**"เสธ.แดง"โผล่งานวันจักรดาว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน เป็นสถาปนาโรงเรียนเตรียมทหาร ครบรอบ 50 ปี หรือ วันจักรดาว โดยมีพล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รมว.กลาโหมเป็นประธานในพิธีวางพานพุ่มสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 ร่วมด้วยพล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.สูงสุด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.พร้อมนายทหารระดับสูงเดินทางมาร่วมงานอย่างคับคั่ง
ต่อมาเวลา 10.00 น. พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ได้เดินทางมาร่วมงาน ทำให้ พล.อ.ประวิตร และพล.อ.อนุพงษ์ที่กำลังเดินขึ้นบันได เพื่อขึ้นไปยังห้องพักรับรองด้านบน ต่างมองลงมาที่พล.ต.ขัตติยะ ด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ และเมื่อพล.ต.ขัตติยะ เดินเข้าไปยังห้องพักรับรอง ภายในห้องมีทั้ง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา รอง ผบ.ทบ.พล.อ. พิรุณ แผ้วพลสง เสนาธิการทหารบก อยู่ ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.พิรุณ เดินออกมาจากห้องพักรับรองทันที เพื่อเดินเข้าห้องประชุม โดยมีสีหน้าที่ค่อนข้างเคร่งเครียด อย่างไรก็ตามมีเพื่อนร่วมรุ่นตท.11 ของพล.ต.ขัตติยะ บางส่วนได้เดินทางมาทักทาย พล.ต.ขัตติยะ
**อ้างตท.11ชมทำถูกแล้ว
พล.ต.ขัตติยะ ให้สัมภาษณ์ว่า การสอบาวนคดีที่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของ ศาลทหารยังไม่มีอะไร พิจารณากันไปตามปกติ แต่ตนจะไม่ไปชี้แจง เนื่องจากถูกสั่งพักราชการไปแล้ว จึงไม่จำเป็นจะต้องไป ทั้งนี้ที่ผ่านมา ไม่เคยปรากฏว่า มีการสั่งพักราชการทหารชั้นยศนายพลโดยที่ไม่มีสาเหตุ ไม่มีการสอบสวนก็ถือว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ยังมีผู้ใต้บังคับบัญชามาบุกที่บ้านพักนายพล พร้อมกับเอาตำรวจเข้ามาบุก และใส่กุญแจมือพลทหาร รวมถึงการที่กองทัพบกถูกยิงถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ครั้งแรก
ส่วนที่ เพื่อน ตท.11แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการกระทำของ พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า ไม่มีเพียงแต่บอกว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง และหากตนทำอะไรก็แล้วแต่ตน ส่วนข้อสุดท้าย ขอให้ปฏิบัติตามข้อระเบียบวินัยของทหาร ซึ่งเขาไม่ได้ว่าอะไรตน เพียงแต่ออกตัวว่า ทางใครทางมัน ซึ่งตนจับมือกับเพื่อน ตท.11 เกือบทุกคน แต่ที่ไม่กล้าจับคือ นายทหารระดับ 5 เสือ ทบ.เพราะกลัวว่านายเห็นแล้วจะเดือดร้อน ซึ่งเพื่อนที่มาจับมือก็บอกว่า ตนทำถูกแล้ว และกองทัพต้องเข้มแข็ง โดยเฉพาะ ตท.10 จับมือตนทุกคน ไม่มีคนไหนด่าตนเลย
