ASTVผู้จัดการรายวัน - "เฮียฮ้อ" แนะนำ "นาธาน" หยุดได้แล้ว เผยสำหรับตน คนชื่อ "นาธาน โอมาน" ตายไปแล้วในทางสังคม เชื่อพนักงานอาร์เอสฯ ไม่มีส่วนรู้เห็นกรณีโกงอายุเข้ารับรางวัลเยาวชนดีเด่นฯ
หลังมีข่าวฝ่ายกฏหมายของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เตรียมยื่นเรื่องเพื่อเอาผิดกับสองพนักงานของบริษัทอาร์เอส จำกัด (มหาชน) คือ น.ส.รุ้งตะวัน สงวนพงษ์ ผู้จัดการแผนกประชาสัมพันธ์ ในฐานะผู้เสนอชื่อ และ น.ส.ณัจยา ชาญกล อดีตผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ ในฐานะผู้เซ็นรับรอง ให้อดีตนักร้องในสังกดั "นาธาน โอมาน" ได้รับรางวัลเยาวชนดีเด่นฯ โดยจะดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญาในข้อหาสมรู้ร่วมคิดหลอกลวงด้วยถ้อยคำอันเป็นเท็จนั้น วานนี้ (5 ม.ค.) บริษัทอาร์เอสฯ ก็ได้จัดให้มีการแถลงข่าว "เฮียฮ้อ สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์" ในฐานะหัวเรือใหญ่ของบริษัทได้ออกมาชี้แจงเรื่องต่างๆ ด้วยตนเองโดยฝากถึง "นาธาน โอมาน" อดีตนักร้องในสังกัดควรจะหยุดได้แล้ว สำหรับตน คนชื่อ "นาธาน โอมาน" ตายไปแล้วในทางสังคม
"อย่างที่บอกว่าเขาควรจะหยุดได้แล้ว เรื่องที่เขาพูดมาทั้งหมด ผมว่ามีเขาคนเดียวมั้งที่ยังพูดไปเรื่อยเพราะคนทั่วทั้งประเทศเขารู้หมดแล้ว ว่าอะไรเป็นอะไร ก็ไม่รู้ว่าเขาทำเพราะอะไร อยากจะแนะนำเขาว่าเขาควรจะหยุดได้แล้ว"
"ถ้าเขาติดต่อขอความช่วยเหลือจากผม ผมจะไปช่วยอะไรเขาได้ใช่ไหมครับ เรื่องเงิน? ไม่มีหรอกครับ(หัวเราะ) ผมว่าในวันนี้นาธานไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงินนะ ผมว่าไม่ใช่ ผมว่าเขามีปัญหาเรื่องสังคม ในทางสังคมผมว่าเขาตายไปแล้วในทางสังคม จริงๆ นะ ผมว่าเป็นอย่างนั้น เพราะเขาทำถึงขนาดนี้แล้วยังไม่ยอมรับ"
นายสุรชัยยืนยันว่าทางบริษัทจะให้ความช่วยเหลือพนักงานทั้งสองคนอย่างเต็มที่เพราะเชื่อว่าไม่ได้ทำอะไรผิด
"ผมขอพูดแค่ในส่วนของอาร์เอสนะครับ ก็ต้องยืนยันตรงนี้ว่าเจ้าหน้าที่ของอาร์เอสทั้งสองท่าน ที่เป็นข่าวนั้นผมของยืนยันว่าทั้งสองท่าน ทำงานในนามของอาร์เอส และก็ผมเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ของอาร์เอสทำงานด้วยความตั้งใจสุจริต ซื่อตรง และอาร์เอสเองในฐานะที่ผมเป็นผู้บริหารเองก็จะยืนอยู่ข้างพนักงาน และเราจะให้ความช่วยเหลือทั้งในคดีที่อาจจะมีในอนาคต"
"พนักงานยังอยู่ไหม ทราบว่าอีกท่านหนึ่งลาออกไปแล้ว แต่อีกท่านยังทำงานอยู่ แต่สุดท้ายก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ถึงแม้จะอยู่หรือลาออกไปแล้ว อย่างที่ผมเรียนเมื่อสักครู่ว่า ทำงานในนามอาร์เอส เพราะนั้นผมเองก็จะยืนอยู่ข้างพนักงาน"
