นายประสพสุข บุญเดช ประธานวุฒิสภา กล่าวถึงกรณี พ.อ.อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 กล่าวปาฐกถา หัวข้อ “บทบาทรัฐสภาในการสนับสนุนการพัฒนาประชาธิปไตย ตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ” โดยระบุว่า รัฐสภาไม่ได้มีอิสระจากอำนาจอีก 2 ฝ่าย คือ ฝ่ายบริหาร และตุลาการ ว่า วุฒิสภาในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของรัฐสภา ยืนยันว่า มีความเป็นอิสระ ไม่ได้อยู่ภายใต้อำนาจของฝ่ายบริหารและฝ่ายตุลาการแต่อย่างใด เพราะวุฒิสภา ได้ทำหน้าที่ในการตรวจสอบอำนาจของฝ่ายบริหารด้วย ซึ่งจะเห็นได้จากการตั้งกระทู้ถามรัฐบาล เพื่อชี้แจงให้ประชาชนทราบว่ารัฐบาลมีความบกพร่องในการทำงานอย่างไร
นอกจากนี้ตนยังเห็นว่า ฝ่ายตุลาการ ก็ไม่เห็นจะเกี่ยวข้องกับรัฐสภาตรงไหน เพราะแยกกันโดยเด็ดขาด แต่อาจจะมีกฎหมายบางฉบับ ที่ตุลาการเสนอมา หากวุฒิสภาไม่เห็นด้วยก็ต้องตกไปเช่นกัน และขอยืนยันว่า ตุลาการไม่ได้มีอิทธิพลเหนือรัฐสภาแน่นอน
"ผมเห็นว่าวุฒิสภาในฐานะส่วนหนึ่งของรัฐสภาไม่ได้อยู่ภายใต้อำนาจของฝ่ายบริหารและตุลาการ หรือของใคร แต่อยู่เหนือกว่าด้วยซ้ำ และเรามีหน้าที่ควบคุมฝ่ายบริหารอยู่แล้ว เพราะจะเห็นได้จากที่วุฒิสภาคว่ำกฎหมายที่รัฐบาลเสนอหลายฉบับที่ไม่เห็นด้วย ถ้าหากรัฐสภาควบคุมไม่ได้ ประชาชนก็แย่" นายประสพสุข กล่าว
นายประสพสุข กล่าวอีกว่า ส่วนที่ พ.อ.อภิวันท์ ระบุว่า รัฐธรรมนูญปี 50 เป็นเผด็จการซ่อนรูปนั้น ตนเห็นว่าเป็นสิทธิ์ที่ท่านจะวิพากษ์วิจารณ์ และเป็นสิทธิ์ ที่จะไม่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน เพราะคนเรามีความคิดแตกต่างกันได้
นอกจากนี้ตนยังเห็นว่า ฝ่ายตุลาการ ก็ไม่เห็นจะเกี่ยวข้องกับรัฐสภาตรงไหน เพราะแยกกันโดยเด็ดขาด แต่อาจจะมีกฎหมายบางฉบับ ที่ตุลาการเสนอมา หากวุฒิสภาไม่เห็นด้วยก็ต้องตกไปเช่นกัน และขอยืนยันว่า ตุลาการไม่ได้มีอิทธิพลเหนือรัฐสภาแน่นอน
"ผมเห็นว่าวุฒิสภาในฐานะส่วนหนึ่งของรัฐสภาไม่ได้อยู่ภายใต้อำนาจของฝ่ายบริหารและตุลาการ หรือของใคร แต่อยู่เหนือกว่าด้วยซ้ำ และเรามีหน้าที่ควบคุมฝ่ายบริหารอยู่แล้ว เพราะจะเห็นได้จากที่วุฒิสภาคว่ำกฎหมายที่รัฐบาลเสนอหลายฉบับที่ไม่เห็นด้วย ถ้าหากรัฐสภาควบคุมไม่ได้ ประชาชนก็แย่" นายประสพสุข กล่าว
นายประสพสุข กล่าวอีกว่า ส่วนที่ พ.อ.อภิวันท์ ระบุว่า รัฐธรรมนูญปี 50 เป็นเผด็จการซ่อนรูปนั้น ตนเห็นว่าเป็นสิทธิ์ที่ท่านจะวิพากษ์วิจารณ์ และเป็นสิทธิ์ ที่จะไม่เห็นด้วยกับรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน เพราะคนเรามีความคิดแตกต่างกันได้