**ยังด้านขอ"อนุพงษ์"กลับรับราชการ
พล.ต.ขัตติยะ กล่าวอีกว่า ในการเดินทางมาครั้งนี้ไม่ได้พูดคุยกับ ผบ.ทบ. ส่วน พล.อ.ประวิตร ได้ยกมือไหว้ท่าน ซึ่งท่านก็รับไหว้ ทั้งนี้ ถ้าตนได้เป็น รมว.กลาโหม ตนจะสั่งพักราชการผบ.ทบ.ข่มขู่ รมว.กลาโหม 2 คน เอาคืนบ้าง
"วันนี้ผมไม่อยากจะแอคชั่น เพราะเกรงใจโรงเรียนเตรียมทหาร เนื่องจาก เป็นงานใหญ่ ทั้งนี้หากเจอกับ รมว.กลาโหม ก็จะคุยกัน รวมถึง พล.อ.อนุพงษ์ ด้วย โดยผมจะบอกว่า ให้เอาผมกลับรับราชการ เพราะว่า พี่ทำไม่ถูก เพราะยังไมได้สอบสวน และผมไม่ได้มีความผิด พี่จะมาใช้อำนาจในการปกครองมาเซ็นพักราชการไม่ได้ พวกพี่จะต้องมีเมตตา"
**"ป๊อก"ปัดสั่งจาตาเป็นพิเศษ
พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม กล่าวว่า ขณะนี้ทหารมีความรัก ความสามัคคีกันดี และทหารทุกคนทำหน้าที่ เพื่อประเทศชาติและสถาบัน ดูแลสถาบันและประชาชนเพื่อให้เกิดความสงบสุข เมื่อถามว่า ได้มีการคุยกับพล.ต.ขัตติยะหรือไม่ พล.อ. ประวิตร ย้อนถามว่า คุยทำไม ส่วนข้อหาในการกระทำผิดวินัยร้ายแรงนั้น เขาจะมีการสอบสวน หากสอบสวนไม่มีความผิดก็ให้กลับเข้ารับราชการ ซึ่งการสั่งพักราชการถือว่าไม่แรง เพราะทำตามระเบียบ
ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา กล่าวถึงการเดินทางมาของ พล.ต.ขัตติยะเพียงสั้นๆ ว่า ไม่มีปัญหาอะไร พล.ต.ขัตติยะ เดินทางมาร่วมงานตามปกติของเขา ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่ได้สั่งให้มีการจับตามองการเดินทางมาครั้งนี้ของ พล.ต.ขัตติยะ แต่อย่างใด
**ตท.11ไม่เห็นด้วยพฤติกรรมเพื่อน
พล.อ.วิทวัส รชตะนันท์ ผอ.สนผ.กลาโหม ในฐานะรองประธาน ตท.11 กล่าวว่า ในเรื่องส่วนตัว ยังสามารถพูดคุยกับ พล.ต.ขัตติยะ ได้เหมือนเดิม เพราะเป็นเพื่อนกันอยู่ แต่ตนไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวทางด้านการเมือง และการพูดจาดูหมื่นผู้บังคับบัญชา แต่รู้สึกยินดีที่ พล.ต.ขัตติยะ ได้เดินทางมาร่วมงานวันสถาปนาโรงเรียนเตรียมทหาร ทำให้ พล.ต.ขัตติยะ จำได้ว่าถูกอบรมปลูกฝังไม่ให้ดูหมิ่นผู้บังคับบัญชาทั้งต่อหน้าและลับหลัง อยากให้พล.ต.ขัตติยะ นึกถึงข้อนี้ให้มากๆ ทางทหารมีกฎ ระเบียบวินัย และต้องเคารพผู้บังคับบัญชา ในฐานะที่เป็นศิษย์เก่าเตรียมทหารไม่น่าจะลืมในเรื่องนี้ ส่วนการที่พล.ต.ขัตติยะ มองว่าถูกดำเนินการไม่เป็นธรรม ก็ขอให้ต่อสู้โดยยึดหลักของกระบวนการยุติธรรม