หลักฐานที่เป็นเท็จนั้นได้มาจากอดีตนักร้องในสังกัดและไม่มีเหตุผลอะไรที่ทางบริษัทจะต้องไปปลอมแปลงเอกสาร พร้อมยืนยันจากนี้ไปจะให้ความสำคัญกับเรื่องเอกสารมากขึ้น
"ต้องเรียนว่าประเด็นที่เป็นข่าวว่าเจ้าหน้าที่ของอาร์เอสนั้นยืนข้อมูลหลักฐานที่ไม่ถูกต้องต้องเรียนว่า ข้อมูลที่ได้มาก็ได้มาจากตัวศิลปิน เพราะฉะนั้นผมเชื่อ 100 เปอร์เซ็นต์ว่าเจ้าหน้าที่ของอาร์เอสทั้งสองท่านทำงานด้วยความจริงใจ และเจตนาบริสุทธิ์ ซึ่งไม่มีเหตุผลที่จะต้องทำหลักฐานปลอม"
"ในเรื่องคดีก็ว่ากันไป ทางอาร์เอสเองก็จะมีฝ่ายกฎหมายเข้ามาช่วยคดีให้กับพนักงานทั้งสองท่าน ส่วนในเรื่องอาร์เอสกับภาครัฐก็จะทำงานใกล้ชิดและเห็นด้วยอย่างยิ่งที่ภาครัฐจะให้ความสำคัญเกี่ยวกับข้อมูลในอนาคต ซึ่งผมว่าก็เป็นเรื่องจำเป็นและทางอาร์เอสผมก็เรียนว่าจากนี้ไปเราต้องให้ความสำคัญมากขึ้น"
"แต่เราเป็นบริษัทบันเทิงไม่ใช่สำนักทะเบียนราษฎร ผมไม่สามารถทราบได้ว่าใครจะปลอมข้อมูลเบื้องหลังยังไง เพราะจริงๆ แล้วข้อมูลที่ได้นั้นก็มาจากศิลปินทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นศิลปินท่านอื่นๆ เพื่อมอบให้สื่อมวลชนก็จะเอามาจากศิลปิน"
"แล้วกรณีของนาธานเกิดหลังจากออกจากเป็นศิลปินของอาร์เอสแล้ว ต้องแยกแยะด้วย เรื่องของนาธานไม่ได้เกี่ยวอะไรกับอาร์เอสเลย ถ้าในความเป็นจริงตอนนี้นะครับ เค้าแค่เพียงเคยอยู่ในการดูแลของอาร์เอสเท่านั้นเอง เค้าหมดสัญญาไปตั้งแต่ปี 49 แล้วครับ"
"ส่วนเรื่องที่ภาครัฐจะดำเนินคดีทั้งแพ่งและอาญา ในส่วนของนาธานก็ให้ดำเนินการไป ในส่วนของพนักงานของอาร์เอส อาร์เอสเองในฐานะที่เป็นผู้ดูแลก็จะให้ทนายเข้ามาช่วยดำเนินการเรื่องนี้อย่างเต็มที่"
สำหรับหลักเกณฑ์ในการส่งชื่อเพื่อเข้ารับรางวัลต่างๆ นั้นหัวเรือใหญ่อาร์เอสฯ บอกว่าทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนที่หน่วยงานต่างๆ กำหนดไว้ โดยทางบริษัทก็จะมาพิจารณาดูว่ามีใครบ้างที่เหมาะสม
"ต้องทราบว่ารางวัลเหล่านี้ตั้งขึ้นมาให้คนที่เป็นสาธารณะชนอย่างน้อยก็จะต้องเป็นแบบอย่างที่ดี เราเองก็มีน่าที่เสนอคนที่เข้าค่ายในคุณสมบัติให้ทางภาครัฐเป็นผู้พิจารณา หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างมุมของเราก็มองว่าเรามีศิลปินที่เหมาะกับคุณสมบัติเราก็ยื่นไป"
"ในแต่ละปีก็ไม่ใช่ว่าจะมีแต่อาร์เอสที่เดียวที่ยื่นเข้าไป มีหลายๆ บริษัทที่ยื่นเข้ามา ภาครัฐก็จะพิจารณาเองว่าศิลปินแต่ละบริษัทท่านไหนมีความเหมาะสม ตอนนั้นเราเองก็ยื่นไปตั้งหลายคนไม่ใช่แค่นาธานคนเดียว และนาธานก็ได้รับเลือกและก็ไม่ได้รับเลือกแค่คนเดียว ยังได้รับเลือกอีกตั้งสามคน"
