รัฐ-เอกชน “ผูเอ่อ” พบนักธุรกิจสองแคว จับมือนครพิษณุโลกดันศูนย์สินค้าเกษตร

พิษณุโลก– ตัวแทนรัฐ-เอกชน “ผูเอ่อ” ลุยพบนักธุรกิจสองแคว สำรวจพื้นที่ลงทุนเกษตรกรรมแปลงผักที่ “ภูทับเบิก” และแหล่งทำสวนยางพารา ที่จีนยังต้องการไม่อั้น แต่ผลิตได้ไม่พอต่อความต้องการ พร้อมลงนามMOUการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว เล็งปั้นขึ้นชั้นศูนย์กลางพืชผลทางการเกษตรในอนาคต

รายงานข่าวจากจังหวัดพิษณุโลก แจ้งว่า พล.อ.เชษฐา ฐานะจาโร ในฐานะนายกสมาคมมิตรภาพไทย-จีน พร้อมคณะนักธุรกิจและรองนายกเทศมนตรีนครผูเอ่อ มณฑลหยุนหนัน สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่นำโดยนายเฉียน เต๋อ เว่ย รองนายกเทศมนตรีนครผูเอ่อ ได้เดินทางมาพิษณุโลก พบปะกับนักธุรกิจเมืองสองแควพร้อมทำบันทึกข้อตกลงความร่วมระหว่างรัฐต่อรัฐ คือ เทศบาลนครพิษณุโลกกับเทศบาลนครผูเอ่อ เป็นบ้านพี่เมืองน้องให้ความร่วมมือทางการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว กับเทศบาลนครพิษณุโลก เมื่อเร็ว ๆ นี้

นายวิเศษ วชิราศรีศิริกุล ในฐานะที่ปรึกษาหอการค้าและที่ปรึกษานายกเทศมนตรีเทศบาลนครพิษณุโลก เปิดเผยว่า หลังจากเกิดความร่วมมือระหว่างผูเอ่อกับนครพิษณุโลกแล้ว อนาคตจะเป็นความร่วมมือระหว่างภาคเอกชนกับเอกชน และครั้งนี้องค์กรธุรกิจนครผูเอ่อ ไม่ต่ำกว่า 10 ราย เช่นกลุ่มบริษัท หยุนหนัน หวั่นฟาง, บริษัท คุนหมิง อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็กซ์เซนส์แอนด์ เซอร์วิสเซส จำกัด (บริษัทใหญ่ติดอันดับท็อปเทนของหยุนหนัน เชี่ยวชาญด้านการเกษตร) ฯลฯ ต่างร่วมเดินทางมาดูสภาพพื้นที่ในจังหวัดพิษณุโลก เพชรบูรณ์และเชียงราย แล้ว

นายวิเศษ บอกว่า คณะของจีนให้ความสนใจ ด้านการเกษตรของไทย โดยช่วงวันที่ 15-16 ธันวาคมที่ผ่านมา ได้เดินทางไปดูการปลูกกะหล่ำที่ภูทับเบิก เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ เนื่องจากสนใจการปลูกผักเพื่อการส่งออก เพราะพื้นที่ ที่เหมาะสมในหยุนหนันไม่เพียงพอ แม้ว่าพื้นที่เกษตรกร 1 งาน สามารถปลูกเห็ดหอมให้ผลผลิตมากถึง 3 ตันต่อปีก็ตาม แต่ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ จึงสนใจลงทุนปลูกสินค้าเกษตรในไทยและส่งกลับไปประเทศจีน

นอกจากนี้ สนใจลงทุนเกี่ยวกับยางพารา เนื่องจากจีนยังมีความต้องการสูง แม้ว่าสิบสองปันนา จะปลูกยางพารามากสุด และมณฑลหยุนหนันก็ปลูกได้ แต่เกษตรกรชาวจีนนิยมปลูก “ชาผูเอ่อ”มากกว่า เนื่องจากเป็นสินค้าระดับโลก ขายได้กิโลกรัมละ 100 บาทเมื่อเทียบกับการขายยางพารา ได้กิโลกรัมละ 60 บาท และที่สำคัญสวนยางในจีน กรีดน้ำยางพาราได้เพียง 3 เดือน (ในฤดูร้อน) เท่านั้น

ด้านนางเปรมฤดี ชามพูนท นายกเทศมนตรีนครพิษณุโลก กล่าวว่า เทศบาลนครพิษณุโลก ได้ลงนาม MOU ด้านธุรกิจการค้า ศูนย์กลางผักสดและการท่องเที่ยว กับนครผูเอ่อ คาดว่าในอนาคตพิษณุโลกจะเป็นตลาดรองรับผลผลิตทางการ เกษตรอันมีชื่อจากนครผูเอ่อ เพราะมีพื้นที่เกษตรอันอุดมสมบูรณ์มีความเหมาะสมต่อการเพาะปลูกพืชเกษตร โดยจะมีการแลกเปลี่ยนทางวิชาการ แลกเปลี่ยนการค้าขายต่อกัน เพราะเดินทางไปมาสะดวก เพียง 8-10 ชั่วโมงเท่านั้น อีกทั้งพิษณุโลกยังเป็นจุดพักกลางทางที่สะดวก ก่อนเดินทางต่อไปกรุงเทพมหานคร พัทยา มาเลเซีย และสิงคโปร์

ทั้งนี้ คณะเมืองผู้บริหารเมืองผูเอ่อ มณฑลหยุนหนัน เดินทางมาจากจีน โดยเครื่องบินมาลงสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อพบกับรัฐมนตรีเกษตรและสหกรณ์ และนักธุรกิจไทยที่สมาคมมิตรภาพไทย-จีน จากนั้นได้แยกคณะเดินทางไปจังหวัดต่างๆ โดยบางส่วนได้ลงพื้นที่พิษณุโลกและเชียงราย

สำหรับนครผูเอ่อ เป็นเมืองเกษตรเหมือนกับพิษณุโลก ตั้งอยู่บนแนวถนนคุน-มั่ง กงลู่ ก่อนถึงเมืองคุนหมิง โดยเฉพาะ “ชาผูเอ่อ”ซึ่งเป็นแหล่งผลิตขนาดใหญ่ สร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศจีน บริโภคในประเทศ 70 เปอร์เซ็นต์และส่งออกไปทั่วโลกอีก 30 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ยังมีแปลงผลิตเห็ดหอมบนเนื้อที่ 1 งานสามารถให้ผลผลิตสูงถึง 3 ตัน