สองสามวันที่ผ่านมา พรรคพวกเพื่อนฝูงโทรศัพท์พูดคุยในเชิงท้วงติงว่า ทำไมผมต้องให้สัมภาษณ์เสนอแนะให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี คืนที่ดินเขายายเที่ยงให้กรมป่าไม้และขอโทษขอโพยประชาชน...เพื่อนฝูงบอกว่าอาจเข้าทางพวกเสื้อแดงที่กำลังเคลื่อนไหว...
ผมก็แจงสี่เบี้ยไปตามความเห็น ความจริงใจว่า...แม้กรณีนี้อัยการจะสั่งไม่ฟ้องไปแล้วก็ตาม แต่โดยข้อเท็จจริง ความเป็นจริงและความเป็นไปเบื้องหน้า พล.อ.สุรยุทธ์มิอาจจะครอบครองที่ดินป่าสงวนผืนดังกล่าวได้อีกต่อไป..
ผมบอกว่าผมรู้จักกับพล.อ.สุรยุทธ์ค่อนข้างดี รู้ในความเป็นทหารสุภาพบุรุษ ความซื่อสัตย์สุจริต ความรักป่าเขาลำเนาไพร และโดยเฉพาะอย่างยิ่งความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ จนได้รับการโปรดเกล้าฯ เป็นองคมนตรีถึงสองรอบ โดยล่าสุดท่านอาวุโสลำดับ 3 รองจากพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์และนายธานินทร์ กรัยวิเชียร...
จะปล่อยให้เรื่องนี้กลายเป็นก้อนหินในรองเท้าท่านและบรรดาองคมนตรีอีกต่อไปไม่ได้..
ดังที่คุณ “แสงตะวัน” คอลัมนิสต์ใน “ผู้จัดการออนไลน์” ว่าเอาไว้เมื่อวันก่อนว่า “ดังนั้นแม้ไม่ผิด แต่ก็ไม่ถูก หากเปรียบเทียบเป็นสีก็คือสีเทา ซึ่งด้วยตำแหน่งหน้าที่แล้ว พล.อ.สุรยุทธ์จะเป็นสีเทาไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง”
ครับ ผมก็ยืนยันไปว่า..เพราะความรักพล.อ.สุรยุทธ์และรักความถูกต้องจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องพูดไปตามความจริง ความที่ควรจะเป็น ทั้งๆ ที่ทราบดีว่ากรณีการครอบครองที่ดินป่าสงวนแห่งชาติแบบพล.อ.สุรยุทธ์มีอีกเป็นแสนเป็นล้านกรณีก็ตาม...
ส่วนประเด็น “เข้าทางพวกเสื้อแดง” ผมก็บอกพรรคพวกไปว่าอย่าได้ไปเครียดหรือเกร็งจนเกินเหตุ เพราะแม้ความเคลื่อนไหวหนนี้อาจจะทำให้ดูเหมือนว่าพล.อ.สุรยุทธ์รวบทั้งพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี บอบช้ำเล็กๆ แต่คนส่วนใหญ่ก็รับทราบกันดีอยู่แล้วว่า คนเสื้อแดงเพียงแต่ต้องการใช้กรณีเขายายเที่ยงเป็นชนวนเคลื่อนไหวมวลชน ก่อนการจุดชุมนุมใหญ่ไล่รัฐบาลในปลายเดือนม.ค.หรือเดือนก.พ.เท่านั้นเอง ไม่ได้มีจิตวิญญาณปกป้องป่าไม้ ทรัพยากรธรรมชาติที่แท้จริง เพราะหากรัฐบาลลองเอารายชื่อของแกนนำกองทัพคนเสื้อแดง ทั้งในสภา นอกสภา มากางและสืบค้นดูว่าใครที่บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ เขตอุทยานแห่งชาติบ้าง ก็จะพบว่ามีอยู่จำนวนมากที่ยังเป็นปัญหาร้องเรียน เต็มไปด้วยพวกสีเทา...