"เกณฑ์ในการยื่นรับรางวัลไม่ใช่ประเด็นว่าศิลปินต้องมีชื่อเสียงอย่างเดียว แต่ละรางวัลเค้ามีคุณสมบัติอยู่แล้วว่ายังไงบ้าง เน้นเรื่องคุณสมบัติอย่างที่เค้ากำหนดไว้"
หลังมีข่าวฝ่ายกฏหมายของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เตรียมยื่นเรื่องเพื่อเอาผิดกับสองพนักงานของบริษัทอาร์เอส จำกัด (มหาชน) คือ น.ส.รุ้งตะวัน สงวนพงษ์ ผู้จัดการแผนกประชาสัมพันธ์ ในฐานะผู้เสนอชื่อ และ น.ส.ณัจยา ชาญกล อดีตผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ ในฐานะผู้เซ็นรับรอง ให้อดีตนักร้องในสังกดั "นาธาน โอมาน" ได้รับรางวัลเยาวชนดีเด่นฯ โดยจะดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญาในข้อหาสมรู้ร่วมคิดหลอกลวงด้วยถ้อยคำอันเป็นเท็จนั้น วานนี้ (5 ม.ค.) บริษัทอาร์เอสฯ ก็ได้จัดให้มีการแถลงข่าว "เฮียฮ้อ สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์" ในฐานะหัวเรือใหญ่ของบริษัทได้ออกมาชี้แจงเรื่องต่างๆ ด้วยตนเองโดยฝากถึง "นาธาน โอมาน" อดีตนักร้องในสังกัดควรจะหยุดได้แล้ว สำหรับตน คนชื่อ "นาธาน โอมาน" ตายไปแล้วในทางสังคม
"อย่างที่บอกว่าเขาควรจะหยุดได้แล้ว เรื่องที่เขาพูดมาทั้งหมด ผมว่ามีเขาคนเดียวมั้งที่ยังพูดไปเรื่อยเพราะคนทั่วทั้งประเทศเขารู้หมดแล้ว ว่าอะไรเป็นอะไร ก็ไม่รู้ว่าเขาทำเพราะอะไร อยากจะแนะนำเขาว่าเขาควรจะหยุดได้แล้ว"
"ถ้าเขาติดต่อขอความช่วยเหลือจากผม ผมจะไปช่วยอะไรเขาได้ใช่ไหมครับ เรื่องเงิน? ไม่มีหรอกครับ(หัวเราะ) ผมว่าในวันนี้นาธานไม่ได้มีปัญหาเรื่องเงินนะ ผมว่าไม่ใช่ ผมว่าเขามีปัญหาเรื่องสังคม ในทางสังคมผมว่าเขาตายไปแล้วในทางสังคม จริงๆ นะ ผมว่าเป็นอย่างนั้น เพราะเขาทำถึงขนาดนี้แล้วยังไม่ยอมรับ"
นายสุรชัยยืนยันว่าทางบริษัทจะให้ความช่วยเหลือพนักงานทั้งสองคนอย่างเต็มที่เพราะเชื่อว่าไม่ได้ทำอะไรผิด
"ผมขอพูดแค่ในส่วนของอาร์เอสนะครับ ก็ต้องยืนยันตรงนี้ว่าเจ้าหน้าที่ของอาร์เอสทั้งสองท่าน ที่เป็นข่าวนั้นผมของยืนยันว่าทั้งสองท่าน ทำงานในนามของอาร์เอส และก็ผมเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ของอาร์เอสทำงานด้วยความตั้งใจสุจริต ซื่อตรง และอาร์เอสเองในฐานะที่ผมเป็นผู้บริหารเองก็จะยืนอยู่ข้างพนักงาน และเราจะให้ความช่วยเหลือทั้งในคดีที่อาจจะมีในอนาคต"
"พนักงานยังอยู่ไหม ทราบว่าอีกท่านหนึ่งลาออกไปแล้ว แต่อีกท่านยังทำงานอยู่ แต่สุดท้ายก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ ถึงแม้จะอยู่หรือลาออกไปแล้ว อย่างที่ผมเรียนเมื่อสักครู่ว่า ทำงานในนามอาร์เอส เพราะนั้นผมเองก็จะยืนอยู่ข้างพนักงาน"
หลักฐานที่เป็นเท็จนั้นได้มาจากอดีตนักร้องในสังกัดและไม่มีเหตุผลอะไรที่ทางบริษัทจะต้องไปปลอมแปลงเอกสาร พร้อมยืนยันจากนี้ไปจะให้ความสำคัญกับเรื่องเอกสารมากขึ้น
