นายวิทยา บุรณศิริ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน กล่าวถึงการยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า ตนได้คุยกับร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการกลั่นกรองข้อมูล อภิปรายไม่ไว้วางใจแล้ว คาดว่าจะสามารถยื่นญัตติได้ปลายเดือนก.พ.และวันอภิปรายน่าจะเป็นช่วงเดือนมี.ค.ซึ่งคิดว่าคงไม่สายเกินไป
เราไม่ได้นำวันตัดสินคดียึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาทของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาเป็นเงื่อนไขตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์
สำหรับการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้จะพุ่งเป้าไปที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้นำรัฐบาลและผู้คุมนโยบายทั้งหมด ส่วนกระทรวงที่ปรากฏว่า มีการทุจริตนั้นจะต้องยื่นอภิปรายแน่นอนไม่มีการเปลี่ยนแปลง แม้ว่าจะมีการปรับครม. ไปแล้วก็ตาม เนื่องจากกฎหมายสามารถสาวไปถึงได้อยู่แล้ว ไม่มีปัญหา
นายวิทยา ยังกล่าวถึงการทำงานของฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรด้วยว่า ในการประชุมสภาสมัยสามัญทั่วไปฝ่ายค้านจะทำงานเข้มข้นมากขึ้น โดยจะติดตาม ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลให้เป็นไปตามนโยบายที่ประกาศไว้
มันหมดยุคของการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีเป็นว่าเล่นแล้ว ไม่ใช่พอใครเล่น ไม่ดีแล้วเปลี่ยนตัวออกซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ตรงจุด ส่วนกรณีที่วิปรัฐบาลเพ่งเล็งมาที่ฝ่ายค้านว่าเป็นผู้ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์สภาล่มบ่อยครั้งนั้น ความจริงเรื่องนี้ฝ่ายที่ต้องดูแลรับผิดชอบคือรัฐบาลไม่เกี่ยวกับฝ่ายค้าน ที่ผ่านมารัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์เองต่างหากที่ไม่สามารถควบคุมเสียงพรรคร่วมรัฐบาลได้
ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการกลั่นกรองข้อมูลอภิปรายไม่ไว้วางใจ กล่าวว่า วันนี้ (20 ม.ค.) จะเรียกประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองข้อมูลฯทั้งคณะ เบื้องต้นได้กำหนดไว้คร่าวๆว่าจะอภิปราย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศอย่างแน่นอน รวมทั้งจะยื่นถอดถอนด้วย
ส่วนรัฐมนตรีคนอื่นๆ จะให้ส.ส.พิจารณาแต่จะขอให้น้อยคนที่สุด โดยผู้ทำหน้าที่อภิปราย จะวางไว้ไม่เกิน 12-15 คน ใช้เวลาการอภิปราย 1 วันครึ่ง และสรุปปิดท้าย 2 ชั่วโมงโดยตนจะขอเป็นผู้สรุปในช่วงบ่ายของวันอภิปรายวันที่ 2
