ASTVผู้จัดการรายวัน - กำไรแบงก์ปี 52 ประคองได้แค่ทรงตัว "กรุงเทพ-นครหลวงไทย"ขยับเพิ่ม-ลดเล็กน้อย ระบุเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจและสินเชื่อที่หดตัวลง แต่เริ่มเห็นแววฟื้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ขณะที่"ทุนธนชาต-เกียรตินาคิน"ยังไปได้สวย
นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)(BBL) เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงเทพรายงานผลประกอบการสำหรับปี 2552 มีกำไรสุทธิ 20,047 ล้านบาท ซึ่งทรงตัวเมื่อเทียบกับปี 2551 โดยเพิ่มขึ้น0.02 % หรือ 4 ล้านบาท และมีกำไรก่อนหักสำรองและภาษี 35,791 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 258 ล้านบาทหรือ 0.7%
โดยสินเชื่อรวมของธนาคารในไตรมาส 4 ปี 2552 เพิ่มขึ้น 10,758 ล้านบาทหรือ 1.0% จาก ณ สิ้นไตรมาส 3 ทำให้สินเชื่อรวมทั้งปีลดลง 6.0% ปรับตัวดีขึ้นจากที่เคยลดลง 6.9% ในช่วง 9 เดือนแรก ทั้งนี้เป็นผลจากสภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้ลูกค้ามีความต้องการสินเชื่อเพิ่มมากขึ้น อนึ่ง หากนับรวมเงินให้สินเชื่อของสาขาของธนาคารในประเทศจีนที่ธนาคารได้โอนให้แก่ธนาคารกรุงเทพประเทศจีนแล้ว เงินให้สินเชื่อรวมในไตรมาสที่ 4 จะเพิ่มขึ้น3.9% และสินเชื่อรวมทั้งปีจะลดลง3.3%
ขณะที่ในปี 2552 ธนาคารมีรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการเพิ่มขึ้นจำนวน 1,628 ล้านบาท หรือ 9.5% สอดคล้องกับเป้าหมายหลักของธนาคาร โดยเป็นการเพิ่มขึ้นจากหลายผลิตภัณฑ์และบริการ ทั้งธุรกรรมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ บริการที่เกี่ยวเนื่องกับเงินฝาก บริการประกันชีวิตผ่านธนาคาร (แบงก์แอสชัวรันส์) บริการกองทุนรวม และบริการเกี่ยวกับการให้คำปรึกษาและรับประกันการจำหน่ายหุ้นกู้เอกชน ประกอบธนาคารสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้ดีพอสมควรในสภาวะที่ไม่เอื้ออำนวย โดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น2.0% จากปี 2551
SCBกำไรหด600ล้าน
ขณะที่นายวิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB) เปิดเผยว่า ผลประกอบการปี52 (งบการเงินรวมก่อนสอบทาน) ของธนาคารมีกำไรสุทธิ 2.08 หมื่นล้านบาท ลดลง 600 ล้านบาท จากปี 2551 โดยสินเชื่อรวมของธนาคารมีการเติบโตเพิ่มขึ้น 2.5% จากปี 2551 แต่ยังต่ำกว่าเป้าสินเชื่อที่วางไว้ว่าจะต้องเติบโต 3-5%
ทั้งนี้ สินเชื่อรวมในปี52มีการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 2551 นั้นเป็นผลมาจากในไตรมาส 4 ของปี 2552 ที่ความต้องการสินเชื่อของลูกค้าในทุกกลุ่ม ทั้งลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี)และลูกค้ารายบุคคล โดยการให้สินเชื่อลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ขยายตัวสูงถึง 9.4% เมื่อเทียบกับปี 2551 ซึ่งเฉพาะในไตรมาส 4 ขยายตัวถึง 7.6%
ด้านธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) (SCIB) แจ้งกำไรปี 2552 จำนวน 4,147 ล้านบาท หรือคิดเป็นกำไรต่อหุ้น 1.96 บาท ใกล้เคียงกับปี 2551 ที่มีกำไรสุทธิจำนวน 4,114 ล้านบาท หรือคิดเป็นกำไรต่อหุ้น 1.95 บาท
บริษัททุนธนชาต จำกัด (มหาชน)(TCAP)แจ้งกำไรปี 2552 จำนวน 5,109 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,341 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 84.57 จากปี 2551 ที่มีกำไรจำนวน 2,768 ล้านบาท
นายธวัชไชย สุทธิกิจพิศาล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) แจ้งว่า ในปี 2552 (งบการเงินร่วม)ธนาคารมีกำไรสุทธิ 2,229 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่มีกำไร 1,867 ล้านบาท ขณะที่งบการเงินเฉพาะกิจการแจ้งกำไรจำนวน 1,676 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิ 3,017 ล้านบาท
