หนีไม่รอดเสียแล้ว สำหรับ นาธาน โอมาน อดีตนักร้องจอมพลิ้ว ที่ก่อคดีเอาไว้มากมาย หลังจากที่เดินทางเข้าจังหวัดนู้น ออกจังหวัดนี้ ใช้ชีวิตหลบๆ ซ่อนๆ อยู่ที่ฉะเชิงเทรา โผล่ออกจากที่พักเฉพาะยามวิกาล ใช้ผ้าห่มคลุมปิดบังใบหน้าทุกครั้งที่พ้นเขตเคหสถาน ซึ่งหลังจากที่มีคนได้กลิ่น ตามนาธานไปถึงแหล่งกบดาน นักร้องสุดพลิ้วก็เปิดตูดหนีไปที่อื่นได้อย่างฉิวเฉียด
แต่ที่อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย สถานที่ท่องเที่ยวสุดสวยงามที่นาธานมาพำนักล่าสุด โดยการอำนวยความสะดวกของนางพิศมัย ศรีกระบุตร แม่เลี้ยง นั้น ก็มิใช่สวรรค์สำหรับนาธานเสียแล้ว เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สภ. เมืองอำนาจเจริญ ที่แม่บ้านสมานได้แจ้งความดำเนินคดีต่อนาธานไว้นั้น ได้บุกไปจับกุมนาธานถึงหน้าบ้านที่เจ้าตัวไปอาศัย แน่นอนว่า วินาทีที่เขาถูกจับกุมและสวมกุญแจมือนั้น คนที่พลิ้วที่สุดอย่างนาธานถึงกับหน้าถอดสี ช็อกกับเหตุไม่คาดฝันว่าจะมีวันนี้ !!
หลังจากนั้น นาธานถูกพาตัวมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองอำนาจเจริญ โดยมี พล.ต. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบก. ภ.จว. อำนาจเจริญ เป็นผู้ที่รับผิดชอบคดีดังกล่าว ทั้งนี้ พล.ต.ต. ดำรงศักดิ์ได้เปิดใจกับ “ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ว่า คดีนี้ไม่หนักใจเลยแม้แต่น้อย เพราะมีหลักฐานชัดเจนแจ่มแจ้งอยู่แล้ว
“ไม่หนักใจเลยครับ หลักฐานชัดเจนอยู่แล้ว ตามรูปคดีสำนวนก็แน่นหนาอยู่แล้วครับ เรื่องคดีไม่หนักใจ เพียงแต่ว่าเป็นห่วงแม่บ้านว่าจะได้เงินคืนหรือเปล่า”
ประเด็นที่ พล.ต.ต. ดำรงศักดิ์กังวล อาจเกิดขึ้นได้ถ้าการสู้คดีในครั้งนี้ยืดเยื้อเรื้อรัง เพราะบทสุปของคดีจะออกในรูปแบบใดก็ได้ ไม่ว่าจะเป็นการต่อสู้ในชั้นศาลซึ่งนาธานอาจตัดสินใจยอมรับโทษทางกฎหมายซึ่งไม่ได้รุนแรงเท่าไหร่ก็เป็นได้
“คดีนี้เป็นคดีที่ยอมความได้ ถ้าระยะเวลานานๆ ต่อรองกันไปต่อรองกันมา คู่กรณีอาจจะได้หนี้สินไม่ครบก็ได้ แล้วคดีนี้มีโทษที่ไม่สูงมาก เขาอาจจะยอมโดนลงโทษจำคุกอะไรแบบนั้น แล้วเขาก็ไม่ใช้หนี้ก็เป็นไปได้ทั้งนั้นนะครับ”
“ สมมติว่าเขาไม่มีเงินใช้หนี้ เขาอาจจะยอมติดคุก เราก็ไม่แน่ใจว่า ศาลจะตัดสินอย่างไร เพราะคดีแบบนี้มีอัตราโทษ จำคุกไม่เกินสามปี ปรับไม่เกินหกพันบาทนะครับ ก็ไม่รู้ว่าเวลาถึงชั้นศาลจะมีการพิพากษาอย่างไร ก็ไม่แน่ใจน่ะครับ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สังคมจับตามอง ก็คงต้องดูต่อไปว่านาธานเขามีปฏิกิริยาต่อไปอย่างไรนะครับ”
สำหรับคำถามที่เกิดขึ้นในสังคม ก็คือ เพราะเหตุใดคนที่ชื่อ นาธาน จึงเข้าไปนอนในคุกเพียงแค่คืนเดียว ถัดจากค่ำคืนในตะราง นาธานก็ได้รับการประกันตัว ออกมานั่งยิ้มเพล่ให้สัมภาษณ์แบบพลิกจากหน้ามือเป็นหลังเท้าว่า เขาจะต่อสู้คดีนี้อย่างถึงที่สุด
ในกรณีดังกล่าว พล.ต.ต. ดำรงศักดิ์เปิดเผยว่า ทางทีมสอบสวนได้ยื่นเรื่องคัดค้านการประกันตัวแล้ว ด้วยสาเหตุหลักสองประการคือ หนึ่ง นาธานมีพฤติกรรมที่อาจจะหลบหนี และสอง นาธานอาจจะข่มขู่คู่กรณีได้
“เราก็ยื่นคัดค้านต่อศาลแล้ว แต่ศาลเขาก็ใช้ดุลพินิจของเขานะครับ เราก็มองแล้วว่า สาเหตุที่เราไม่ให้ประกันตัว ส่วนหนึ่งเพราะแม่บ้านเขาได้ทำหนังสือคัดค้านมา ยื่นคัดค้านว่าโดนข่มขู่จากคนทางโทรศัพท์ว่า ให้รีบถอนคดีซะ เดี๋ยวจะไม่ปลอดภัยนะ อะไรแบบนี้ เราก็เอามาเป็นสาเหตุหนึ่ง แล้วก็มีสาเหตุที่ว่าเกรงว่านาธานจะหลบหนี เพราะว่ามีพฤติการณ์ค่อนข้างที่จะไม่น่าไว้วางใจ เพราะหนึ่งออกหมายเรียกก็ไม่ติดต่อมา ให้มาติดต่อก็ไม่ติดต่อ หลบ บ่ายเบี่ยงตลอด เราต้องตามจับเอง เราก็คิดว่า ถ้าเกิดให้ประกันตัว อาจจะหลบหนี เราก็เลยใช้สองข้อนี้คัดค้านการประกันตัว เรายื่นคัดค้าน แล้วก็ให้แม่บ้านไปพบศาลเพื่อให้ไต่สวนด้วยนะครับ แต่ศาลก็ให้ประกันตัว”
ถึงนาธานจะได้รับการประกันตัว แต่ พล.ต.ต. ดำรงศักดิ์บอกว่า เขาก็จะทำหน้าที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์อย่างเต็มที่ จะไม่ยอมให้มีการข่มขู่ทางฝั่งแม่บ้านสมานแต่อย่างใด
“ก็คงพยายามดูแลทางแม่บ้านให้ดีนะครับ ถ้าเผื่อทางแม่บ้านเขาร้องขอช่วงไหน เขาไม่สบายใจ เราก็จะส่งคนไปอยู่ด้วย แต่ในเบื้องต้นดูแล้วก็ยังไม่มีอะไร เพียงแต่ว่ามีการโทร.มาทำให้แม่บ้านเขาเกิดความกลัว แต่ว่าดูแล้วก็ยังไม่ถึงขั้นข่มขู่ แต่ว่าเราก็ให้ทางตำรวจที่อยู่ในพื้นที่ดูแลอยู่แล้วครับ”
ถึงนาธานจะไม่ได้อยู่ในคุกแล้ว แต่พล.ต.ต. ดำรงศักดิ์ยืนยันว่านี่เป็นคดีที่ไม่ยุ่งยากอะไร เพราะหลักฐานต่างๆ ทั้ง หลักฐานการโอนเงินที่แม่บ้านสมานโอนให้นาธาน หลักฐานการกู้เงินสหกรณ์ โฉลดที่ดิน ฯลฯ ต่างก็เป็นหลักฐานที่ชัดเจนอยู่ในตัวอยู่แล้ว ดังนั้นถ้าพิจารณาในด้านของคดี ทีมสอบสวนของสภ.เมืองอำนาจเจริญจึงไม่หนักใจอะไร
แต่เมื่อถามถึงความรู้สึกที่มีต่อตัวของคนที่ชื่อ นาธาน นั้น พล.ต.ดำรงศักดิ์ ได้แต่หัวเราะ แล้วบอกเพียงแต่ว่า ตั้งแต่นาธานมาถึงสภ.เมืองอำนาจเจริญนั้น หาความเสถียรจากถ้อยคำของนาธานได้ยากเหลือเกิน
“เขาก็ไปเรื่อยน่ะครับ เดี๋ยวปฏิเสธ เดี๋ยวรับ เดี๋ยวก็บอกแสนกว่า เดี๋ยวก็บอกสามแสน ก็ไปเรื่อยของเขาน่ะครับ ถ้าได้คุยกับเขาก็จะรู้ เดี๋ยววันนี้เขาก็บอกว่ายังไม่ให้การ ต้องรอแม่เลี้ยงก่อน เดี๋ยวก็บอกคุยกับพี่เต็มแล้ว คำพูดเขาเราคงเอามาเป็นประเด็นอะไรไม่ได้ เพียงแต่ว่าพอได้ประกันเขาก็จะขอสู้คดี ซึ่งการสู้คดีก็ต้องสู้ในชั้นศาล เขาก็จะยื้อในการที่จะมาไกล่เกลี่ยกับฝั่งผู้เสียหายให้นาน คดีก็ขึ้นสู่ศาล ก็ต้องสู้กันนาน หลายเดือน อาจจะเป็นปีก็ได้ ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องขึ้นอยู่กับศาล แต่ภายในเดือนหน้าเราก็คงจะสรุปสำนวนได้เรียบร้อย แล้วก็ส่งให้อัยการ แต่ขั้นศาลเราก็ไม่แน่ใจว่าจะนานแค่ไหนนะครับ” พล.ต.ต. ดำรงศักดิ์สรุปสถานการณ์