สำหรับวันยื่นญัตตินั้นจะขอดูฤกษ์ผานาทีก่อน วันไหนเป็นวันดาวดับของ นายอภิสิทธิ์ตนจึงจะไปยื่น แต่ยืนยันว่าช่วงเวลาที่ยื่นนั้นจะไม่เกี่ยวข้องกับการพิจารณา คดียึดทรัพย์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพราะเป็นคนละเรื่อง คนเที่ยวเอามาพูดทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณเสียหาย ส่วนตัวมั่นใจว่าการอภิปรายครั้งนี้ประชาชนจะไม่ผิดหวังแน่นอน
ผู้สื่อข่าวถามว่ารายชื่อผู้อภิปรายของพรรคจะต้องนำไปให้พ.ต.ท.ทักษิณพิจารณาก่อนหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ไม่ต้อง พ.ต.ท.ทักษิณไม่เกี่ยวข้อง อดีตนายกฯไม่เคยบอกว่าจะต้องอภิปรายเมื่อไหร่อย่างไร การที่ส.ส.บางคนอกมาระบุว่าจะต้องไปพบไปให้ข้อมูลนั้นเป็นสิทธิส่วนบุคคล
ผมจะขออนุญาตพรรคเป็นผู้ยกร่างด้วยตัวเอง จากนั้นจะนำมาให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาตรวจทาน ส่วนจะใส่ชื่อใครเป็นแคนดิเดทนายกฯนั้นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เป็นเพียงรูปแบบเท่านั้น เพราะโหวตให้ตายร้อยชาติ ก็ไม่มีทางที่พรรคร่วมรัฐบาลจะแตกกัน ขึ้นอยู่กับพรรคว่าจะเลือกใครผมไม่ขัดข้องทั้งนั้น
ด้าน นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะคณะกรรมการกลั่นกรองข้อมูลอภิปรายไม่ไว้วางใจ กล่าวว่า หลังจากที่ตนได้โทรศัพท์พูดคุย กับพ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นทำให้ทราบว่า ประมาณปลายเดือน ม.ค. ถึงต้นเดือน ก.พ.นี้ พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางมาที่ประเทศกัมพูชาเพื่อมาปฎิบัติภารกิจ ในฐานะที่ปรึกษาเศรษฐกิจของสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมตรีกัมพูชา และเพื่อหารือกับแกนนำพรรคและส.ส.พรรคเพื่อไทยในการเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยจะมีแกนนำพรรคและกลุ่มส.ส.ซึ่งอยู่ในคณะกลั่นกรองข้อมูลอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่วนหนึ่งจะเดินทางไปพบพ.ต.ท.ทักษิณด้วย เบื้องต้นเท่าที่ทราบมีจำนวน 3 คนคือ ตน นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ และนายมานิต จิตจันทร์กลับ ส.ส.สัดส่วน เพื่อนำข้อมูลการอภิปรายทั้งหมดไปให้พ.ต.ท.ทักษิณพิจารณาเลือกประเด็นที่พรรคจะอภิปรายฯ
ตนจะไปพบท่านเพื่อให้ท่านช่วยแนะนำประเด็น รวมทั้งซ้อมใหญ่ จะไปพรีเซ็นต์ต่อหน้าท่านโดยตรง ซึ่งที่ผ่านมาท่านก็เข้ามาช่วยโดยเอาข้อมูลเชิงลึก มาให้ รวมทั้งแนะนำให้ไปหาแหล่งข่าวจากที่นั่นที่นี่ แต่สิ่งที่ท่านได้ย้ำกับเราคือ ครั้งนี้จะต้องเน้นชูหลักฐานเท่านั้นเพื่อให้สังคมเชื่อและต้องโยงถึงกลุ่มทุนที่อยู่เบื้องหลังพรรคการเมืองทุกพรรคไม่เว้นแม้แต่พรรคร่วมรัฐบาล จะไปรอความหวังว่า พรรคร่วมรัฐบาลจะมาร่วมกับพรรคเพื่อไทยหลังการอภิปรายฯนั้นไม่ได้ วันนี้ถ้า ร.ต.อ.เฉลิม เป็นผู้กำกับในละครเรื่องศึกซักฟอก พ.ต.ท.ทักษิณก็จะเป็นโปรดิวเซอร์ที่ใหญ่กว่าไดเรคเตอร์ด้วยซ้ำ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ร.ต.อ.เฉลิมจะเดินทางไปพบพ.ต.ท.ทักษิณที่กัมพูชาด้วย หรือไม่ นายสุรพงษ์กล่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิมเป็นประธานคณะกรรมการกลั่นกรองข้อมูลอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็คิดเอาเองแล้วกันว่าร.ต.อ.เฉลิมจะไปหรือไม่
