ASTVผู้จัดการรายวัน-“ปิยสวัสดิ์”แจงขอคลังค้ำเงินกู้ 7,300 ล้านบาทจ่ายค่าเครื่องบิน A 330-300 เป็นแค่แผนสำรอง เผยเตรียมแผนกู้เงินระยะยาวกับสถาบันการเงินไว้รองรับแล้วรอเพียง ECA อนุมัติค้ำประกันเท่านั้น ขณะที่ก่อนหน้านี้”อำพน”ย้ำฝ่ายบริหารพลาดไม่ถอนเรื่องออกจากสบน.ทำสับสน กระทบความเชื่อมั่นด้านการเงินของบริษัท
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงกรณีที่คณะกรรมการกำกับหนี้สาธารณะ (สบน.) ไม่อนุมัติแผนของการบินไทยที่เสนอให้กระทรวงการคลังค้ำประกันการกู้เงินจำนวน 7,300 ล้านบาท เพื่อชำระค่าเครื่องบินแอร์บัส A 330-300 ที่จะรับมอบสิ้นเดือน ม.ค. 2553 ว่า ไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อการจัดหาเครื่องบินตามแผนของบริษัทฯ เนื่องจากการบินไทยได้จัดเตรียมการขอกู้เงินระยะยาวไว้กับสถาบันการเงิน และได้รับการยืนยันการให้กู้แล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรอ ECA (Export Credit Agency) อนุมัติค้ำประกันการกู้เงินให้การบินไทย
โดยที่ผ่านมา ECA ได้อนุมัติการค้ำประกันการกู้เงิน สำหรับการชำระค่าเครื่องบินแอร์บัส A 330-300 ให้การบินไทยแล้ว 4 ลำ โดยเหลืออีก 2 ลำ ที่อยู่ระหว่างรอ ECA อนุมัติการค้ำประกัน ซึ่งคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ตามแผนที่กำหนดและไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
นายปิยสวัสดิ์กล่าวว่า การที่คณะกรรมการกำกับหนี้สาธารณะ ปฏิเสธการให้กระทรวงการคลังกู้และให้การบินไทยกู้ต่อนั้น เป็นเพียงแผนสำรองที่การบินไทยดำเนินการเตรียมไว้ในกรณีการกู้เงินระยะยาว ไม่เสร็จตามกำหนดเวลา ดังนั้น จากกรณีที่เป็นข่าวดังกล่าวจึงไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินการและการจัดหาเครื่องบินตามแผนระยะยาวของการบินไทยแต่อย่างใด
โดยในส่วนของผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 4 /2552 มีผลประกอบการดีขึ้น และทำให้ผลการดำเนินงานในภาพรวมตลอดทั้งปี 2552 เป็นที่น่าพอใจ รวมถึงบริษัทฯ ได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์ของบริษัทฯ และมีการดำเนินการลดค่าใช้จ่ายตามแผนฟื้นฟูฯ อย่างจริงจังและ ต่อเนื่อง ซึ่งทำให้บริษัทฯ สามารถผ่านพ้นวิกฤตและกลับมายืนหยัดอย่างมั่นคงได้ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการบริษัท การบินไทย ได้ยืนยันว่า กรณีที่สบน. ไม่อนุมัติกู้เงินให้การบินไทยนั้น เป็นความผิดพลาดที่การบินไทยไม่ได้ถอนเรื่องออก ดังนั้นฝ่ายบริหารต้องออกมาชี้แจงเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดและตีความได้ว่า การบินไทยบริษัทยังมีปัญหาทางการเงินอยู่ ถึงต้องขอให้คลังช่วยค้ำประกันเงินกู้
นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงกรณีที่คณะกรรมการกำกับหนี้สาธารณะ (สบน.) ไม่อนุมัติแผนของการบินไทยที่เสนอให้กระทรวงการคลังค้ำประกันการกู้เงินจำนวน 7,300 ล้านบาท เพื่อชำระค่าเครื่องบินแอร์บัส A 330-300 ที่จะรับมอบสิ้นเดือน ม.ค. 2553 ว่า ไม่มีผลกระทบใดๆ ต่อการจัดหาเครื่องบินตามแผนของบริษัทฯ เนื่องจากการบินไทยได้จัดเตรียมการขอกู้เงินระยะยาวไว้กับสถาบันการเงิน และได้รับการยืนยันการให้กู้แล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรอ ECA (Export Credit Agency) อนุมัติค้ำประกันการกู้เงินให้การบินไทย
โดยที่ผ่านมา ECA ได้อนุมัติการค้ำประกันการกู้เงิน สำหรับการชำระค่าเครื่องบินแอร์บัส A 330-300 ให้การบินไทยแล้ว 4 ลำ โดยเหลืออีก 2 ลำ ที่อยู่ระหว่างรอ ECA อนุมัติการค้ำประกัน ซึ่งคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ตามแผนที่กำหนดและไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
นายปิยสวัสดิ์กล่าวว่า การที่คณะกรรมการกำกับหนี้สาธารณะ ปฏิเสธการให้กระทรวงการคลังกู้และให้การบินไทยกู้ต่อนั้น เป็นเพียงแผนสำรองที่การบินไทยดำเนินการเตรียมไว้ในกรณีการกู้เงินระยะยาว ไม่เสร็จตามกำหนดเวลา ดังนั้น จากกรณีที่เป็นข่าวดังกล่าวจึงไม่มีผลกระทบต่อการดำเนินการและการจัดหาเครื่องบินตามแผนระยะยาวของการบินไทยแต่อย่างใด
โดยในส่วนของผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 4 /2552 มีผลประกอบการดีขึ้น และทำให้ผลการดำเนินงานในภาพรวมตลอดทั้งปี 2552 เป็นที่น่าพอใจ รวมถึงบริษัทฯ ได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์ของบริษัทฯ และมีการดำเนินการลดค่าใช้จ่ายตามแผนฟื้นฟูฯ อย่างจริงจังและ ต่อเนื่อง ซึ่งทำให้บริษัทฯ สามารถผ่านพ้นวิกฤตและกลับมายืนหยัดอย่างมั่นคงได้ต่อไป
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการบริษัท การบินไทย ได้ยืนยันว่า กรณีที่สบน. ไม่อนุมัติกู้เงินให้การบินไทยนั้น เป็นความผิดพลาดที่การบินไทยไม่ได้ถอนเรื่องออก ดังนั้นฝ่ายบริหารต้องออกมาชี้แจงเพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดและตีความได้ว่า การบินไทยบริษัทยังมีปัญหาทางการเงินอยู่ ถึงต้องขอให้คลังช่วยค้ำประกันเงินกู้
