เอเอฟพี/รอยเตอร์ - แผ่นดินไหวรุนแรงในเฮติเป็นโศกนาฏกรรมที่อาจจะมีผู้เสียชีวิตถึง 100,000 คน นายกรัฐมนตรีของประเทศแถบแคริบเบียนแห่งนี้แถลง ขณะที่การช่วยเหลือผู้รอดชีวิตท่ามกลางศพจำนวนมากซึ่งติดอยู่ตามซากปรักหักพังเมื่อวานนี้(14) ดำเนินไปด้วยความลำบากและต้องแข่งกับเวลา ด้านประชาชนในเมืองหลวงปอร์โตแปรงซ์ ไร้ที่อยู่และหวั่นผวาอาฟเตอร์ช็อก ต้องออกมานอนตามสวนสาธารณะและท้องถนนเป็นคืนที่สองแล้ว โดยที่อาหารและยารักษาโรคทำท่าจะขาดแคลน เวลานี้พวกเขาต่างตั้งความหวังไว้กับความช่วยเหลือของนานาชาติ ซึ่งกำลังเริ่มทยอยมาถึง
ผู้คนจำนวนหลายแสนของกรุงปอร์โตแปรงซ์ ซึ่งโชคดีรอดชีวิตจากแผ่นดินไหวรุนแรงระดับ 7.0 ถล่มเมื่อเย็นวันอังคาร(12) ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับเช้ามืดวันพุธที่ 13 เวลาเมืองไทย) แต่โชคร้ายที่ต้องกลายเป็นคนไร้บ้าน ตลอดจนได้รับบาดเจ็บทางร่างกายหรืออย่างน้อยก็ในทางจิตใจ ต้องอาศัยท้องถนน, ทางเดินเท้า, และสวนสาธารณะ เป็นที่พักผ่อนเป็นคืนที่สองในคืนวันพุธ ทำให้นครหลวงแห่งนี้กลายเป็นค่ายอพยพขนาดยักษ์ทว่าขาดแคลนอุปกรณ์ความช่วยเหลือที่พึงมี
โรงเรียน, โรงพยาบาล, โรงแรม, กระทรวงทบวงกรม, และทำเนียบประธานาธิบดี ต่างถูกฤทธิ์ธรณีพิโรธถล่มเสียหาย และประชาชนซึ่งตามเนื้อตัวเสื้อผ้าเกรอะกรังไปด้วยเลือดและฝุ่น พากันร้องขอความช่วยเหลือ ขณะที่พวกเขาหรือผู้ที่พวกเขารักใคร่ห่วงใย ติดอยู่ใต้กองภูเขาคอนกรีต
เวลาที่ผ่านไปแต่ละชั่วโมงสามารถที่จะตัดสินความเป็นความตายของผู้คนจำนวนมาก ทว่าประเทศยากจนที่สุดในซีกโลกตะวันตกอย่างเฮติเองไม่ได้มีเจ้าหน้าที่และเครื่องมืออุปกรณ์ที่เตรียมไว้สำหรับรับวินาศภัยอันใหญ่โตเช่นนี้ ส่วนความช่วยเหลือจากนานาชาติ ซึ่งหลายๆ ประเทศประกาศเข้าร่วมการปฏิบัติการกู้ภัยครั้งมโหฬารนี้แล้ว แต่ก็ยังต้องมีช่วงเวลาในการเตรียมการ และเพิ่งเริ่มต้นทยอยถึงเขตประสบภัย
ฌอง-มากซ์ แบลเลอริฟ นายกรัฐมนตรีเฮติเปิดเผยระหว่างให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็นเมื่อวันพุธ (13) ว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวใหญ่ที่มีศูนย์กลางห่างจากกรุงปอร์โต แปรงซ์ไม่ถึง 16 กิโลเมตร อาจมีจำนวนมากกว่า 100,000 ราย แม้จะยังไม่สามารถยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตที่แท้จริงได้อย่างชัดเจนในเวลานี้ก็ตาม
ขณะที่ประธานาธิบดีเรอเน่ เพรวาล กล่าวกับซีเอ็นเอ็นเช่นกันว่า จากการประเมินสถานการณ์เบื้องต้นคาดว่า น่าจะมีผู้เสียชีวิตแน่นอนแล้วราว 30,000 – 50,000 คน ส่วนประชาชนอีกนับล้านคนที่อาศัยอยู่อย่างแออัดทั้งในกรุงปอร์โต แปรงซ์ และพื้นที่โดยรอบเมืองหลวงต้องกลายเป็นคนไร้ที่อยู่อาศัย