เอาแค่เขตอุทยานแห่งชาติเกาะช้างที่ถูกอดีตบิ๊กกรมป่าไม้บุกรุกป่าสร้างบ้านพักตากอากาศ กรณีเดียวก็ขี้คร้านจะสาธยายแล้ว...
เรื่องทำนองนี้มีมาก แต่น่าเสียดายที่รัฐบาลชุดนี้คงไม่สนใจที่จะจัดการ-สะสางหรอก เพราะเกรงว่าจะเกิดการ “ลูบหน้าปะจมูก”...
มองในอีกมุมหนึ่ง พล.อ.สุรยุทธ์ พล.อ.เปรม จึงโชคร้ายจากการทำงานในลักษณะตั้งรับของรัฐบาลชุดนี้...อย่างมิอาจปฏิเสธได้...
สรุปว่า จากความเคลื่อนไหวกรณีเขายายเที่ยงที่เพิ่งปิดฉากพร้อมคำขู่จะเปิดแนวรบใหม่ไปที่ “เขาสอยดาว” เพื่อกระแทกตรงไปที่พล.อ.เปรม ยังไม่สามารถทำให้กองทัพคนเสื้อแดงเพิ่มปริมาณมวลชนที่จะร่วมเคลื่อนไหวใหญ่เพื่อล้มรัฐบาลได้...
ปัญหาหลักของคนเสื้อแดงยังอยู่ที่ปัญหาพื้นฐานของตัวเองคือขาดความชอบธรรมในการต่อสู้ เพราะเป็นที่รู้ๆ กันว่า คนเสื้อแดงสู้เพื่อคนคนเดียวที่ชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” ส่วนคำขวัญการต่อสู้ “ล้มระบอบอำมาตยาธิปไตย” ยังเป็นเพียงวาทกรรม มิใช่อุดมการณ์หรือเลือดเนื้อจิตวิญญาณของคนเสื้อแดงส่วนใหญ่จริงๆ ถ้าจะมีของจริงอยู่บ้างก็ไม่น่าจะเกิน 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น...
ส่วนใหญ่ของคนเสื้อแดงน่าจะคิดคล้ายๆ กับกลุ่ม “สามเกลอหัวขวด” และส.ส.บางส่วน นั่นคือยังใฝ่ฝันมุ่งมั่นกับเกมการเมืองระยะสั้น คือ ทำอย่างไรจะให้เกิดการยุบสภาเลือกตั้งใหม่กันในเร็ววัน เพราะคนเหล่านี้เชื่อว่านี่คือทางเดียวที่จะทำให้ “ทักษิณ”กลับมามีอำนาจได้อีกครั้งในอนาคต...
ซึ่งจะว่าไปน่าจะเป็นทางเลือกที่เป็นไปได้มากที่สุด บนความยากลำบากยิ่งที่จะเป็นไปได้...
เมื่อเร็วๆ นี้ นสพ.กรุงเทพธุรกิจ รายวัน (10 ม.ค. 53) รายงานข่าวว่า สำนักวิจัยและพัฒนาของสถาบันพระปกเกล้า ที่มี ดร.ถวิล บุรีกุล เป็นผู้อำนวยการ เพิ่งสรุปผลงานวิจัยในหัวข้อ “ความเป็นประชาธิปไตยของประเทศไทย” โดยศึกษาจากประชาชน 2,000 ตัวอย่างทั่วประเทศ มีอยู่ 2 ประเด็นที่น่าสนใจคือ ถ้ายุบสภาเลือกตั้งวันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร ผลปรากฏว่า
1)พรรคการเมืองที่ประชาชนต้องการเลือก พรรคประชาธิปัตย์ 30.2%, พรรคเพื่อไทย 34.2%, พรรคภูมิใจไทย 1.4%, พรรคเพื่อแผ่นดิน 0.7%, พรรคชาติไทยพัฒนา 1.7%, พรรคกิจสังคม 0.1%, พรรคการเมืองใหม่ 3.1% และไม่มีความเห็น 28.3%
2)พรรคการเมืองที่ประชาชนไม่เลือก พรรคประชาธิปัตย์ 29.7%, พรรคเพื่อไทย 14.2%, พรรคภูมิใจไทย 2.5%, พรรคเพื่อแผ่นดิน 1.8%, พรรคชาติไทยพัฒนา 2.7%, พรรครวมใจไทยพัฒนา 0.9%, พรรคกิจสังคม 2.1%, พรรคการเมืองใหม่ 6.5% และไม่มีความเห็น 39.6%
สรุปได้สั้นๆ ว่า ถ้าเลือกตั้งกันวันนี้พรุ่งนี้ พรรคเพื่อไทยก็ยังชนะ และด้วยผลวิจัยศึกษาทำนองนี้ทำให้คนเสื้อแดงและส.ส.พรรคเพื่อไทยต้องเร่งเกมให้ยุบสภา เพราะรู้ดีว่าถ้าปล่อยให้รัฐบาลทำงานต่อไป แม้จะไม่ได้โชว์ฟอร์มอะไรมาก แต่ฝ่ายค้านก็ไม่มีน้ำยาที่จะโชว์ฟอร์มหรือทำอะไรได้..