พล.ท. พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 และเพื่อนร่วมรุ่น ตท.11 ของพล.ต.ขัตติยะ กล่าวถึงท่าทีของพล.ต.ขัตติยะ ที่มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองว่า เพื่อนๆ ก็เรียก พล.ต. ขัตติยะ มาถ่ายรูป และมีเพื่อนๆ บอกว่า มาเอาความดีไปหน่อย ทั้งนี้ความจริง การทำผิดต้องว่าไปตามตัวบทกฎหมาย ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของบุคคล ไม่ใช่เรื่องรุ่น
วานนี้ (27 ม.ค.) ที่หน้ากองบังคับการกรมทหาราบที่ 2 รักษาพระองค์ (ร.2 รอ.) ค่ายจักรพงษ์ อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี เมื่อเวลา 08.30 น. วานนี้ (27 ม.ค.) นายทหารและกำลังพลสังกัด ร.2 รอ. กองพลทหาราบที่ 2 รักษาพระองค์ และหน่วยขึ้นตรง ที่เป็นกำลังรบหลักจาก 3 กองพันกว่า 1,000 คนนำโดย พ.อ.กู้เกียรติ ศรีนาคา ผบ.ร.2 รอ. ร่วมกันจัดกิจกรรมรวมพลังมวลชนข้าราชการของหน่วยและหน่วยขึ้นตรง กว่า 1,000 คน ออกแถลงการณ์ต่อต้านการกระทำของบุคคลบางกลุ่มที่ใช้ข้าราชการทหารโดยเฉพาะ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ ?เสธ.แดง? ผู้ทรงคุณวุฒิกองทัพบก ออกมาจาบจ้วงสถาบันทหาร ดูหมิ่นผู้บังคับบัญชาชั้นสูง โดยเฉพาะ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ. และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รอง ผบ.ทบ. เนื่องจากระบบทหารถือเป็นการกระทำผิดวินัยร้ายแรงเสื่อมเสียสถาบันทหาร
จากนั้นกำลังทหารทั้งหมด ได้ร่วมกันปฏิญาณตน เป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่มีวินัย และให้กำลังใจ พล.อ.อนุพงษ์ ต่อต้าน พล.ต.ขัตติยะ โดยให้เหตุผลว่าไม่ฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชาทำให้กองทัพเสียหาย จากนั้นได้มอบหนังสือให้กำลังใจผู้บังคับบัญชา พร้อมร่วมกันร้องเพลง ?ไทยสามัคคี? เพื่อเป็นการปลุกใจและแสดงออกถึงความสามัคคีของชนในชาติ
ด้าน พล.ต.วลิต โรจนภักดี ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ กล่าวภายหลังการนำกำลังพลหน่วยขึ้นตรงกว่า 1,000 นาย ออกมาร่วมแสดงพลังปฏิญาณตนเป็นทหารของชาติในครั้งนี้ได้ให้ความมั่นใจกับประชาชนว่า ทหารกองพลทหารราบที่ 2 จะไม่ปฏิวัติอย่างแน่นอนหลังมีข่าวทหารไปหารือลับที่นั่นเพื่อวางแผนปฏิวัติ
**จปร.31นำนายทหารคุมกำลังแสดงพลัง
ขณะเดียวกัน พ.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ (ร.11รอ.) ในฐานะแกนนำ จปร.31 กล่าวว่า ในวันนี้ (28 ม.ค.) เวลา 14.00 น. ที่สโมสรนายทหารภายใน ร. 11 รอ. ตนพร้อมด้วยเพื่อน จปร.31 ที่มีตำแหน่ง ผู้บังคับการกรม เป็นหน่วยกุมกำลังหลักของกองทัพบก อาทิ พ.อ.นัฐวัฒน์ อัครนิบุตร ผบ.ร.1 รอ. พ.อ.กฤษณ์ดนัย อิทธิมณฑล ผบ.ป.1 รอ. พ.อ.กู้เกียรติ ศรีนาคา ผบ.