นายสุพันธุ์ มงคลสุธี กรรมการ บริษัท ที.เค.เอส. เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ TKS เปิดเผยถึงแนวโน้มธุรกิจสิ่งพิมพ์ปี 53 ว่ามีทิศทางค่อนข้างสดใส เนื่องจากพบว่าลูกค้าจากต่างประเทศเริ่มให้ความสนใจงานพิมพ์ของบริษัทฯ มากขึ้น หลังจากที่ได้รับรางวัลจากการประกวดงานพิมพ์ในระดับนานาชาติหลายรางวัลในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ทำให้ลูกค้ามั่นใจว่า TKS สามารถผลิตงานพิมพ์ได้ในระดับเวิลด์คลาส และเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้งานพิมพ์จากประเทศไทย ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติมากขึ้น
" ปีหน้าเชื่อว่าธุรกิจการพิมพ์ค่อนข้างสดใส เพราะเราเห็นเทรนด์ลูกค้าจากต่างประเทศดีขึ้นมาก ซึ่งน่าจะเป็นเพราะมั่นใจว่าเราผลิตสินค้าได้ในระดับเวิลด์คลาสหลังได้รับรางวัลมาหลายครั้งลูกค้าจึงเริ่มเข้ามาหาเราเองมากขึ้น จากเดิมที่เราเป็นฝ่ายเข้าไปเสนองาน เพราะงานที่เราทำลูกค้าได้บอกต่อกันแบบปากต่อปาก" นายสุพันธุ์กล่าว
ทั้งนี้ ช่วงที่ผ่านมาบริษัท ที.เค.เอส. สยามเพรส แมเนจเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยผู้ดำเนินธุรกิจด้านสิ่งพิมพ์ครบวงจได้รับรางวัลยอดเยี่ยม 2 รางวัล จากงานประกวดสิ่งพิมพ์อาเซียนครั้งที่ 7 หรือ Asian Print Awards 2009 ซึ่งจัดขึ้นที่มาเลเซีย ทำให้บริษัทรองรับโอกาสทางธุรกิจที่จะเข้ามาในอนาคต ขณะนี้จึงได้จ้างผู้เชี่ยวชาญทางด้านการพิมพ์จากประเทศเยอรมนีเข้ามาเป็นผู้บริหารดูแลส่วนการผลิต (Production) อย่างเต็มตัวเพื่อพัฒนาคุณภาพด้านการผลิตและดูแลด้านการจัดการเพื่อให้รองรับงานได้มากขึ้น และเพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัทฯ ที่ มีแผนจะขยายตลาดธุรกิจงานพิมพ์ให้ก้าวขึ้นสู่ตลาดในระดับภูมิภาค จากปัจจุบันที่พบว่าตลาดยังมีช่องว่างเพียงพอต่อการเติบโตในอนาคต
โดย TKS มีเป้าหมายจะเพิ่มรายได้จากลูกค้าต่างประเทศในปีหน้าสัดส่วน 20 % ของรายได้ จากปีนี้ที่คาดว่าจะอยู่ในสัดส่วน 10% โดยปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 1,000 ล้านบาท ส่วนปี 53 คาดว่ารายได้จะเติบโตขึ้นประมาณ 15% จากปี 52 อยู่ที่ระดับ 1,150 ล้านบาท แม้ว่าตลาดงานพิมพ์ในประเทศจะเติบโตไม่เท่าที่ควรและไม่มีงานในเทศกาลพิเศษเข้ามาเพิ่ม แต่เป็นเพราะตลาดต่างประเทศมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างชัดเจน จึงทำให้รายได้มีทิศทางเติบโตค่อนข้างสดใส ซึ่งปัจจุบันนี้ TKS มีคำสั่งซื้อที่รอรับรู้เป็นรายได้ปีหน้าแล้ว 40-50% ของรายได้รวม