คนเสื้อแดงเร่งเกมล้มรัฐบาล ยุบสภา แต่ฝ่ายรัฐบาลก็ยื้อและตั้งรับอย่างรัดกุมโดยมีกองทัพคอยค้ำจุน ขณะที่นักโทษชายดูไบอาจไม่ใส่ใจอะไรมากเท่ากับ..ขอลุ้นทรัพย์สิน 7.6 หมื่นล้านบาทก่อน จากนั้นจะยุบไม่ยุบจะยึดไม่ยึดค่อยว่ากันอีกที ปล่อยให้แกนนำคนเสื้อแดงเต้นแร้งเต้นกาชกลมชกโชว์กันไปก่อน...
มองจากเหตุปัจจัยเฉพาะวันนี้ใครที่หวังให้บ้านนี้เมืองนี้ฝีแตกซะที เห็นทีจะผิดหวัง ต้องนั่งทับฝี นั่งเก้าอี้ครึ่งก้นกันต่อไปอีกนาน ...เอวัง!!??
samr_rod@hotmail.com
ผมก็แจงสี่เบี้ยไปตามความเห็น ความจริงใจว่า...แม้กรณีนี้อัยการจะสั่งไม่ฟ้องไปแล้วก็ตาม แต่โดยข้อเท็จจริง ความเป็นจริงและความเป็นไปเบื้องหน้า พล.อ.สุรยุทธ์มิอาจจะครอบครองที่ดินป่าสงวนผืนดังกล่าวได้อีกต่อไป..
ผมบอกว่าผมรู้จักกับพล.อ.สุรยุทธ์ค่อนข้างดี รู้ในความเป็นทหารสุภาพบุรุษ ความซื่อสัตย์สุจริต ความรักป่าเขาลำเนาไพร และโดยเฉพาะอย่างยิ่งความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ จนได้รับการโปรดเกล้าฯ เป็นองคมนตรีถึงสองรอบ โดยล่าสุดท่านอาวุโสลำดับ 3 รองจากพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์และนายธานินทร์ กรัยวิเชียร...
จะปล่อยให้เรื่องนี้กลายเป็นก้อนหินในรองเท้าท่านและบรรดาองคมนตรีอีกต่อไปไม่ได้..
ดังที่คุณ “แสงตะวัน” คอลัมนิสต์ใน “ผู้จัดการออนไลน์” ว่าเอาไว้เมื่อวันก่อนว่า “ดังนั้นแม้ไม่ผิด แต่ก็ไม่ถูก หากเปรียบเทียบเป็นสีก็คือสีเทา ซึ่งด้วยตำแหน่งหน้าที่แล้ว พล.อ.สุรยุทธ์จะเป็นสีเทาไม่ได้ด้วยประการทั้งปวง”
ครับ ผมก็ยืนยันไปว่า..เพราะความรักพล.อ.สุรยุทธ์และรักความถูกต้องจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะต้องพูดไปตามความจริง ความที่ควรจะเป็น ทั้งๆ ที่ทราบดีว่ากรณีการครอบครองที่ดินป่าสงวนแห่งชาติแบบพล.อ.สุรยุทธ์มีอีกเป็นแสนเป็นล้านกรณีก็ตาม...