ร.2 รอ. และนายทหารระดับผู้บังคับกองพันในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล จำนวนกว่า 11 กองพันจะมารวมตัวกัน เพื่อแถลงในฐานะที่เป็นศิษย์เก่านักเรียนนายร้อย จปร. โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกอบกู้ศักดิ์ศรีภาพพจน์ของกองทัพบก ภายหลังที่ผู้บังคับบัญชาระดับสูงถูกดูหมิ่นศักดิ์ศรี โดยเฉพาะกรณีของ พล.ต.ขัตติยะ ที่ออกมากระทำการกล่าวจาบจ้วงดูหมิ่น พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผู้บัญชาการทหารบก ในฐานะผู้บังคับบัญชาชั้นสูงของกองทัพบก
**จี้"เสธ.แดง"ลาออกไปเล่นการเมือง
"การเป็นทหารอาชีพควรจะมีสำนึก ไม่สมควรออกมาด่าผู้บังคับบัญชา ความเป็นประชาธิปไตยในหมู่ทหาร สามารถกระทำได้ แต่ไม่สมควรดูหมิ่นดูแคลนผู้บังคับบัญชา ผมอยากขอเรียกร้องให้ พี่แดง ลาออกจากราชการทหารไปเล่นการเมือง ไปใส่สูทผูกไท ลงเล่นการเมืองเต็มตัว อย่ามาหากินกับเครื่องแบบทหารอย่างนี้เลย เพราะพวกเราถือว่าเป็นเรื่องของเกียรติและศักดิ์ศรีในอาชีพทหาร อย่ามาทำให้กองทัพต้องเปอะเปื้อนเลย ถ้ายังรักความเป็นทหารอยู่ก็อย่านำกองทัพไปยุ่งเกี่ยวกับการเมือง พวกเราทนไม่ได้และจะไม่ทนอีกต่อไป ถ้าพี่แดงยังมีพฤติกรรมเช่นนี้"
พ.อ.อภิรัชต์ กล่าวว่า ตนขอชี้แจงถึงมาตรการป้องกันความปลอดภัยบริเวณบ้านพัก ของ พล.ต.ขัตติยะ ภายในกองพันทหารม้าที่ 4 รักษาพระองค์ (ม.พัน 4 รอ.) มีความจำเป็นต้องตั้งจุดตรวจบริเวณดังกล่าว เนื่องจากเกรงว่า อาจจะมีการสร้างสถานการณ์ หากว่ามีมือที่ 3 หรือใครก็ตามที่ไม่หวังดีต้องการสร้าง สถานการณ์ในช่วงนี้เพราะอาจจะเกี่ยวเนื่องกับพล.ต.ขัตติยะ ที่ผ่านมารถของพล.ต.ขัตติยะ เคยถูกระเบิดมาครั้งหนึ่ง เมื่อครั้งที่เคยมีเรื่องมีราวกับ พล.ต.อ.สันต์ ศรุตานนท์ อดีต ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อความไม่ประมาทจึงจำเป็นต้องมีมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ ม.พัน.4 รอ.
**สั่งม.พัน4ห้าม"เสธ.แดง"เข้าพื้นที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีเอกสารของทางราชการที่ กลาโหม 0481.1/90 ลงวันที่ 26 ม.ค.2553 ด่วนที่สุด จากกองพลที่ 1 รอ. ได้ติดไว้ที่กองรักษาการณ์กองพันทหารม้าที่ 4 รอ. ด้วยข้อความว่า เนื่องจากปัจจุบันได้ปรากฏข่าวสารของพล.ต.ขัตติยะ ได้ใช้คำพูดข่มขู่ก้าวร้าวต่อ ผบ.ทบ. ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของกองทัพ หลังจากที่กระทรวงกลาโหมมีคำสั่งพักราชการ เนื่องจากมีความประพฤติที่ไม่เหมาะสม ทำให้ภาพลักษณ์ของกองทัพเสื่อมเสียและเป็นตัวอย่างที่ไม่ดีต่อผู้บังคับบัญชา อีกทั้งมีการพกพาอาวุธประจำการติดตัวอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันทุกกรณี จึงให้หน่วยปฏิบัติดังนี้
1.1ชี้แจงกำลังพลประจำกองรักษาการณ์ให้เข้าใจสถานการณ์ พร้อมแสดงภาพถ่ายยานพาหนะตามข้อมูลที่ส่งมาเพื่อให้รับรู้กันทั่วหน้า เมื่อมีการเปลี่ยนทหารกองรักษาการณ์ทุกวัน