เราไม่ได้นำวันตัดสินคดียึดทรัพย์ 76,000 ล้านบาทของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร มาเป็นเงื่อนไขตามที่หลายฝ่ายคาดการณ์
สำหรับการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้จะพุ่งเป้าไปที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้นำรัฐบาลและผู้คุมนโยบายทั้งหมด ส่วนกระทรวงที่ปรากฏว่า มีการทุจริตนั้นจะต้องยื่นอภิปรายแน่นอนไม่มีการเปลี่ยนแปลง แม้ว่าจะมีการปรับครม. ไปแล้วก็ตาม เนื่องจากกฎหมายสามารถสาวไปถึงได้อยู่แล้ว ไม่มีปัญหา
นายวิทยา ยังกล่าวถึงการทำงานของฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรด้วยว่า ในการประชุมสภาสมัยสามัญทั่วไปฝ่ายค้านจะทำงานเข้มข้นมากขึ้น โดยจะติดตาม ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลให้เป็นไปตามนโยบายที่ประกาศไว้
มันหมดยุคของการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีเป็นว่าเล่นแล้ว ไม่ใช่พอใครเล่น ไม่ดีแล้วเปลี่ยนตัวออกซึ่งเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ตรงจุด ส่วนกรณีที่วิปรัฐบาลเพ่งเล็งมาที่ฝ่ายค้านว่าเป็นผู้ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์สภาล่มบ่อยครั้งนั้น ความจริงเรื่องนี้ฝ่ายที่ต้องดูแลรับผิดชอบคือรัฐบาลไม่เกี่ยวกับฝ่ายค้าน ที่ผ่านมารัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์เองต่างหากที่ไม่สามารถควบคุมเสียงพรรคร่วมรัฐบาลได้
ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง ประธานส.ส.พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการกลั่นกรองข้อมูลอภิปรายไม่ไว้วางใจ กล่าวว่า วันนี้ (20 ม.ค.) จะเรียกประชุมคณะกรรมการกลั่นกรองข้อมูลฯทั้งคณะ เบื้องต้นได้กำหนดไว้คร่าวๆว่าจะอภิปราย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศอย่างแน่นอน รวมทั้งจะยื่นถอดถอนด้วย
ส่วนรัฐมนตรีคนอื่นๆ จะให้ส.ส.พิจารณาแต่จะขอให้น้อยคนที่สุด โดยผู้ทำหน้าที่อภิปราย จะวางไว้ไม่เกิน 12-15 คน ใช้เวลาการอภิปราย 1 วันครึ่ง และสรุปปิดท้าย 2 ชั่วโมงโดยตนจะขอเป็นผู้สรุปในช่วงบ่ายของวันอภิปรายวันที่ 2
สำหรับวันยื่นญัตตินั้นจะขอดูฤกษ์ผานาทีก่อน วันไหนเป็นวันดาวดับของ นายอภิสิทธิ์ตนจึงจะไปยื่น แต่ยืนยันว่าช่วงเวลาที่ยื่นนั้นจะไม่เกี่ยวข้องกับการพิจารณา คดียึดทรัพย์ของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพราะเป็นคนละเรื่อง คนเที่ยวเอามาพูดทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณเสียหาย ส่วนตัวมั่นใจว่าการอภิปรายครั้งนี้ประชาชนจะไม่ผิดหวังแน่นอน
