อัยการฟ้อง "เจ๊ฉอด"บิ๊กบอสจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ สนับสนุนเจ้าหน้าที่กรมการทหารสื่อสาร ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ แก้เอกสารให้ จีเอ็มเอ็ม ชนะประกวดราคาโฆษณาวิทยุเอฟเอ็มคลื่น 94.5 ทั้งที่ไม่มีชื่อประกวดราคาตั้งแต่ต้น เจ้าตัวปัดคดีกระทบภาพลักษณ์บริษัท หอบเงินสด 2 แสนประกันตัว พร้อมให้การปฏิเสธ ศาลนัดตรวจหลักฐาน 22 ก.พ.นี้
วานนี้(22 ม.ค.)ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 5 นำตัวนางสายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา หรือเจ๊ฉอด อายุ 52 ปี ผู้บริหาร เอไทม์ มีเดียในเครือ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ยื่นฟ้องเป็นจำเลยในความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฎิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และ 157
คำฟ้องระบุพฤติการณ์ความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 9 ก.ค.46 กองกระจายเสียงวิทยุและโทรทัศน์ กรมการทหารสื่อสาร กองทัพบก ได้ประกาศประกวดราคา สั่งโฆษณาวิทยุกระจายเสียงคลื่น เอฟเอ็ม 94.5 เมกะเฮิรตซ์ ต่อมาวันที่ 26 ส.ค. 46 ซึ่งเป็นวันกำหนดยื่นซองประกวดราคา มีผู้ยื่น 2 ราย คือ 1.บริษัท บรอดคาสติ้ง เน็ทเวอร์ค (ไทยแลนด์) และ 2.บริษัทโกลบอล มิวสิค เทเลวิชั่น จำกัด
โดยบริษัท บรอดคาสติ้ง เน็ทเวอร์ค (ไทยแลนด์) เป็นผู้ชนะประกวดราคาดังกล่าว ในราคา 1,235,850 บาท ซึ่งการประกวดราคานั้นมี พ.อ.ชิษณุ โสพจน์ อดีตนายทหารประจำกรมการทหารสื่อสาร กองทัพบก ในฐานะผู้ช่วยเลขานุการ คณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียง กรมการทหารสื่อสาร รับผิดชอบเกี่ยวกับเอกสารต่าง ๆ และเป็นเจ้าของเรื่องในการรวบรวมเอกสาร พร้อมทั้งร่างหนังสือรายงานผลการประกวดราคาคัดเลือกผู้สั่งโฆษณา ปี 2547 โดย พ.อ.ชิษณุ ซึ่งถูกโจทก์ยื่นฟ้องเป็นคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.4695/2552 ของศาลอาญานั้น ร่วมกับ พล.อ.นิพนธ์ ธีระพงษ์ ซึ่งยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง และจำเลยคดี กระทำผิดต่อกฎหมาย โดยเมื่อวันที่ 1 – 31 ต.ค.46 พ.อ.ชิษณุ อาศัยโอกาสที่เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ร่างหนังสือรายงานและนำส่งหนังสือรายงานผลการประกวดราคาคัดเลือกผู้สั่งโฆษณาปี 2547 นำส่งเอกสารดังกล่าวต่อ พ.ต.หญิง ดวงฤดี กิตติยุทธโยธิน เพื่อนำเสนอผู้บัญชาการทหารบกและประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมกองทัพบก โดย พ.อ.ชิษณุ ได้แก้ไขข้อความในรายงานดังกล่าวเกี่ยวกับใบเสนอราคาจากเดิม 7 บริษัท เป็น 8 บริษัท และจำนวนผู้ยื่นซองประกวดราคาจาก 2 ราย เป็น 3 รายโดยเพิ่มชื่อบริษัท จีเอ็มเอ็ม มีเดีย จำกัด ( มหาชน) ยื่นซองประกวดราคาด้วย รวมทั้งแก้ไขจำนวนเงินสั่งโฆษณาจากเดิม 1,155,000 บาท เป็น 1,350,000 บาท จำนวนภาษีจากเดิม 80,850 บาท เป็น 94,500 บาท และยอดรวมเงินจากเดิม 1,235,850 บาทเป็น 1,444,500 บาท