ด้านฮิลลารี คลินตันรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ที่ประกาศยกเลิกการเดินทางเยือนเอเชียอย่างกะทันหัน และเดินทางกลับกรุงวอชิงตัน เพื่อปฏิบัติภารกิจเรื่องการช่วยเหลือเฮติระบุว่า แม้จะยังไม่สามารถสรุปได้ว่ามีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนเท่าใดในเฮติ แต่ก็คาดว่าจะมี “ความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่” ไม่แพ้เหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิในมหาสมุทรอินเดียที่ซัดถล่มหลายประเทศในเอเชียเมื่อปี 2004 จนมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 220,000 คน
เธอกล่าวในเวลาต่อมาว่า เวลานี้ทีมงานของทหารสหรัฐฯสามารถเปิดสนามบินปอร์โตแปรงซ์ให้ใช้การได้ใหม่แล้ว เพื่อให้เครื่องบินขนส่งขนาดหนักลงจอดได้ และเริ่มการนำสิ่งของอุปกรณ์ช่วยเหลือเข้าไป
ฮิลลารี คลินตันยังให้สัญญาว่า สหรัฐฯจะให้ความช่วยเหลือแบบระยะยาวแก่เฮติ
จนท.UN ตายอย่างน้อย 16 , สูญหาย200
ทางด้าน บันคีมุน เลขาธิการใหญ่แห่งองค์การสหประชาชาติแถลงเมื่อวันพุธว่า มีทหารจากกองกำลังรักษาสันติภาพของยูเอ็นในเฮติเสียชีวิตอย่างน้อย 16 ราย โดยในจำนวนนี้เป็นทหารจากบราซิล 11 ราย,จอร์แดน 3 ราย,และทหารจากอาร์เจนตินาและชาดอีกประเทศละ 1 ราย ขณะที่จำนวนเจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาสันติภาพที่บาดเจ็บมีอย่างน้อย 56 รายโดยที่บางรายมีอาการสาหัส รวมทั้ง ยังมีเจ้าหน้าที่จากชาติอื่นๆ สูญหายไปอีกประมาณ 150 คนเป็นอย่างน้อย
เลขาธิการยูเอ็นยังระบุว่านอกเหนือจากเจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิต บาดเจ็บ และสูญหายดังกล่าวแล้ว ทางยูเอ็นเพิ่งได้รับการยืนยันจากทางกระทรวงต่างประเทศจีนว่ามีเจ้าหน้าที่ของจีน 8 คนที่อยู่ในอาคารคอนกรีต 5 ชั้น อันเป็นที่ทำการของยูเอ็นในกรุงปอร์โตแปรงซ์ในช่วงที่เกิดเหตุแผ่นดินไหว และจนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเจ้าหน้าที่จีนทั้งหมดยังมีชีวิตอยู่หรือไม่
เวลาต่อมา โฆษกสหประชาชาติแถลงที่กรุงเจนีวาวานนี้ว่า จากการประมาณการในคืนวันพุธ มีทหารและเจ้าหน้าที่ในกองกำลังรักษาสันติภาพยูเอ็นในเฮติ ระหว่าง 50-100 คนติดอยู่ในอาคารยูเอ็นที่ปอร์โตแปรงซ์ และรวมแล้วมีทหารและเจ้าหน้าที่ซึ่งยังไม่ทราบชะตากรรมทั้งสิ้น ระหว่าง 115-200 คน
ทั่วโลกระดมความช่วยเหลือสู่เฮติ
