กระทรวงท่องเที่ยวฯ เตรียมเรียกผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวระดมความคิดกำหนดมาตรฐานราคาทัวร์ขั้นต่ำ ก่อนประกาศใช้บังคับ เม.ย.53 ภายใต้ พ.ร.บธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ “ศศิธารา” แจง ต้องตีความหมาย “ค่าทัวร์” ก่อนสรุปราคาขั้นต่ำเป็นรายตลาด เน้นทุกฝ่ายยอมรับได้
น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะประธานคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 10 ก.พ.53 จะเชิญภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด(สเต็คโฮลเดอร์)ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เช่น โรงแรม บริษัทนำเที่ยว ร้านอาหาร มัคคุเทศก์ สถาบันการศึกษา รวมถึงสมาคมท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อมาระดมความคิดใน 2-3 ประเด็น ได้แก่ 1. เพื่อร่วมตีความตามพ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ว่าด้วย”ค่าทัวร์” ซึ่งจะต้องประกอบด้วยอะไรบ้าง เช่น ที่พัก อาหาร โปรแกรมนำเที่ยว และอื่นๆ เป็นต้น 2.ราคาทัวร์ตามปกติแล้วจะต้องประมาณการณ์ที่ราคาเท่าใด หากใช้บริการที่พักในะรดับ 2 , 3 และ 4 ดาว และเป็นราคาที่จะกำหนดเพื่อใช้สำหรับนักท่องเที่ยวจากประเทศใด เช่น จีน หรือ ยุโรป และ 3.ขอทราบความคิดเห็นจากภาคเอกชนว่า ราคาขั้นต่ำของทัวร์เพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวแต่ละตลาด เช่น จีน ยุโรป ตะวันออกกลาง ญี่ปุ่น อเมริกา หรือสแกนดิเนเวีย จะต้องเริ่มต้นค่าบริการที่คนละเท่าใด
ทั้งนี้”ค่าทัวร์” เป็นคำที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวฯจะต้องขอความคิดเห็นจากภาคเอกชนซึ่งอยู่ในธุรกิจท่องเที่ยวมีความรู้ความเชี่ยวชาญในแต่ละตลาดเป็นอย่างดีมาช่วยตีความ เพื่อกำหนดเป็นราคาทัวร์ขั้นต่ำตามกฎหมาย โดยไม่มีเพดานขั้นสูงสุด แต่ทั้งนี้คำว่าขั้นต่ำแต่ละตลาดจะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับกำลังซื้อของแต่ละตลาด ระยะทาง แต่จำเป็นต้องมีกำหนดไว้ให้เป็นมาตรฐานของแต่ละตลาด
“ตามพ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ จะต้องมีการออกกฎหมายลุกเพื่อประกาศใช้กว่า 200 ข้อ ค่าทัวร์เป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งขั้นตอนนี้ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน คือ จดหมายถามไปยังภาคเอกชน ประชุมถามความคิดเห็น จ้างบริษัทเอกชนเป็นผู้ประเมิน และขั้นตอนสุดท้ายคือ การเรียกประชุมใหญ่สเต็คโฮลเดอร์ทั้งหมด เพื่อหาข้อสรุป ซึ่งจะเตรียมทำในวันที่ 10 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อจะเริ่มประกาศใช้เป็นกฎข้อบังคับภายในเดือนเมษายนศกนี้ตามกำหนด ”
อย่างไรก็ตามภายหลังส่งจดหมายเวียนถามไปยังภาคเอกชน เมื่อปลายปีที่ผ่านมาก็ได้รับเสียงคัดค้านไม่เห็นด้วยหากจะกำหนดราคาขั้นต่ำที่ 25 เหรียญต่อคนต่อวัน หรือราว 825 บาท ดังนั้นในการประชุมครั้งนี้จะเชิญทุกฝ่ายมาตีความกันให้ชัดเจนถึงคำว่า”ค่าทัวร์”และมาตรฐานการให้บริการในระดับราคานั้นๆ ซึ่งที่ไม่กำหนดราคาขั้นสูงเพราะถือเป็นความต้องการของนักท่องเที่ยวที่จะเลือกใช้บริการในระดับราคาที่สูงขึ้นไป
ทางด้านนายอภิชาติ สังฆอารี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สหพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย(เฟตต้า) กล่าวว่า ยินดีที่จะไปร่วมประชุมกับคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ เพื่อรับฟังเหตุผล และ ร่วมการสรุปกำหนดราคาทัวร์ขั้นต่ำ ซึ่งรู้สึกยินดีที่ภาครัฐยอมฟังภาคเอกชนและล้มเลิกที่จะกำหนดราคาที่ 25 เหรียญสหรัฐต่อวันไปแล้ว