นอกจากนี้ยังปลอมตารางแสดงผลการพิจารณาคัดเลือกผู้สั่งโฆษณาจากเดิมเป็นชื่อ “บริษัท บรอดคาสติ้ง เน็ทเวอร์ค (ไทยแลนด์)” เป็น “ บริษัท จีเอ็มเอ็ม มีเดีย จำกัด ( มหาชน)” ชนะประกวดราคา 1,444,500 บาท การกระทำดังกล่าวทำให้ผู้อื่นหลงเชื่อว่าเอกสารที่ปลอมขึ้นนั้นเป็นจริง ทั้งที่บริษัท จีเอ็มเอ็ม ฯ ไม่ได้เข้าร่วมเสนอราคาคัดเลือกเป็นผู้สั่งโฆษณาตั้งแต่ต้น และไม่เป็นผู้ชนะประกวดราคาแต่อย่างใด ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายแก่กองทัพบก กรมการทหารสื่อสาร บริษัท บรอดคาสติ้ง เน็ทเวอร์ค (ไทยแลนด์) และผู้อื่นหรือประชาชนที่เกี่ยวข้อง
เหตุเกิดที่ แขวงนครไชยศรี เขตดุสิต แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กทม.ต่อเนื่องกัน ซึ่งหลังเกิดเหตุวันที่ 23 เม.ย.47 นายอิทธิวัฒน์ เพียรเลิศ ประธานกรรมการบริษัท บรอดคาสติ้ง เน็ทเวอร์ค (ไทยแลนด์) ได้ร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช.) ซึ่งไต่สวนแล้วมีคำวินิจฉัยชี้มูลความผิด จึงแยกดำเนินคดี ยื่นฟ้อง พ.อ.ชิษณุ ไว้ก่อนเป็นคดีหมายเลขดำ อ.4695/2552
ศาลประทับรับฟ้องคดีไว้เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.237/2553 และอ่านอธิบายคำฟ้องให้จำเลยฟังแล้วสอบคำให้การ จำเลยยืนกรานปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ศาลจึงนัดตรวจสอบพยานหลักฐานในวันที่ 22 ก.พ.นี้ เวลา 09.00 น.
ภายหลัง นางสายทิพย์ หรือเจ๊ฉอด ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ เป็นเงินสด 200,000 บาท ขอประกันตัว ศาลพิจารณาคำร้องแล้วให้ปล่อยตัวชั่วคราวจำเลย โดยตีราคาประกัน 200,000 บาท
ขณะที่นางสายทิพย์ กล่าวว่า ตนไม่ขอพูดถึงรายละเอียดเพราะเป็นเรื่องในสำนวนพูดไม่ได้ ซึ่งการประกวดราคาเกิดขึ้นมาตั้งแต่ ปี 2546 โดยที่ถูกฟ้องคงเป็นเพราะมีชื่อตนปรากฏในเอกสาร
ส่วนการถูกฟ้องคดีนี้จะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ บ.แกรมมี่ ฯ หรือไม่ นางสายทิพย์ กล่าวว่า เป็นปกติ โอกาสแบบนี้เกิดขึ้นได้ ซึ่งสิ่งที่เราทำมาเป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ ดังนั้นถามว่าจะกระทบหรือไม่คงตอบยาก
วานนี้(22 ม.ค.)ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 5 นำตัวนางสายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา หรือเจ๊ฉอด อายุ 52 ปี ผู้บริหาร เอไทม์ มีเดียในเครือ จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ยื่นฟ้องเป็นจำเลยในความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานปฎิบัติหน้าที่ หรือละเว้นการปฎิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หรือโดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 86 และ 157
คำฟ้องระบุพฤติการณ์ความผิดสรุปว่า เมื่อวันที่ 9 ก.ค.46 กองกระจายเสียงวิทยุและโทรทัศน์ กรมการทหารสื่อสาร กองทัพบก ได้ประกาศประกวดราคา สั่งโฆษณาวิทยุกระจายเสียงคลื่น เอฟเอ็ม 94.5 เมกะเฮิรตซ์ ต่อมาวันที่ 26 ส.ค. 46 ซึ่งเป็นวันกำหนดยื่นซองประกวดราคา มีผู้ยื่น 2 ราย คือ 1.บริษัท บรอดคาสติ้ง เน็ทเวอร์ค (ไทยแลนด์) และ 2.บริษัทโกลบอล มิวสิค เทเลวิชั่น จำกัด