"ต้องเรียนว่าประเด็นที่เป็นข่าวว่าเจ้าหน้าที่ของอาร์เอสนั้นยืนข้อมูลหลักฐานที่ไม่ถูกต้องต้องเรียนว่า ข้อมูลที่ได้มาก็ได้มาจากตัวศิลปิน เพราะฉะนั้นผมเชื่อ 100 เปอร์เซ็นต์ว่าเจ้าหน้าที่ของอาร์เอสทั้งสองท่านทำงานด้วยความจริงใจ และเจตนาบริสุทธิ์ ซึ่งไม่มีเหตุผลที่จะต้องทำหลักฐานปลอม"
"ในเรื่องคดีก็ว่ากันไป ทางอาร์เอสเองก็จะมีฝ่ายกฎหมายเข้ามาช่วยคดีให้กับพนักงานทั้งสองท่าน ส่วนในเรื่องอาร์เอสกับภาครัฐก็จะทำงานใกล้ชิดและเห็นด้วยอย่างยิ่งที่ภาครัฐจะให้ความสำคัญเกี่ยวกับข้อมูลในอนาคต ซึ่งผมว่าก็เป็นเรื่องจำเป็นและทางอาร์เอสผมก็เรียนว่าจากนี้ไปเราต้องให้ความสำคัญมากขึ้น"
"แต่เราเป็นบริษัทบันเทิงไม่ใช่สำนักทะเบียนราษฎร ผมไม่สามารถทราบได้ว่าใครจะปลอมข้อมูลเบื้องหลังยังไง เพราะจริงๆ แล้วข้อมูลที่ได้นั้นก็มาจากศิลปินทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นศิลปินท่านอื่นๆ เพื่อมอบให้สื่อมวลชนก็จะเอามาจากศิลปิน"
"แล้วกรณีของนาธานเกิดหลังจากออกจากเป็นศิลปินของอาร์เอสแล้ว ต้องแยกแยะด้วย เรื่องของนาธานไม่ได้เกี่ยวอะไรกับอาร์เอสเลย ถ้าในความเป็นจริงตอนนี้นะครับ เค้าแค่เพียงเคยอยู่ในการดูแลของอาร์เอสเท่านั้นเอง เค้าหมดสัญญาไปตั้งแต่ปี 49 แล้วครับ"
"ส่วนเรื่องที่ภาครัฐจะดำเนินคดีทั้งแพ่งและอาญา ในส่วนของนาธานก็ให้ดำเนินการไป ในส่วนของพนักงานของอาร์เอส อาร์เอสเองในฐานะที่เป็นผู้ดูแลก็จะให้ทนายเข้ามาช่วยดำเนินการเรื่องนี้อย่างเต็มที่"
สำหรับหลักเกณฑ์ในการส่งชื่อเพื่อเข้ารับรางวัลต่างๆ นั้นหัวเรือใหญ่อาร์เอสฯ บอกว่าทุกอย่างเป็นไปตามขั้นตอนที่หน่วยงานต่างๆ กำหนดไว้ โดยทางบริษัทก็จะมาพิจารณาดูว่ามีใครบ้างที่เหมาะสม
"ต้องทราบว่ารางวัลเหล่านี้ตั้งขึ้นมาให้คนที่เป็นสาธารณะชนอย่างน้อยก็จะต้องเป็นแบบอย่างที่ดี เราเองก็มีน่าที่เสนอคนที่เข้าค่ายในคุณสมบัติให้ทางภาครัฐเป็นผู้พิจารณา หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อย่างมุมของเราก็มองว่าเรามีศิลปินที่เหมาะกับคุณสมบัติเราก็ยื่นไป"
"ในแต่ละปีก็ไม่ใช่ว่าจะมีแต่อาร์เอสที่เดียวที่ยื่นเข้าไป มีหลายๆ บริษัทที่ยื่นเข้ามา ภาครัฐก็จะพิจารณาเองว่าศิลปินแต่ละบริษัทท่านไหนมีความเหมาะสม ตอนนั้นเราเองก็ยื่นไปตั้งหลายคนไม่ใช่แค่นาธานคนเดียว และนาธานก็ได้รับเลือกและก็ไม่ได้รับเลือกแค่คนเดียว ยังได้รับเลือกอีกตั้งสามคน"
"เกณฑ์ในการยื่นรับรางวัลไม่ใช่ประเด็นว่าศิลปินต้องมีชื่อเสียงอย่างเดียว แต่ละรางวัลเค้ามีคุณสมบัติอยู่แล้วว่ายังไงบ้าง เน้นเรื่องคุณสมบัติอย่างที่เค้ากำหนดไว้"