1.2 ห้ามบุคคลดังกล่าวผ่านเข้า-ออกพื้นที่หน่วยอย่างเด็ดขาด ทั้งนี้หากจำเป็นต้องเข้าต้องปฏิบัติตสมมาตรการ รปภ.ของหน่วยอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการตรวจค้นอาวุธสงคราม รวมถึงบุคคลติดตามและยานพาหนะ
1.3 รายงานให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นทราบทันที
1.4 อุปกรณ์ประจำกองรักษาการณ์มีทั้งกล้องวิดีโอ ถ่ายภาพเคลื่อนไหว และภาพนิ่ง ไฟฉายประจำผู้ปฎิบัติหน้าที่ เครื่องมือหาวัตถุระเบิด ขั้นตอนการตรวจค้นตามระเบียบการผ่านเข้า-ออก
**ผบ.ม.พัน4ยันไม่ได้ห้ามแต่ตรวจเข้ม
พ.ท. ชินสรณ์ เรืองศุข ผบ.ม.พัน 4 รอ. กล่าวว่า หลังจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีการตรวจค้นบ้านพัก พล.ต.ขัตติยะ พบสิ่งผิดกฎหมายและอาวุธสงครามจำนวนหนึ่ง ผบ.กองพลทหารม้าจึงเห็นว่าเข้มงวด และเพิ่มเติม รปภ. รปภ.เพิ่มเติมจึงให้สารวัตรทหารมาช่วยดูแลความปลอดภัย ซึ่งมีความเป็นห่วง ถ้ามีเหตุการณ์เกิดขึ้นเพราะเป็นพื้นที่บ้านพักของกำลังพลและครอบครัว กลัวจะมีเหตุการณ์ที่ไม่ดี และจะส่งผลกระทบต่อกองทัพบก ซึ่งในอดีตก็เคยมีเหตุการณ์ การเอาวัตถุระเบิดมาวางหน้าบ้านพัก พล.ต.ขัตติยะ ถือว่าเป็นการดูแลรักษาความปลอดภัยตัวเขาด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้คนภายนอกเข้ามาทำอะไรที่ไม่ดี
สำหรับการสั่งห้ามพล.ต.ขัตติยะ เข้าพื้นที่ของกองพันทหารม้าที่ 4 รอ.นั้น พ.ท.ชินวรณ์ กล่าวว่า พื้นที่มีอยู่ 2 ส่วน พื้นที่แรกคือสำนักงานคือตัวกองพันทหารม้าที่ 4 รอ. และพื้นที่บ้านพัก ซึ่งการแบ่งความรับผิดชอบในพื้นที่สำนักงานคือพื้นที่ห้ามเข้า ส่วนพื้นที่บ้านพักบุคคลที่ผ่านเข้า-ออก จะเป็นบุคคลภายนอก และกำลังพลภายใน ซึ่งขณะนี้ถ้าใครผ่านเข้าบ้านพักต้องปฏิบัติตามระเบียบการรักษาความปลอดภัยของหน่วยอย่างเคร่งครัด คือการตรวจค้นอาวุธ สิ่งผิดกฎหมาย ซี่งมาตรการนี้ผู้บัญชาการกองพลทหารม้าก็มีความเห็นชอบ พร้อมกับอกว่าถ้ามีสิ่งผิดกฎหมาย ก็ให้ยึดและนำส่งเจ้าพนักงานได้ตามระเบียบ และให้กำลังพลที่มีความผิดออกจากพื้นที่ได้ภายใน 24 ชั่วโมง
"พล.ต.ขัตติยะ ยังสามารถเข้าพักในบ้านพักได้แต่ต้องปฏิบัติตามระเบียบอย่างเคร่งครัด ต้องไม่มีอาวุธและสิ่งผิดกฎหมายนำเข้าไปในบ้านพัก ไม่ได้สั่งห้ามเข้า"