โดยบริษัท บรอดคาสติ้ง เน็ทเวอร์ค (ไทยแลนด์) เป็นผู้ชนะประกวดราคาดังกล่าว ในราคา 1,235,850 บาท ซึ่งการประกวดราคานั้นมี พ.อ.ชิษณุ โสพจน์ อดีตนายทหารประจำกรมการทหารสื่อสาร กองทัพบก ในฐานะผู้ช่วยเลขานุการ คณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียง กรมการทหารสื่อสาร รับผิดชอบเกี่ยวกับเอกสารต่าง ๆ และเป็นเจ้าของเรื่องในการรวบรวมเอกสาร พร้อมทั้งร่างหนังสือรายงานผลการประกวดราคาคัดเลือกผู้สั่งโฆษณา ปี 2547 โดย พ.อ.ชิษณุ ซึ่งถูกโจทก์ยื่นฟ้องเป็นคดีอาญาหมายเลขดำที่ อ.4695/2552 ของศาลอาญานั้น ร่วมกับ พล.อ.นิพนธ์ ธีระพงษ์ ซึ่งยังไม่ได้ตัวมาฟ้อง และจำเลยคดี กระทำผิดต่อกฎหมาย โดยเมื่อวันที่ 1 – 31 ต.ค.46 พ.อ.ชิษณุ อาศัยโอกาสที่เป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่ร่างหนังสือรายงานและนำส่งหนังสือรายงานผลการประกวดราคาคัดเลือกผู้สั่งโฆษณาปี 2547 นำส่งเอกสารดังกล่าวต่อ พ.ต.หญิง ดวงฤดี กิตติยุทธโยธิน เพื่อนำเสนอผู้บัญชาการทหารบกและประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมกองทัพบก โดย พ.อ.ชิษณุ ได้แก้ไขข้อความในรายงานดังกล่าวเกี่ยวกับใบเสนอราคาจากเดิม 7 บริษัท เป็น 8 บริษัท และจำนวนผู้ยื่นซองประกวดราคาจาก 2 ราย เป็น 3 รายโดยเพิ่มชื่อบริษัท จีเอ็มเอ็ม มีเดีย จำกัด ( มหาชน) ยื่นซองประกวดราคาด้วย รวมทั้งแก้ไขจำนวนเงินสั่งโฆษณาจากเดิม 1,155,000 บาท เป็น 1,350,000 บาท จำนวนภาษีจากเดิม 80,850 บาท เป็น 94,500 บาท และยอดรวมเงินจากเดิม 1,235,850 บาทเป็น 1,444,500 บาท
นอกจากนี้ยังปลอมตารางแสดงผลการพิจารณาคัดเลือกผู้สั่งโฆษณาจากเดิมเป็นชื่อ “บริษัท บรอดคาสติ้ง เน็ทเวอร์ค (ไทยแลนด์)” เป็น “ บริษัท จีเอ็มเอ็ม มีเดีย จำกัด ( มหาชน)” ชนะประกวดราคา 1,444,500 บาท การกระทำดังกล่าวทำให้ผู้อื่นหลงเชื่อว่าเอกสารที่ปลอมขึ้นนั้นเป็นจริง ทั้งที่บริษัท จีเอ็มเอ็ม ฯ ไม่ได้เข้าร่วมเสนอราคาคัดเลือกเป็นผู้สั่งโฆษณาตั้งแต่ต้น และไม่เป็นผู้ชนะประกวดราคาแต่อย่างใด ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายแก่กองทัพบก กรมการทหารสื่อสาร บริษัท บรอดคาสติ้ง เน็ทเวอร์ค (ไทยแลนด์) และผู้อื่นหรือประชาชนที่เกี่ยวข้อง
เหตุเกิดที่ แขวงนครไชยศรี เขตดุสิต แขวงบางขุนพรหม เขตพระนคร กทม.ต่อเนื่องกัน ซึ่งหลังเกิดเหตุวันที่ 23 เม.ย.47 นายอิทธิวัฒน์ เพียรเลิศ ประธานกรรมการบริษัท บรอดคาสติ้ง เน็ทเวอร์ค (ไทยแลนด์) ได้ร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ( ป.ป.ช.) ซึ่งไต่สวนแล้วมีคำวินิจฉัยชี้มูลความผิด จึงแยกดำเนินคดี ยื่นฟ้อง พ.อ.ชิษณุ ไว้ก่อนเป็นคดีหมายเลขดำ อ.4695/2552
ศาลประทับรับฟ้องคดีไว้เป็นคดีหมายเลขดำที่ อ.237/2553 และอ่านอธิบายคำฟ้องให้จำเลยฟังแล้วสอบคำให้การ จำเลยยืนกรานปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ศาลจึงนัดตรวจสอบพยานหลักฐานในวันที่ 22 ก.พ.นี้ เวลา 09.00 น.
ภายหลัง นางสายทิพย์ หรือเจ๊ฉอด ได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์ เป็นเงินสด 200,000 บาท ขอประกันตัว ศาลพิจารณาคำร้องแล้วให้ปล่อยตัวชั่วคราวจำเลย โดยตีราคาประกัน 200,000 บาท
ขณะที่นางสายทิพย์ กล่าวว่า ตนไม่ขอพูดถึงรายละเอียดเพราะเป็นเรื่องในสำนวนพูดไม่ได้ ซึ่งการประกวดราคาเกิดขึ้นมาตั้งแต่ ปี 2546 โดยที่ถูกฟ้องคงเป็นเพราะมีชื่อตนปรากฏในเอกสาร
ส่วนการถูกฟ้องคดีนี้จะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของ บ.แกรมมี่ ฯ หรือไม่ นางสายทิพย์ กล่าวว่า เป็นปกติ โอกาสแบบนี้เกิดขึ้นได้ ซึ่งสิ่งที่เราทำมาเป็นสิ่งที่พิสูจน์ได้ ดังนั้นถามว่าจะกระทบหรือไม่คงตอบยาก