น.ส.ศศิธารา พิชัยชาญณรงค์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะประธานคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ เปิดเผยว่า ในวันที่ 10 ก.พ.53 จะเชิญภาคเอกชนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด(สเต็คโฮลเดอร์)ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เช่น โรงแรม บริษัทนำเที่ยว ร้านอาหาร มัคคุเทศก์ สถาบันการศึกษา รวมถึงสมาคมท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อมาระดมความคิดใน 2-3 ประเด็น ได้แก่ 1. เพื่อร่วมตีความตามพ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ว่าด้วย”ค่าทัวร์” ซึ่งจะต้องประกอบด้วยอะไรบ้าง เช่น ที่พัก อาหาร โปรแกรมนำเที่ยว และอื่นๆ เป็นต้น 2.ราคาทัวร์ตามปกติแล้วจะต้องประมาณการณ์ที่ราคาเท่าใด หากใช้บริการที่พักในะรดับ 2 , 3 และ 4 ดาว และเป็นราคาที่จะกำหนดเพื่อใช้สำหรับนักท่องเที่ยวจากประเทศใด เช่น จีน หรือ ยุโรป และ 3.ขอทราบความคิดเห็นจากภาคเอกชนว่า ราคาขั้นต่ำของทัวร์เพื่อให้บริการนักท่องเที่ยวแต่ละตลาด เช่น จีน ยุโรป ตะวันออกกลาง ญี่ปุ่น อเมริกา หรือสแกนดิเนเวีย จะต้องเริ่มต้นค่าบริการที่คนละเท่าใด
ทั้งนี้”ค่าทัวร์” เป็นคำที่กำหนดไว้ใน พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวฯจะต้องขอความคิดเห็นจากภาคเอกชนซึ่งอยู่ในธุรกิจท่องเที่ยวมีความรู้ความเชี่ยวชาญในแต่ละตลาดเป็นอย่างดีมาช่วยตีความ เพื่อกำหนดเป็นราคาทัวร์ขั้นต่ำตามกฎหมาย โดยไม่มีเพดานขั้นสูงสุด แต่ทั้งนี้คำว่าขั้นต่ำแต่ละตลาดจะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับกำลังซื้อของแต่ละตลาด ระยะทาง แต่จำเป็นต้องมีกำหนดไว้ให้เป็นมาตรฐานของแต่ละตลาด
“ตามพ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ จะต้องมีการออกกฎหมายลุกเพื่อประกาศใช้กว่า 200 ข้อ ค่าทัวร์เป็นหนึ่งในนั้น ซึ่งขั้นตอนนี้ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน คือ จดหมายถามไปยังภาคเอกชน ประชุมถามความคิดเห็น จ้างบริษัทเอกชนเป็นผู้ประเมิน และขั้นตอนสุดท้ายคือ การเรียกประชุมใหญ่สเต็คโฮลเดอร์ทั้งหมด เพื่อหาข้อสรุป ซึ่งจะเตรียมทำในวันที่ 10 กุมภาพันธ์นี้ เพื่อจะเริ่มประกาศใช้เป็นกฎข้อบังคับภายในเดือนเมษายนศกนี้ตามกำหนด ”
อย่างไรก็ตามภายหลังส่งจดหมายเวียนถามไปยังภาคเอกชน เมื่อปลายปีที่ผ่านมาก็ได้รับเสียงคัดค้านไม่เห็นด้วยหากจะกำหนดราคาขั้นต่ำที่ 25 เหรียญต่อคนต่อวัน หรือราว 825 บาท ดังนั้นในการประชุมครั้งนี้จะเชิญทุกฝ่ายมาตีความกันให้ชัดเจนถึงคำว่า”ค่าทัวร์”และมาตรฐานการให้บริการในระดับราคานั้นๆ ซึ่งที่ไม่กำหนดราคาขั้นสูงเพราะถือเป็นความต้องการของนักท่องเที่ยวที่จะเลือกใช้บริการในระดับราคาที่สูงขึ้นไป
ทางด้านนายอภิชาติ สังฆอารี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สหพันธ์สมาคมท่องเที่ยวไทย(เฟตต้า) กล่าวว่า ยินดีที่จะไปร่วมประชุมกับคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ เพื่อรับฟังเหตุผล และ ร่วมการสรุปกำหนดราคาทัวร์ขั้นต่ำ ซึ่งรู้สึกยินดีที่ภาครัฐยอมฟังภาคเอกชนและล้มเลิกที่จะกำหนดราคาที่ 25 เหรียญสหรัฐต่อวันไปแล้ว
