ASTVผู้จัดการรายวัน-“มาร์ค”ให้โอวาทเด็กและเยาวชนดีเด่น เนื่องใน “วันเด็ก”ปี 2553 ชี้สังคมเปลี่ยนแปลงรวดเร็วเด็กต้องเผชิญความเสี่ยง แนะศึกษาประสบการณ์จากคนรุ่นก่อน เน้นวัฒนธรรม ประเพณี ต้องปฏิบัติด้วยความถูกต้อง ฝากอยู่ท่ามกลางสังคมเสื่อมไม่ได้ ต้องช่วยกันสร้างสังคมที่ดีให้เกิดขึ้น เอแบคโพลล์ เผยเด็กอยากให้นักการเมืองผู้ใหญ่เลิกทะเลาะกัน
วานนี้(8 ม.ค.) เวลา 13.00 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) นำคณะเยาวชนดีเด่น เด็กและเยาวชนที่มีชื่อเสียง ซึ่งคณะกรรมการจัดงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2553 มีมติให้นำเด็กและเยาวชน ผู้ได้รับคัดเลือกจากหน่วนงานรัฐและเอกชน จำนวน 501 คน รวมถึงเด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศ จำนวน 227 คน รวมทั้งสิ้น 728 คน จากทั่วประเทศ เพื่อเข้าเยี่ยมคารวะนายอภิสิทธิ์ เววชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในโอกาสการจัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2553
นายอภิสิทธิ์ กล่าวให้โอวาทว่า ปัจจุบันเด็กเติบโตท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งการเปลี่ยนแปลงมีจุดดี มีสิ่งอำนวยความสะดวก ส่งเสริมแก่เด็ก อีกด้านหนึ่งการเปลี่ยนแปลงก็อาจเป็นความเสี่ยงที่คุกคามให้เด็กต้องเผชิญ จึงอยากเห็นเด็กและเยาวชนเข้าใจในความเปลี่ยนแปลง และควรตระหนักในการพัฒนาตนเองให้มีศักยภาพ ความสามารถ เพื่อช่วยพัฒนาให้สังคมมีความเจริญก้าวหน้า คนรุ่นใหม่หากไม่เก่งกว่าคนรุ่นก่อน สังคมก็ไม่สามารถเดินหน้าได้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ความเปลี่ยนแปลงมีเรื่องเสี่ยงที่เป็นภัยคุกคาม เนื่องจากเด็กเรียนรู้เร็ว แต่จะขาดประสบการณ์ ความรอบคอบ จึงต้องมีความระมัดระวัง ซึ่งความเจริญด้านวัตถุที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้เป็นเหมือนดาบสองคม หากใช้ถูกทางจะเป็นประโยชน์ แต่หากใช้ไม่ถูก ไม่เป็นจะสร้างความเสียหายได้ จึงต้องมีความฉลาดใช้ ต้องมีภูมิคุ้มกัน ตรงนี้ก็ต้องอาศัยประสบการณ์ จากคนรุ่นก่อน ทั้งนี้ การพัฒนาเด็ก เยาวชนจึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย และต้องให้ความสำคัญกับการสร้างสภาพแวดล้อมที่ถูกต้อง เป็นไปไม่ได้ที่ชีวิตจะดีแต่สังคมเสื่อม สังคมจะดีได้ก็ต้องร่วมมือกันสร้าง และช่วยกันหลีกเลี่ยงสิ่งผิดกฎหมาย ผิดศีลธรรม อบายมุขและสิ่งเสพติด