**"เสธ.แดง"โผล่งานวันจักรดาว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน เป็นสถาปนาโรงเรียนเตรียมทหาร ครบรอบ 50 ปี หรือ วันจักรดาว โดยมีพล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รมว.กลาโหมเป็นประธานในพิธีวางพานพุ่มสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 ร่วมด้วยพล.อ.อภิชาต เพ็ญกิตติ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.ทรงกิตติ จักกาบาตร์ ผบ.สูงสุด พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา ผบ.ทบ.พร้อมนายทหารระดับสูงเดินทางมาร่วมงานอย่างคับคั่ง
ต่อมาเวลา 10.00 น. พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล ได้เดินทางมาร่วมงาน ทำให้ พล.อ.ประวิตร และพล.อ.อนุพงษ์ที่กำลังเดินขึ้นบันได เพื่อขึ้นไปยังห้องพักรับรองด้านบน ต่างมองลงมาที่พล.ต.ขัตติยะ ด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ และเมื่อพล.ต.ขัตติยะ เดินเข้าไปยังห้องพักรับรอง ภายในห้องมีทั้ง พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา รอง ผบ.ทบ.พล.อ. พิรุณ แผ้วพลสง เสนาธิการทหารบก อยู่ ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ และ พล.อ.พิรุณ เดินออกมาจากห้องพักรับรองทันที เพื่อเดินเข้าห้องประชุม โดยมีสีหน้าที่ค่อนข้างเคร่งเครียด อย่างไรก็ตามมีเพื่อนร่วมรุ่นตท.11 ของพล.ต.ขัตติยะ บางส่วนได้เดินทางมาทักทาย พล.ต.ขัตติยะ
**อ้างตท.11ชมทำถูกแล้ว
พล.ต.ขัตติยะ ให้สัมภาษณ์ว่า การสอบาวนคดีที่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของ ศาลทหารยังไม่มีอะไร พิจารณากันไปตามปกติ แต่ตนจะไม่ไปชี้แจง เนื่องจากถูกสั่งพักราชการไปแล้ว จึงไม่จำเป็นจะต้องไป ทั้งนี้ที่ผ่านมา ไม่เคยปรากฏว่า มีการสั่งพักราชการทหารชั้นยศนายพลโดยที่ไม่มีสาเหตุ ไม่มีการสอบสวนก็ถือว่าเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ นอกจากนี้ยังมีผู้ใต้บังคับบัญชามาบุกที่บ้านพักนายพล พร้อมกับเอาตำรวจเข้ามาบุก และใส่กุญแจมือพลทหาร รวมถึงการที่กองทัพบกถูกยิงถือว่าเป็นประวัติศาสตร์ครั้งแรก
ส่วนที่ เพื่อน ตท.11แสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับการกระทำของ พล.ต.ขัตติยะ กล่าวว่า ไม่มีเพียงแต่บอกว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง และหากตนทำอะไรก็แล้วแต่ตน ส่วนข้อสุดท้าย ขอให้ปฏิบัติตามข้อระเบียบวินัยของทหาร ซึ่งเขาไม่ได้ว่าอะไรตน เพียงแต่ออกตัวว่า ทางใครทางมัน ซึ่งตนจับมือกับเพื่อน ตท.11 เกือบทุกคน แต่ที่ไม่กล้าจับคือ นายทหารระดับ 5 เสือ ทบ.เพราะกลัวว่านายเห็นแล้วจะเดือดร้อน ซึ่งเพื่อนที่มาจับมือก็บอกว่า ตนทำถูกแล้ว และกองทัพต้องเข้มแข็ง โดยเฉพาะ ตท.10 จับมือตนทุกคน ไม่มีคนไหนด่าตนเลย