ผู้สื่อข่าวถามว่ารายชื่อผู้อภิปรายของพรรคจะต้องนำไปให้พ.ต.ท.ทักษิณพิจารณาก่อนหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ไม่ต้อง พ.ต.ท.ทักษิณไม่เกี่ยวข้อง อดีตนายกฯไม่เคยบอกว่าจะต้องอภิปรายเมื่อไหร่อย่างไร การที่ส.ส.บางคนอกมาระบุว่าจะต้องไปพบไปให้ข้อมูลนั้นเป็นสิทธิส่วนบุคคล
ผมจะขออนุญาตพรรคเป็นผู้ยกร่างด้วยตัวเอง จากนั้นจะนำมาให้ฝ่ายกฎหมายพิจารณาตรวจทาน ส่วนจะใส่ชื่อใครเป็นแคนดิเดทนายกฯนั้นไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เป็นเพียงรูปแบบเท่านั้น เพราะโหวตให้ตายร้อยชาติ ก็ไม่มีทางที่พรรคร่วมรัฐบาลจะแตกกัน ขึ้นอยู่กับพรรคว่าจะเลือกใครผมไม่ขัดข้องทั้งนั้น
ด้าน นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ในฐานะคณะกรรมการกลั่นกรองข้อมูลอภิปรายไม่ไว้วางใจ กล่าวว่า หลังจากที่ตนได้โทรศัพท์พูดคุย กับพ.ต.ท.ทักษิณ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นทำให้ทราบว่า ประมาณปลายเดือน ม.ค. ถึงต้นเดือน ก.พ.นี้ พ.ต.ท.ทักษิณจะเดินทางมาที่ประเทศกัมพูชาเพื่อมาปฎิบัติภารกิจ ในฐานะที่ปรึกษาเศรษฐกิจของสมเด็จฮุนเซน นายกรัฐมตรีกัมพูชา และเพื่อหารือกับแกนนำพรรคและส.ส.พรรคเพื่อไทยในการเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยจะมีแกนนำพรรคและกลุ่มส.ส.ซึ่งอยู่ในคณะกลั่นกรองข้อมูลอภิปรายไม่ไว้วางใจ ส่วนหนึ่งจะเดินทางไปพบพ.ต.ท.ทักษิณด้วย เบื้องต้นเท่าที่ทราบมีจำนวน 3 คนคือ ตน นายประชา ประสพดี ส.ส.สมุทรปราการ และนายมานิต จิตจันทร์กลับ ส.ส.สัดส่วน เพื่อนำข้อมูลการอภิปรายทั้งหมดไปให้พ.ต.ท.ทักษิณพิจารณาเลือกประเด็นที่พรรคจะอภิปรายฯ
ตนจะไปพบท่านเพื่อให้ท่านช่วยแนะนำประเด็น รวมทั้งซ้อมใหญ่ จะไปพรีเซ็นต์ต่อหน้าท่านโดยตรง ซึ่งที่ผ่านมาท่านก็เข้ามาช่วยโดยเอาข้อมูลเชิงลึก มาให้ รวมทั้งแนะนำให้ไปหาแหล่งข่าวจากที่นั่นที่นี่ แต่สิ่งที่ท่านได้ย้ำกับเราคือ ครั้งนี้จะต้องเน้นชูหลักฐานเท่านั้นเพื่อให้สังคมเชื่อและต้องโยงถึงกลุ่มทุนที่อยู่เบื้องหลังพรรคการเมืองทุกพรรคไม่เว้นแม้แต่พรรคร่วมรัฐบาล จะไปรอความหวังว่า พรรคร่วมรัฐบาลจะมาร่วมกับพรรคเพื่อไทยหลังการอภิปรายฯนั้นไม่ได้ วันนี้ถ้า ร.ต.อ.เฉลิม เป็นผู้กำกับในละครเรื่องศึกซักฟอก พ.ต.ท.ทักษิณก็จะเป็นโปรดิวเซอร์ที่ใหญ่กว่าไดเรคเตอร์ด้วยซ้ำ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ร.ต.อ.เฉลิมจะเดินทางไปพบพ.ต.ท.ทักษิณที่กัมพูชาด้วย หรือไม่ นายสุรพงษ์กล่าวว่า ร.ต.อ.เฉลิมเป็นประธานคณะกรรมการกลั่นกรองข้อมูลอภิปรายไม่ไว้วางใจ ก็คิดเอาเองแล้วกันว่าร.ต.อ.เฉลิมจะไปหรือไม่