สยามพิวรรธน์ ปรับใหญ่ สยามเซ็นเตอร์-สยามดิสคัฟเวอรี่ ดึง 3 แม็กเน็ตใหญ่เข้าสยามดิสคัฟเวอรี่ทั้ง “พิพิธภัณฑ์มาดามทุสโซ-ไอซ์แพลนแนท-ฮอล์ใหญ่” ลงทุนร่วม 1,000 ล้านบาทจากทุกฝ่าย
นางชฎาทิพ จูตระกูล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้จะใช้งบลงทุนในการปรับปรุงโฉมใหม่ครั้งใหญ่ของทั้งสยามเซ็นเตอร์ที่เพิ่งรีโนเวตไปเมื่อ 4 ปีที่แล้ว และสยามดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์ ที่เปิดมาครบ 13 ปี โดยในส่วนของ สยามดิสคัฟเวอรี่ คาดว่าต้องใช้งบประมาณกว่า 350 ล้านบาท ในการปรับพื้นที่ชั้น 6-7-8ด้วยการดึงพันธมิตรใหม่เข้ามาใช้พื้นที่ถึง 3 รายเพื่อเป็นแม็กเน็ตให้กับศูนย์ รวมพื้นที่ 8,000 ตารางเมตร
โดยสยามดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์
ทั้งนี้เพราะผู้เช่ารายใหญ่คือ โรงหนังอีจีวี หมดสัญญาเช่าพื้นที่กว่า 6,000 ตารางเมตร พอดีพร้อมกับการปรับร้านค้าที่หมดสัญญาอื่นด้วย คาดว่ามีประมาณ 20% จากจำนวนทั้งหมดที่ต้องปรับเปลี่ยน อีกทั้งการแข่งขันของค้าปลีกทุกวันนี้ต้องมีการปรับโฉมตลอดเวลาและเร็วขึ้นจากเดิม 7 ปีปรับใหญ่ แต่ว่าขณะนี้ 3ปีก็ต้องปรับใหญ่กันแล้วเพื่อดึงดูดลูกค้า ซึ่งด้านหน้าสยามดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์จะตกแต่งใหม่ด้วยวัสดุที่เรียกว่า อีทีเอฟอี มีน้ำหนักเบากว่ากระจกและเป็นอาคารแรกในไทยที่ใช้วัสดุนี้
แม็กเน็ตแรกคือ บริษัท เมอร์ลิน เอ็นเทอร์เทนเมนต์ จำกัด จะลงทุน 500 ล้านบาท สร้าง พิพิธภัณฑ์มาดามทุสโซกรุงเทพฯ ชั้น 6-7 พื้นที่ 3,000 ตร.ม. เป็นแห่งที่ 10 ของโลก และแห่งที่ 3 ในเอเซีย ซึ่งก่อนที่เมอร์ลบินจะตัดสินใจลงทุนในไทย เราต้องแข่งขันกับมาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย คาดว่ามีปริมาณคนเที่ยว 8,000 คนต่อวันหลังเปิดบริการ แม็กเน็ตที่สองคือ ไอซ์ แพลนเนท ลงทุน 180 ล้านบาท โดยบริษัท ไอซ์ แพลนแนท (ประเทศไทย) จำกัด พื้นที่ 2,000 ตารางเมตร ชั้น 8 คาดว่าจะมีผู้เข้าใช้บริการ 1,000 คนในวันธรรมดาและ 2,000 คนในวันหยุด แม็กเน็ตสุดท้ายคือ มัลติเพอร์โพส ฮอลล์ พื้นที่ 1,500 ตารางเมตร ชั้น 7 ลงทุน 50 ล้านบาทโดย บริษัท รอยัล พารากอน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ในเครือสยามพารากอน
“การลงทุนเหล่านี้เพื่อตอกย้ำความเป็นทัวร์ริสต์เดสติเนชั่นของกรุงเทพฯ และช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยอย่างเต็มที่ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทย และสร้างความเชื่อมั่นในสายตาต่างชาติว่ากรุงเทพและประเทศไทย มีศักยภาพสูงด้านการเป็นแหล่งลงทุนที่มีความน่าดึงดูดและพร้อมในทุกด้าน ทั้งนี้ช่วง 2เดือนที่ผ่านมาพบว่ากำลังซื้อจากนักท่องเที่ยวในศูนย์ฯของบริษัทฯกลับมาดีขึ้นแล้ว มากกว่า 6,000 บาทต่อคน จากก่อนหน้านี้ที่ช่วงไม่ดีอยู่ที่ 3,000 บาทต่อคน”
นางชฎาทิพกล่าวต่อว่า แม็กเน็ตใหม่เหล่านี้ คาดว่าจะเปิดบริการได้ในช่วงปลายปีนี้ จะช่วยทำให้บริษัทฯสามารถขยายฐานลูกค้าได้ในวงกว้างตั้งแต่เด็กถึงผู้ใหญ่ แต่ยังคงจับกลุ่มรายได้ เอ บี เป็นหลัก และยังจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวเพิ่มเป็น 80,000 คนต่อวัน จากเดิม 40,000 คนต่อวัน และจะเพิ่มสัดส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็น 40% จากเดิม 35% และคนไทย 65% เป็น 60%