ส่วนประเด็น “เข้าทางพวกเสื้อแดง” ผมก็บอกพรรคพวกไปว่าอย่าได้ไปเครียดหรือเกร็งจนเกินเหตุ เพราะแม้ความเคลื่อนไหวหนนี้อาจจะทำให้ดูเหมือนว่าพล.อ.สุรยุทธ์รวบทั้งพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี บอบช้ำเล็กๆ แต่คนส่วนใหญ่ก็รับทราบกันดีอยู่แล้วว่า คนเสื้อแดงเพียงแต่ต้องการใช้กรณีเขายายเที่ยงเป็นชนวนเคลื่อนไหวมวลชน ก่อนการจุดชุมนุมใหญ่ไล่รัฐบาลในปลายเดือนม.ค.หรือเดือนก.พ.เท่านั้นเอง ไม่ได้มีจิตวิญญาณปกป้องป่าไม้ ทรัพยากรธรรมชาติที่แท้จริง เพราะหากรัฐบาลลองเอารายชื่อของแกนนำกองทัพคนเสื้อแดง ทั้งในสภา นอกสภา มากางและสืบค้นดูว่าใครที่บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติ เขตอุทยานแห่งชาติบ้าง ก็จะพบว่ามีอยู่จำนวนมากที่ยังเป็นปัญหาร้องเรียน เต็มไปด้วยพวกสีเทา...
เอาแค่เขตอุทยานแห่งชาติเกาะช้างที่ถูกอดีตบิ๊กกรมป่าไม้บุกรุกป่าสร้างบ้านพักตากอากาศ กรณีเดียวก็ขี้คร้านจะสาธยายแล้ว...
เรื่องทำนองนี้มีมาก แต่น่าเสียดายที่รัฐบาลชุดนี้คงไม่สนใจที่จะจัดการ-สะสางหรอก เพราะเกรงว่าจะเกิดการ “ลูบหน้าปะจมูก”...
มองในอีกมุมหนึ่ง พล.อ.สุรยุทธ์ พล.อ.เปรม จึงโชคร้ายจากการทำงานในลักษณะตั้งรับของรัฐบาลชุดนี้...อย่างมิอาจปฏิเสธได้...
สรุปว่า จากความเคลื่อนไหวกรณีเขายายเที่ยงที่เพิ่งปิดฉากพร้อมคำขู่จะเปิดแนวรบใหม่ไปที่ “เขาสอยดาว” เพื่อกระแทกตรงไปที่พล.อ.เปรม ยังไม่สามารถทำให้กองทัพคนเสื้อแดงเพิ่มปริมาณมวลชนที่จะร่วมเคลื่อนไหวใหญ่เพื่อล้มรัฐบาลได้...
ปัญหาหลักของคนเสื้อแดงยังอยู่ที่ปัญหาพื้นฐานของตัวเองคือขาดความชอบธรรมในการต่อสู้ เพราะเป็นที่รู้ๆ กันว่า คนเสื้อแดงสู้เพื่อคนคนเดียวที่ชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” ส่วนคำขวัญการต่อสู้ “ล้มระบอบอำมาตยาธิปไตย” ยังเป็นเพียงวาทกรรม มิใช่อุดมการณ์หรือเลือดเนื้อจิตวิญญาณของคนเสื้อแดงส่วนใหญ่จริงๆ ถ้าจะมีของจริงอยู่บ้างก็ไม่น่าจะเกิน 5 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น...