ขณะเดียวกันกำไรจากการดำเนินงานก็มีโอกาสเติบโตในทิศทางเดียวกันกับรายได้ที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับที่ผ่านมา TKS มีนโยบายบริหารต้นทุนอย่างระมัดระวังทั้งลดการสูญเสียในกระบวนการผลิต ลดต้นทุนการขนส่งและอื่น ๆ จึงทำให้กำไรขั้นต้น (Margin) มีแนวโน้มออกมาในทิศทางที่ดี ซึ่งแนวโน้มการเติบโตของผลประกอบการที่จะออกมาค่อนข้างสดใสนี้ยังไม่รวมการรับรู้รายได้จากเงินปันผลของบริษัทร่วม คือ บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ที่ TKS ถือหุ้นอยู่ 40%
" ปีหน้าเชื่อว่าธุรกิจการพิมพ์ค่อนข้างสดใส เพราะเราเห็นเทรนด์ลูกค้าจากต่างประเทศดีขึ้นมาก ซึ่งน่าจะเป็นเพราะมั่นใจว่าเราผลิตสินค้าได้ในระดับเวิลด์คลาสหลังได้รับรางวัลมาหลายครั้งลูกค้าจึงเริ่มเข้ามาหาเราเองมากขึ้น จากเดิมที่เราเป็นฝ่ายเข้าไปเสนองาน เพราะงานที่เราทำลูกค้าได้บอกต่อกันแบบปากต่อปาก" นายสุพันธุ์กล่าว
ทั้งนี้ ช่วงที่ผ่านมาบริษัท ที.เค.เอส. สยามเพรส แมเนจเม้นท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยผู้ดำเนินธุรกิจด้านสิ่งพิมพ์ครบวงจได้รับรางวัลยอดเยี่ยม 2 รางวัล จากงานประกวดสิ่งพิมพ์อาเซียนครั้งที่ 7 หรือ Asian Print Awards 2009 ซึ่งจัดขึ้นที่มาเลเซีย ทำให้บริษัทรองรับโอกาสทางธุรกิจที่จะเข้ามาในอนาคต ขณะนี้จึงได้จ้างผู้เชี่ยวชาญทางด้านการพิมพ์จากประเทศเยอรมนีเข้ามาเป็นผู้บริหารดูแลส่วนการผลิต (Production) อย่างเต็มตัวเพื่อพัฒนาคุณภาพด้านการผลิตและดูแลด้านการจัดการเพื่อให้รองรับงานได้มากขึ้น และเพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายของบริษัทฯ ที่ มีแผนจะขยายตลาดธุรกิจงานพิมพ์ให้ก้าวขึ้นสู่ตลาดในระดับภูมิภาค จากปัจจุบันที่พบว่าตลาดยังมีช่องว่างเพียงพอต่อการเติบโตในอนาคต
โดย TKS มีเป้าหมายจะเพิ่มรายได้จากลูกค้าต่างประเทศในปีหน้าสัดส่วน 20 % ของรายได้ จากปีนี้ที่คาดว่าจะอยู่ในสัดส่วน 10% โดยปีนี้คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 1,000 ล้านบาท ส่วนปี 53 คาดว่ารายได้จะเติบโตขึ้นประมาณ 15% จากปี 52 อยู่ที่ระดับ 1,150 ล้านบาท แม้ว่าตลาดงานพิมพ์ในประเทศจะเติบโตไม่เท่าที่ควรและไม่มีงานในเทศกาลพิเศษเข้ามาเพิ่ม แต่เป็นเพราะตลาดต่างประเทศมีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างชัดเจน จึงทำให้รายได้มีทิศทางเติบโตค่อนข้างสดใส ซึ่งปัจจุบันนี้ TKS มีคำสั่งซื้อที่รอรับรู้เป็นรายได้ปีหน้าแล้ว 40-50% ของรายได้รวม
ขณะเดียวกันกำไรจากการดำเนินงานก็มีโอกาสเติบโตในทิศทางเดียวกันกับรายได้ที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับที่ผ่านมา TKS มีนโยบายบริหารต้นทุนอย่างระมัดระวังทั้งลดการสูญเสียในกระบวนการผลิต ลดต้นทุนการขนส่งและอื่น ๆ จึงทำให้กำไรขั้นต้น (Margin) มีแนวโน้มออกมาในทิศทางที่ดี ซึ่งแนวโน้มการเติบโตของผลประกอบการที่จะออกมาค่อนข้างสดใสนี้ยังไม่รวมการรับรู้รายได้จากเงินปันผลของบริษัทร่วม คือ บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ที่ TKS ถือหุ้นอยู่ 40%