“วันเด็กปีนี้จากคำขวัญที่ว่า คิดสร้างสรรค์ ขยันใฝ่รู้ เชิดชูคุณธรรม นั้นต้องยึดถือปฏิบัติและนำไปปฏิบัติเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งผู้ใหญ่เองก็มีส่วนร่วมในการนำไปปฏิบัติได้ ที่ต้องกระตุ้นให้เด็กฝึกตั้งคำถาม คิดหาคำตอบ และยืนหยัดในค่านิยมที่ถูกต้อง” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ด้าน นายนพดล กรรณิกา ผอ.ศูนย์วิจัยความสุขชุมชน มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง คำขวัญวันเด็ก กับเสียงสะท้อนของเด็กๆ ต่อผู้ใหญ่ในสังคมไทย กรณีศึกษาเด็กและเยาวชนอายุ 10 -15 ปีใน 17 จังหวัดรวม 1,127 คน พบว่าเร้อยละ 62 ไม่ทราบคำขวัญวันเด็กจากนายกรัฐมนตรีในปีนี้ที่ว่า “คิดสร้างสรรค์ ขยันใฝ่รู้ เชิดชูคุณธรรม” ในขณะที่ร้อยละ 38 ทราบ
ส่วนสิ่งที่เด็ก ๆ อยากได้จากกลุ่มนักการเมืองผู้ใหญ่ในสังคมอันดับแรกหรือร้อยละ 59 คืออยากให้ผู้ใหญ่เลิกทะเลาะกัน รองลงมาคือ ร้อยละ 57.7 ขอให้ผู้ใหญ่ช่วยกันทำให้สังคมไทยสงบสุข ร้อยละ 38.9 ขอให้ผู้ใหญ่ช่วยกันพัฒนาประเทศไม่แบ่งฝ่าย ร้อยละ 30.5 ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว ร้อยละ 29.3 รับฟังและเข้าใจเด็กมากขึ้น ร้อยละ 28.7 ขอให้ผู้ใหญ่มีความซื่อสัตย์ เลิกคดโกง สำหรับปีนี้
สิ่งที่เด็ก ๆ อยากทำร่วมกับครอบครัวในวันเด็ก อันดับแรกหรือร้อยละ 44.3 ร่วมกิจกรรมวันเด็ก รองลงมาคือ ร้อยละ 43.1 อยู่บ้านกับครอบครัว ร้อยละ 34.7 ทำบุญ/ตักบาตร และพร ที่เด็ก ๆ ขอในวันเด็กปีนี้ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 64.7 ขอครอบครัวอบอุ่น
วานนี้(8 ม.ค.) เวลา 13.00 น. ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ(ศธ.) นำคณะเยาวชนดีเด่น เด็กและเยาวชนที่มีชื่อเสียง ซึ่งคณะกรรมการจัดงานวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2553 มีมติให้นำเด็กและเยาวชน ผู้ได้รับคัดเลือกจากหน่วนงานรัฐและเอกชน จำนวน 501 คน รวมถึงเด็กและเยาวชนที่นำชื่อเสียงมาสู่ประเทศ จำนวน 227 คน รวมทั้งสิ้น 728 คน จากทั่วประเทศ เพื่อเข้าเยี่ยมคารวะนายอภิสิทธิ์ เววชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ในโอกาสการจัดงานฉลองวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2553
นายอภิสิทธิ์ กล่าวให้โอวาทว่า ปัจจุบันเด็กเติบโตท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งการเปลี่ยนแปลงมีจุดดี มีสิ่งอำนวยความสะดวก ส่งเสริมแก่เด็ก อีกด้านหนึ่งการเปลี่ยนแปลงก็อาจเป็นความเสี่ยงที่คุกคามให้เด็กต้องเผชิญ จึงอยากเห็นเด็กและเยาวชนเข้าใจในความเปลี่ยนแปลง และควรตระหนักในการพัฒนาตนเองให้มีศักยภาพ ความสามารถ เพื่อช่วยพัฒนาให้สังคมมีความเจริญก้าวหน้า คนรุ่นใหม่หากไม่เก่งกว่าคนรุ่นก่อน สังคมก็ไม่สามารถเดินหน้าได้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ความเปลี่ยนแปลงมีเรื่องเสี่ยงที่เป็นภัยคุกคาม เนื่องจากเด็กเรียนรู้เร็ว แต่จะขาดประสบการณ์ ความรอบคอบ จึงต้องมีความระมัดระวัง ซึ่งความเจริญด้านวัตถุที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้เป็นเหมือนดาบสองคม หากใช้ถูกทางจะเป็นประโยชน์ แต่หากใช้ไม่ถูก ไม่เป็นจะสร้างความเสียหายได้ จึงต้องมีความฉลาดใช้ ต้องมีภูมิคุ้มกัน ตรงนี้ก็ต้องอาศัยประสบการณ์ จากคนรุ่นก่อน ทั้งนี้ การพัฒนาเด็ก เยาวชนจึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย และต้องให้ความสำคัญกับการสร้างสภาพแวดล้อมที่ถูกต้อง เป็นไปไม่ได้ที่ชีวิตจะดีแต่สังคมเสื่อม สังคมจะดีได้ก็ต้องร่วมมือกันสร้าง และช่วยกันหลีกเลี่ยงสิ่งผิดกฎหมาย ผิดศีลธรรม อบายมุขและสิ่งเสพติด
“วันเด็กปีนี้จากคำขวัญที่ว่า คิดสร้างสรรค์ ขยันใฝ่รู้ เชิดชูคุณธรรม นั้นต้องยึดถือปฏิบัติและนำไปปฏิบัติเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งผู้ใหญ่เองก็มีส่วนร่วมในการนำไปปฏิบัติได้ ที่ต้องกระตุ้นให้เด็กฝึกตั้งคำถาม คิดหาคำตอบ และยืนหยัดในค่านิยมที่ถูกต้อง” นายกรัฐมนตรี กล่าว
ด้าน นายนพดล กรรณิกา ผอ.ศูนย์วิจัยความสุขชุมชน มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ เปิดเผยผลวิจัยเชิงสำรวจ เรื่อง คำขวัญวันเด็ก กับเสียงสะท้อนของเด็กๆ ต่อผู้ใหญ่ในสังคมไทย กรณีศึกษาเด็กและเยาวชนอายุ 10 -15 ปีใน 17 จังหวัดรวม 1,127 คน พบว่าเร้อยละ 62 ไม่ทราบคำขวัญวันเด็กจากนายกรัฐมนตรีในปีนี้ที่ว่า “คิดสร้างสรรค์ ขยันใฝ่รู้ เชิดชูคุณธรรม” ในขณะที่ร้อยละ 38 ทราบ
ส่วนสิ่งที่เด็ก ๆ อยากได้จากกลุ่มนักการเมืองผู้ใหญ่ในสังคมอันดับแรกหรือร้อยละ 59 คืออยากให้ผู้ใหญ่เลิกทะเลาะกัน รองลงมาคือ ร้อยละ 57.7 ขอให้ผู้ใหญ่ช่วยกันทำให้สังคมไทยสงบสุข ร้อยละ 38.9 ขอให้ผู้ใหญ่ช่วยกันพัฒนาประเทศไม่แบ่งฝ่าย ร้อยละ 30.5 ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัว ร้อยละ 29.3 รับฟังและเข้าใจเด็กมากขึ้น ร้อยละ 28.7 ขอให้ผู้ใหญ่มีความซื่อสัตย์ เลิกคดโกง สำหรับปีนี้
สิ่งที่เด็ก ๆ อยากทำร่วมกับครอบครัวในวันเด็ก อันดับแรกหรือร้อยละ 44.3 ร่วมกิจกรรมวันเด็ก รองลงมาคือ ร้อยละ 43.1 อยู่บ้านกับครอบครัว ร้อยละ 34.7 ทำบุญ/ตักบาตร และพร ที่เด็ก ๆ ขอในวันเด็กปีนี้ พบว่า ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 64.7 ขอครอบครัวอบอุ่น