**ยังด้านขอ"อนุพงษ์"กลับรับราชการ
พล.ต.ขัตติยะ กล่าวอีกว่า ในการเดินทางมาครั้งนี้ไม่ได้พูดคุยกับ ผบ.ทบ. ส่วน พล.อ.ประวิตร ได้ยกมือไหว้ท่าน ซึ่งท่านก็รับไหว้ ทั้งนี้ ถ้าตนได้เป็น รมว.กลาโหม ตนจะสั่งพักราชการผบ.ทบ.ข่มขู่ รมว.กลาโหม 2 คน เอาคืนบ้าง
"วันนี้ผมไม่อยากจะแอคชั่น เพราะเกรงใจโรงเรียนเตรียมทหาร เนื่องจาก เป็นงานใหญ่ ทั้งนี้หากเจอกับ รมว.กลาโหม ก็จะคุยกัน รวมถึง พล.อ.อนุพงษ์ ด้วย โดยผมจะบอกว่า ให้เอาผมกลับรับราชการ เพราะว่า พี่ทำไม่ถูก เพราะยังไมได้สอบสวน และผมไม่ได้มีความผิด พี่จะมาใช้อำนาจในการปกครองมาเซ็นพักราชการไม่ได้ พวกพี่จะต้องมีเมตตา"
**"ป๊อก"ปัดสั่งจาตาเป็นพิเศษ
พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม กล่าวว่า ขณะนี้ทหารมีความรัก ความสามัคคีกันดี และทหารทุกคนทำหน้าที่ เพื่อประเทศชาติและสถาบัน ดูแลสถาบันและประชาชนเพื่อให้เกิดความสงบสุข เมื่อถามว่า ได้มีการคุยกับพล.ต.ขัตติยะหรือไม่ พล.อ. ประวิตร ย้อนถามว่า คุยทำไม ส่วนข้อหาในการกระทำผิดวินัยร้ายแรงนั้น เขาจะมีการสอบสวน หากสอบสวนไม่มีความผิดก็ให้กลับเข้ารับราชการ ซึ่งการสั่งพักราชการถือว่าไม่แรง เพราะทำตามระเบียบ
ด้าน พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา กล่าวถึงการเดินทางมาของ พล.ต.ขัตติยะเพียงสั้นๆ ว่า ไม่มีปัญหาอะไร พล.ต.ขัตติยะ เดินทางมาร่วมงานตามปกติของเขา ทั้งนี้ยืนยันว่าไม่ได้สั่งให้มีการจับตามองการเดินทางมาครั้งนี้ของ พล.ต.ขัตติยะ แต่อย่างใด
**ตท.11ไม่เห็นด้วยพฤติกรรมเพื่อน
พล.อ.วิทวัส รชตะนันท์ ผอ.สนผ.กลาโหม ในฐานะรองประธาน ตท.11 กล่าวว่า ในเรื่องส่วนตัว ยังสามารถพูดคุยกับ พล.ต.ขัตติยะ ได้เหมือนเดิม เพราะเป็นเพื่อนกันอยู่ แต่ตนไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวทางด้านการเมือง และการพูดจาดูหมื่นผู้บังคับบัญชา แต่รู้สึกยินดีที่ พล.ต.ขัตติยะ ได้เดินทางมาร่วมงานวันสถาปนาโรงเรียนเตรียมทหาร ทำให้ พล.ต.ขัตติยะ จำได้ว่าถูกอบรมปลูกฝังไม่ให้ดูหมิ่นผู้บังคับบัญชาทั้งต่อหน้าและลับหลัง อยากให้พล.ต.ขัตติยะ นึกถึงข้อนี้ให้มากๆ ทางทหารมีกฎ ระเบียบวินัย และต้องเคารพผู้บังคับบัญชา ในฐานะที่เป็นศิษย์เก่าเตรียมทหารไม่น่าจะลืมในเรื่องนี้ ส่วนการที่พล.ต.ขัตติยะ มองว่าถูกดำเนินการไม่เป็นธรรม ก็ขอให้ต่อสู้โดยยึดหลักของกระบวนการยุติธรรม
พล.ท. พิเชษฐ์ วิสัยจร แม่ทัพภาคที่ 4 และเพื่อนร่วมรุ่น ตท.11 ของพล.ต.ขัตติยะ กล่าวถึงท่าทีของพล.ต.ขัตติยะ ที่มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองว่า เพื่อนๆ ก็เรียก พล.ต. ขัตติยะ มาถ่ายรูป และมีเพื่อนๆ บอกว่า มาเอาความดีไปหน่อย ทั้งนี้ความจริง การทำผิดต้องว่าไปตามตัวบทกฎหมาย ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องของบุคคล ไม่ใช่เรื่องรุ่น