รอเบิร์ต บรูซ เซลลิก ประธานธนาคารโลกชาวอเมริกันยืนยันที่กรุงวอชิงตันว่า ทางธนาคารโลกซึ่งมีสมาชิก 186 ประเทศจะให้เงินช่วยเหลือฉุกเฉินแก่เฮติประมาณ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 3,290ล้านบาท พร้อมจะให้การสนับสนุนเพิ่มเติมแก่เฮติในการฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยและพัฒนาการศึกษา
การออกมาประกาศให้ความช่วยเหลือของธนาคารโลกมีขึ้นหลังจากที่เมื่อวันพุธ (13) ธนาคารเพื่อการพัฒนาระหว่างรัฐในทวีปอเมริกา (ไอเอดีบี) ได้ประกาศให้เงินช่วยเหลือเบื้องต้นราว200,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับจัดหาอาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรค และอุปกรณ์สร้างที่พักชั่วคราวให้ผู้ประสบภัย
นอกจากนั้น ยังมีอีกหลายประเทศที่ประกาศบริจาคเงินช่วยเหลือเฮติแล้ว เช่น ออสเตรเลีย บราซิล แคนาดา จีน เดนมาร์ก สหภาพยุโรป เยอรมันนี และญี่ปุ่น ซึ่งคิดเป็นยอดเงินบริจาครวมกันไม่น้อยกว่า 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯแล้วในขณะนี้ ส่วนอีกหลายประเทศประกาศส่งทีมกู้ภัยของตนมาช่วยค้นหาผู้รอดชีวิต หรือไม่ก็ให้ความช่วยเหลือเฮติในด้านอื่นๆ เช่น เปรู ที่ประกาศบริจาคยาและเวชภัณฑ์น้ำหนักรวมกว่า 4 ตัน
“บิล คลินตัน” ชี้เฮติต้องการอาหาร,น้ำ, และ ฮ.ด่วน
ด้านอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ บิล คลินตัน ซึ่งปัจจุบันทำหน้าที่เป็นทูตพิเศษด้านเฮติของสหประชาชาติ แถลงที่สำนักงานใหญ่ของยูเอ็นในนิวยอร์ก เรียกร้องให้รัฐบาลทั่วโลกและบุคคลทั่วไปเร่งบริจาคอาหาร น้ำดื่ม และชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเฮติเป็นการด่วน เนื่องจากคาดว่าสภาพความเป็นอยู่ของบรรดาผู้รอดชีวิตตามค่ายพักชั่วคราวต่างๆ อาจเลวร้ายลงจนถึงขั้นวิกฤตภายในไม่กี่วันนับจากนี้โดยอาจมีผู้รอดชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวที่ต้องเสียชีวิตเพราะภาวะขาดน้ำหรือเสียชีวิตจากอาการบาดเจ็บที่ไม่ได้รับการรักษา
ขณะเดียวกันอดีตผู้นำสหรัฐฯ ยังเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ส่งเฮลิคอปเตอร์ไปสนับสนุนภารกิจในการค้นหาและกู้ภัยในเฮติโดยเร็ว เนื่องจากถนนสายหลักจำนวนมากได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวจนไม่สามารถใช้การได้
FBI เตือนระวังมิจฉาชีพสวมรอยรับบริจาคช่วยเฮติ
สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ(เอฟบีไอ)ออกประกาศเตือนวันพุธ(13) ให้ชาวอเมริกันเพิ่มความระมัดระวังก่อนตัดสินใจบริจาคเงินและสิ่งของต่างๆเพื่อช่วยผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในเฮติ หลังจากเอฟบีไอได้รับการร้องเรียนอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.0 ริกเตอร์ที่กรุงปอร์โต แปรงซ์ ว่า มีกลุ่มมิจฉาชีพแฝงตัวมาในรูปขององค์กรการกุศลต่างๆ โดยใช้วิธีโทรศัพท์ไปขอรับบริจาคเงินตามบ้านเรือนของประชาชน หรือขอรับบริจาคทางอีเมล์ จนมีผู้หลงเชื่อสูญเสียเงินและทรัพย์สินหลายรายแล้ว
ผู้คนจำนวนหลายแสนของกรุงปอร์โตแปรงซ์ ซึ่งโชคดีรอดชีวิตจากแผ่นดินไหวรุนแรงระดับ 7.0 ถล่มเมื่อเย็นวันอังคาร(12) ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับเช้ามืดวันพุธที่ 13 เวลาเมืองไทย) แต่โชคร้ายที่ต้องกลายเป็นคนไร้บ้าน ตลอดจนได้รับบาดเจ็บทางร่างกายหรืออย่างน้อยก็ในทางจิตใจ ต้องอาศัยท้องถนน, ทางเดินเท้า, และสวนสาธารณะ เป็นที่พักผ่อนเป็นคืนที่สองในคืนวันพุธ ทำให้นครหลวงแห่งนี้กลายเป็นค่ายอพยพขนาดยักษ์ทว่าขาดแคลนอุปกรณ์ความช่วยเหลือที่พึงมี
โรงเรียน, โรงพยาบาล, โรงแรม, กระทรวงทบวงกรม, และทำเนียบประธานาธิบดี ต่างถูกฤทธิ์ธรณีพิโรธถล่มเสียหาย และประชาชนซึ่งตามเนื้อตัวเสื้อผ้าเกรอะกรังไปด้วยเลือดและฝุ่น พากันร้องขอความช่วยเหลือ ขณะที่พวกเขาหรือผู้ที่พวกเขารักใคร่ห่วงใย ติดอยู่ใต้กองภูเขาคอนกรีต
เวลาที่ผ่านไปแต่ละชั่วโมงสามารถที่จะตัดสินความเป็นความตายของผู้คนจำนวนมาก ทว่าประเทศยากจนที่สุดในซีกโลกตะวันตกอย่างเฮติเองไม่ได้มีเจ้าหน้าที่และเครื่องมืออุปกรณ์ที่เตรียมไว้สำหรับรับวินาศภัยอันใหญ่โตเช่นนี้ ส่วนความช่วยเหลือจากนานาชาติ ซึ่งหลายๆ ประเทศประกาศเข้าร่วมการปฏิบัติการกู้ภัยครั้งมโหฬารนี้แล้ว แต่ก็ยังต้องมีช่วงเวลาในการเตรียมการ และเพิ่งเริ่มต้นทยอยถึงเขตประสบภัย
ฌอง-มากซ์ แบลเลอริฟ นายกรัฐมนตรีเฮติเปิดเผยระหว่างให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็นเมื่อวันพุธ (13) ว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวใหญ่ที่มีศูนย์กลางห่างจากกรุงปอร์โต แปรงซ์ไม่ถึง 16 กิโลเมตร อาจมีจำนวนมากกว่า 100,000 ราย แม้จะยังไม่สามารถยืนยันตัวเลขผู้เสียชีวิตที่แท้จริงได้อย่างชัดเจนในเวลานี้ก็ตาม
ขณะที่ประธานาธิบดีเรอเน่ เพรวาล กล่าวกับซีเอ็นเอ็นเช่นกันว่า จากการประเมินสถานการณ์เบื้องต้นคาดว่า น่าจะมีผู้เสียชีวิตแน่นอนแล้วราว 30,000 – 50,000 คน ส่วนประชาชนอีกนับล้านคนที่อาศัยอยู่อย่างแออัดทั้งในกรุงปอร์โต แปรงซ์ และพื้นที่โดยรอบเมืองหลวงต้องกลายเป็นคนไร้ที่อยู่อาศัย