นางชฎาทิพ จูตระกูล กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้จะใช้งบลงทุนในการปรับปรุงโฉมใหม่ครั้งใหญ่ของทั้งสยามเซ็นเตอร์ที่เพิ่งรีโนเวตไปเมื่อ 4 ปีที่แล้ว และสยามดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์ ที่เปิดมาครบ 13 ปี โดยในส่วนของ สยามดิสคัฟเวอรี่ คาดว่าต้องใช้งบประมาณกว่า 350 ล้านบาท ในการปรับพื้นที่ชั้น 6-7-8ด้วยการดึงพันธมิตรใหม่เข้ามาใช้พื้นที่ถึง 3 รายเพื่อเป็นแม็กเน็ตให้กับศูนย์ รวมพื้นที่ 8,000 ตารางเมตร
โดยสยามดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์
ทั้งนี้เพราะผู้เช่ารายใหญ่คือ โรงหนังอีจีวี หมดสัญญาเช่าพื้นที่กว่า 6,000 ตารางเมตร พอดีพร้อมกับการปรับร้านค้าที่หมดสัญญาอื่นด้วย คาดว่ามีประมาณ 20% จากจำนวนทั้งหมดที่ต้องปรับเปลี่ยน อีกทั้งการแข่งขันของค้าปลีกทุกวันนี้ต้องมีการปรับโฉมตลอดเวลาและเร็วขึ้นจากเดิม 7 ปีปรับใหญ่ แต่ว่าขณะนี้ 3ปีก็ต้องปรับใหญ่กันแล้วเพื่อดึงดูดลูกค้า ซึ่งด้านหน้าสยามดิสคัฟเวอรี่เซ็นเตอร์จะตกแต่งใหม่ด้วยวัสดุที่เรียกว่า อีทีเอฟอี มีน้ำหนักเบากว่ากระจกและเป็นอาคารแรกในไทยที่ใช้วัสดุนี้
แม็กเน็ตแรกคือ บริษัท เมอร์ลิน เอ็นเทอร์เทนเมนต์ จำกัด จะลงทุน 500 ล้านบาท สร้าง พิพิธภัณฑ์มาดามทุสโซกรุงเทพฯ ชั้น 6-7 พื้นที่ 3,000 ตร.ม. เป็นแห่งที่ 10 ของโลก และแห่งที่ 3 ในเอเซีย ซึ่งก่อนที่เมอร์ลบินจะตัดสินใจลงทุนในไทย เราต้องแข่งขันกับมาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย คาดว่ามีปริมาณคนเที่ยว 8,000 คนต่อวันหลังเปิดบริการ แม็กเน็ตที่สองคือ ไอซ์ แพลนเนท ลงทุน 180 ล้านบาท โดยบริษัท ไอซ์ แพลนแนท (ประเทศไทย) จำกัด พื้นที่ 2,000 ตารางเมตร ชั้น 8 คาดว่าจะมีผู้เข้าใช้บริการ 1,000 คนในวันธรรมดาและ 2,000 คนในวันหยุด แม็กเน็ตสุดท้ายคือ มัลติเพอร์โพส ฮอลล์ พื้นที่ 1,500 ตารางเมตร ชั้น 7 ลงทุน 50 ล้านบาทโดย บริษัท รอยัล พารากอน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ในเครือสยามพารากอน
“การลงทุนเหล่านี้เพื่อตอกย้ำความเป็นทัวร์ริสต์เดสติเนชั่นของกรุงเทพฯ และช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยอย่างเต็มที่ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศไทย และสร้างความเชื่อมั่นในสายตาต่างชาติว่ากรุงเทพและประเทศไทย มีศักยภาพสูงด้านการเป็นแหล่งลงทุนที่มีความน่าดึงดูดและพร้อมในทุกด้าน ทั้งนี้ช่วง 2เดือนที่ผ่านมาพบว่ากำลังซื้อจากนักท่องเที่ยวในศูนย์ฯของบริษัทฯกลับมาดีขึ้นแล้ว มากกว่า 6,000 บาทต่อคน จากก่อนหน้านี้ที่ช่วงไม่ดีอยู่ที่ 3,000 บาทต่อคน”
นางชฎาทิพกล่าวต่อว่า แม็กเน็ตใหม่เหล่านี้ คาดว่าจะเปิดบริการได้ในช่วงปลายปีนี้ จะช่วยทำให้บริษัทฯสามารถขยายฐานลูกค้าได้ในวงกว้างตั้งแต่เด็กถึงผู้ใหญ่ แต่ยังคงจับกลุ่มรายได้ เอ บี เป็นหลัก และยังจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวเพิ่มเป็น 80,000 คนต่อวัน จากเดิม 40,000 คนต่อวัน และจะเพิ่มสัดส่วนนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็น 40% จากเดิม 35% และคนไทย 65% เป็น 60%