นายชาติศิริ โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)(BBL) เปิดเผยว่า ธนาคารกรุงเทพรายงานผลประกอบการสำหรับปี 2552 มีกำไรสุทธิ 20,047 ล้านบาท ซึ่งทรงตัวเมื่อเทียบกับปี 2551 โดยเพิ่มขึ้น0.02 % หรือ 4 ล้านบาท และมีกำไรก่อนหักสำรองและภาษี 35,791 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 258 ล้านบาทหรือ 0.7%
โดยสินเชื่อรวมของธนาคารในไตรมาส 4 ปี 2552 เพิ่มขึ้น 10,758 ล้านบาทหรือ 1.0% จาก ณ สิ้นไตรมาส 3 ทำให้สินเชื่อรวมทั้งปีลดลง 6.0% ปรับตัวดีขึ้นจากที่เคยลดลง 6.9% ในช่วง 9 เดือนแรก ทั้งนี้เป็นผลจากสภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้ลูกค้ามีความต้องการสินเชื่อเพิ่มมากขึ้น อนึ่ง หากนับรวมเงินให้สินเชื่อของสาขาของธนาคารในประเทศจีนที่ธนาคารได้โอนให้แก่ธนาคารกรุงเทพประเทศจีนแล้ว เงินให้สินเชื่อรวมในไตรมาสที่ 4 จะเพิ่มขึ้น3.9% และสินเชื่อรวมทั้งปีจะลดลง3.3%
ขณะที่ในปี 2552 ธนาคารมีรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการเพิ่มขึ้นจำนวน 1,628 ล้านบาท หรือ 9.5% สอดคล้องกับเป้าหมายหลักของธนาคาร โดยเป็นการเพิ่มขึ้นจากหลายผลิตภัณฑ์และบริการ ทั้งธุรกรรมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ บริการที่เกี่ยวเนื่องกับเงินฝาก บริการประกันชีวิตผ่านธนาคาร (แบงก์แอสชัวรันส์) บริการกองทุนรวม และบริการเกี่ยวกับการให้คำปรึกษาและรับประกันการจำหน่ายหุ้นกู้เอกชน ประกอบธนาคารสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้ดีพอสมควรในสภาวะที่ไม่เอื้ออำนวย โดยมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น2.0% จากปี 2551
SCBกำไรหด600ล้าน
ขณะที่นายวิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) (SCB) เปิดเผยว่า ผลประกอบการปี52 (งบการเงินรวมก่อนสอบทาน) ของธนาคารมีกำไรสุทธิ 2.08 หมื่นล้านบาท ลดลง 600 ล้านบาท จากปี 2551 โดยสินเชื่อรวมของธนาคารมีการเติบโตเพิ่มขึ้น 2.5% จากปี 2551 แต่ยังต่ำกว่าเป้าสินเชื่อที่วางไว้ว่าจะต้องเติบโต 3-5%
ทั้งนี้ สินเชื่อรวมในปี52มีการเติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 2551 นั้นเป็นผลมาจากในไตรมาส 4 ของปี 2552 ที่ความต้องการสินเชื่อของลูกค้าในทุกกลุ่ม ทั้งลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ ลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี)และลูกค้ารายบุคคล โดยการให้สินเชื่อลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ขยายตัวสูงถึง 9.4% เมื่อเทียบกับปี 2551 ซึ่งเฉพาะในไตรมาส 4 ขยายตัวถึง 7.6%
ด้านธนาคารนครหลวงไทย จำกัด (มหาชน) (SCIB) แจ้งกำไรปี 2552 จำนวน 4,147 ล้านบาท หรือคิดเป็นกำไรต่อหุ้น 1.96 บาท ใกล้เคียงกับปี 2551 ที่มีกำไรสุทธิจำนวน 4,114 ล้านบาท หรือคิดเป็นกำไรต่อหุ้น 1.95 บาท
บริษัททุนธนชาต จำกัด (มหาชน)(TCAP)แจ้งกำไรปี 2552 จำนวน 5,109 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,341 ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ 84.57 จากปี 2551 ที่มีกำไรจำนวน 2,768 ล้านบาท
นายธวัชไชย สุทธิกิจพิศาล กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเกียรตินาคิน จำกัด (มหาชน) แจ้งว่า ในปี 2552 (งบการเงินร่วม)ธนาคารมีกำไรสุทธิ 2,229 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่มีกำไร 1,867 ล้านบาท ขณะที่งบการเงินเฉพาะกิจการแจ้งกำไรจำนวน 1,676 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อนหน้าที่มีกำไรสุทธิ 3,017 ล้านบาท