ด้านฮิลลารี คลินตันรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ที่ประกาศยกเลิกการเดินทางเยือนเอเชียอย่างกะทันหัน และเดินทางกลับกรุงวอชิงตัน เพื่อปฏิบัติภารกิจเรื่องการช่วยเหลือเฮติระบุว่า แม้จะยังไม่สามารถสรุปได้ว่ามีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนเท่าใดในเฮติ แต่ก็คาดว่าจะมี “ความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่” ไม่แพ้เหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิในมหาสมุทรอินเดียที่ซัดถล่มหลายประเทศในเอเชียเมื่อปี 2004 จนมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 220,000 คน
เธอกล่าวในเวลาต่อมาว่า เวลานี้ทีมงานของทหารสหรัฐฯสามารถเปิดสนามบินปอร์โตแปรงซ์ให้ใช้การได้ใหม่แล้ว เพื่อให้เครื่องบินขนส่งขนาดหนักลงจอดได้ และเริ่มการนำสิ่งของอุปกรณ์ช่วยเหลือเข้าไป
ฮิลลารี คลินตันยังให้สัญญาว่า สหรัฐฯจะให้ความช่วยเหลือแบบระยะยาวแก่เฮติ
จนท.UN ตายอย่างน้อย 16 , สูญหาย200
ทางด้าน บันคีมุน เลขาธิการใหญ่แห่งองค์การสหประชาชาติแถลงเมื่อวันพุธว่า มีทหารจากกองกำลังรักษาสันติภาพของยูเอ็นในเฮติเสียชีวิตอย่างน้อย 16 ราย โดยในจำนวนนี้เป็นทหารจากบราซิล 11 ราย,จอร์แดน 3 ราย,และทหารจากอาร์เจนตินาและชาดอีกประเทศละ 1 ราย ขณะที่จำนวนเจ้าหน้าที่กองกำลังรักษาสันติภาพที่บาดเจ็บมีอย่างน้อย 56 รายโดยที่บางรายมีอาการสาหัส รวมทั้ง ยังมีเจ้าหน้าที่จากชาติอื่นๆ สูญหายไปอีกประมาณ 150 คนเป็นอย่างน้อย
เลขาธิการยูเอ็นยังระบุว่านอกเหนือจากเจ้าหน้าที่ที่เสียชีวิต บาดเจ็บ และสูญหายดังกล่าวแล้ว ทางยูเอ็นเพิ่งได้รับการยืนยันจากทางกระทรวงต่างประเทศจีนว่ามีเจ้าหน้าที่ของจีน 8 คนที่อยู่ในอาคารคอนกรีต 5 ชั้น อันเป็นที่ทำการของยูเอ็นในกรุงปอร์โตแปรงซ์ในช่วงที่เกิดเหตุแผ่นดินไหว และจนถึงขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเจ้าหน้าที่จีนทั้งหมดยังมีชีวิตอยู่หรือไม่
เวลาต่อมา โฆษกสหประชาชาติแถลงที่กรุงเจนีวาวานนี้ว่า จากการประมาณการในคืนวันพุธ มีทหารและเจ้าหน้าที่ในกองกำลังรักษาสันติภาพยูเอ็นในเฮติ ระหว่าง 50-100 คนติดอยู่ในอาคารยูเอ็นที่ปอร์โตแปรงซ์ และรวมแล้วมีทหารและเจ้าหน้าที่ซึ่งยังไม่ทราบชะตากรรมทั้งสิ้น ระหว่าง 115-200 คน
ทั่วโลกระดมความช่วยเหลือสู่เฮติ
รอเบิร์ต บรูซ เซลลิก ประธานธนาคารโลกชาวอเมริกันยืนยันที่กรุงวอชิงตันว่า ทางธนาคารโลกซึ่งมีสมาชิก 186 ประเทศจะให้เงินช่วยเหลือฉุกเฉินแก่เฮติประมาณ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 3,290ล้านบาท พร้อมจะให้การสนับสนุนเพิ่มเติมแก่เฮติในการฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยและพัฒนาการศึกษา
การออกมาประกาศให้ความช่วยเหลือของธนาคารโลกมีขึ้นหลังจากที่เมื่อวันพุธ (13) ธนาคารเพื่อการพัฒนาระหว่างรัฐในทวีปอเมริกา (ไอเอดีบี) ได้ประกาศให้เงินช่วยเหลือเบื้องต้นราว200,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับจัดหาอาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรค และอุปกรณ์สร้างที่พักชั่วคราวให้ผู้ประสบภัย
นอกจากนั้น ยังมีอีกหลายประเทศที่ประกาศบริจาคเงินช่วยเหลือเฮติแล้ว เช่น ออสเตรเลีย บราซิล แคนาดา จีน เดนมาร์ก สหภาพยุโรป เยอรมันนี และญี่ปุ่น ซึ่งคิดเป็นยอดเงินบริจาครวมกันไม่น้อยกว่า 40 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯแล้วในขณะนี้ ส่วนอีกหลายประเทศประกาศส่งทีมกู้ภัยของตนมาช่วยค้นหาผู้รอดชีวิต หรือไม่ก็ให้ความช่วยเหลือเฮติในด้านอื่นๆ เช่น เปรู ที่ประกาศบริจาคยาและเวชภัณฑ์น้ำหนักรวมกว่า 4 ตัน
“บิล คลินตัน” ชี้เฮติต้องการอาหาร,น้ำ, และ ฮ.ด่วน
ด้านอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ บิล คลินตัน ซึ่งปัจจุบันทำหน้าที่เป็นทูตพิเศษด้านเฮติของสหประชาชาติ แถลงที่สำนักงานใหญ่ของยูเอ็นในนิวยอร์ก เรียกร้องให้รัฐบาลทั่วโลกและบุคคลทั่วไปเร่งบริจาคอาหาร น้ำดื่ม และชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้นเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเฮติเป็นการด่วน เนื่องจากคาดว่าสภาพความเป็นอยู่ของบรรดาผู้รอดชีวิตตามค่ายพักชั่วคราวต่างๆ อาจเลวร้ายลงจนถึงขั้นวิกฤตภายในไม่กี่วันนับจากนี้โดยอาจมีผู้รอดชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวที่ต้องเสียชีวิตเพราะภาวะขาดน้ำหรือเสียชีวิตจากอาการบาดเจ็บที่ไม่ได้รับการรักษา
ขณะเดียวกันอดีตผู้นำสหรัฐฯ ยังเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ส่งเฮลิคอปเตอร์ไปสนับสนุนภารกิจในการค้นหาและกู้ภัยในเฮติโดยเร็ว เนื่องจากถนนสายหลักจำนวนมากได้รับความเสียหายจากแผ่นดินไหวจนไม่สามารถใช้การได้
FBI เตือนระวังมิจฉาชีพสวมรอยรับบริจาคช่วยเฮติ
สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ(เอฟบีไอ)ออกประกาศเตือนวันพุธ(13) ให้ชาวอเมริกันเพิ่มความระมัดระวังก่อนตัดสินใจบริจาคเงินและสิ่งของต่างๆเพื่อช่วยผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในเฮติ หลังจากเอฟบีไอได้รับการร้องเรียนอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เกิดแผ่นดินไหวขนาด 7.0 ริกเตอร์ที่กรุงปอร์โต แปรงซ์ ว่า มีกลุ่มมิจฉาชีพแฝงตัวมาในรูปขององค์กรการกุศลต่างๆ โดยใช้วิธีโทรศัพท์ไปขอรับบริจาคเงินตามบ้านเรือนของประชาชน หรือขอรับบริจาคทางอีเมล์ จนมีผู้หลงเชื่อสูญเสียเงินและทรัพย์สินหลายรายแล้ว