ส่วนใหญ่ของคนเสื้อแดงน่าจะคิดคล้ายๆ กับกลุ่ม “สามเกลอหัวขวด” และส.ส.บางส่วน นั่นคือยังใฝ่ฝันมุ่งมั่นกับเกมการเมืองระยะสั้น คือ ทำอย่างไรจะให้เกิดการยุบสภาเลือกตั้งใหม่กันในเร็ววัน เพราะคนเหล่านี้เชื่อว่านี่คือทางเดียวที่จะทำให้ “ทักษิณ”กลับมามีอำนาจได้อีกครั้งในอนาคต...
ซึ่งจะว่าไปน่าจะเป็นทางเลือกที่เป็นไปได้มากที่สุด บนความยากลำบากยิ่งที่จะเป็นไปได้...
เมื่อเร็วๆ นี้ นสพ.กรุงเทพธุรกิจ รายวัน (10 ม.ค. 53) รายงานข่าวว่า สำนักวิจัยและพัฒนาของสถาบันพระปกเกล้า ที่มี ดร.ถวิล บุรีกุล เป็นผู้อำนวยการ เพิ่งสรุปผลงานวิจัยในหัวข้อ “ความเป็นประชาธิปไตยของประเทศไทย” โดยศึกษาจากประชาชน 2,000 ตัวอย่างทั่วประเทศ มีอยู่ 2 ประเด็นที่น่าสนใจคือ ถ้ายุบสภาเลือกตั้งวันพรุ่งนี้จะเป็นอย่างไร ผลปรากฏว่า
1)พรรคการเมืองที่ประชาชนต้องการเลือก พรรคประชาธิปัตย์ 30.2%, พรรคเพื่อไทย 34.2%, พรรคภูมิใจไทย 1.4%, พรรคเพื่อแผ่นดิน 0.7%, พรรคชาติไทยพัฒนา 1.7%, พรรคกิจสังคม 0.1%, พรรคการเมืองใหม่ 3.1% และไม่มีความเห็น 28.3%
2)พรรคการเมืองที่ประชาชนไม่เลือก พรรคประชาธิปัตย์ 29.7%, พรรคเพื่อไทย 14.2%, พรรคภูมิใจไทย 2.5%, พรรคเพื่อแผ่นดิน 1.8%, พรรคชาติไทยพัฒนา 2.7%, พรรครวมใจไทยพัฒนา 0.9%, พรรคกิจสังคม 2.1%, พรรคการเมืองใหม่ 6.5% และไม่มีความเห็น 39.6%
สรุปได้สั้นๆ ว่า ถ้าเลือกตั้งกันวันนี้พรุ่งนี้ พรรคเพื่อไทยก็ยังชนะ และด้วยผลวิจัยศึกษาทำนองนี้ทำให้คนเสื้อแดงและส.ส.พรรคเพื่อไทยต้องเร่งเกมให้ยุบสภา เพราะรู้ดีว่าถ้าปล่อยให้รัฐบาลทำงานต่อไป แม้จะไม่ได้โชว์ฟอร์มอะไรมาก แต่ฝ่ายค้านก็ไม่มีน้ำยาที่จะโชว์ฟอร์มหรือทำอะไรได้..
คนเสื้อแดงเร่งเกมล้มรัฐบาล ยุบสภา แต่ฝ่ายรัฐบาลก็ยื้อและตั้งรับอย่างรัดกุมโดยมีกองทัพคอยค้ำจุน ขณะที่นักโทษชายดูไบอาจไม่ใส่ใจอะไรมากเท่ากับ..ขอลุ้นทรัพย์สิน 7.6 หมื่นล้านบาทก่อน จากนั้นจะยุบไม่ยุบจะยึดไม่ยึดค่อยว่ากันอีกที ปล่อยให้แกนนำคนเสื้อแดงเต้นแร้งเต้นกาชกลมชกโชว์กันไปก่อน...
มองจากเหตุปัจจัยเฉพาะวันนี้ใครที่หวังให้บ้านนี้เมืองนี้ฝีแตกซะที เห็นทีจะผิดหวัง ต้องนั่งทับฝี นั่งเก้าอี้ครึ่งก้นกันต่อไปอีกนาน ...เอวัง!!??
samr_rod@hotmail.com
