xs
xsm
sm
md
lg

ลูกค้าบีบีซีปั้น โรเจอร์ และโรสแมรี่ ธนธร พลิมเมอร์ตัน (1)

เผยแพร่:   โดย: ชัยสิริ สมุทวณิช

ถ้าเรื่องราวของปั้น โรเจอร์ และโรสแมรี่ ธนธร พลิมเมอร์ตัน จะกลายเป็นนวนิยายหรือถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ ก็คงทำเงินได้หลายล้าน เพราะนางเอกสวยกว่าดาราคนใดในเวลานั้น อีกทั้งยังเป็นคนที่มีความสามารถในการแสดง และสำคัญที่สุดเธอเป็นเศรษฐีเงินล้าน ตั้งแต่อายุยังไม่ครบ 14 ปี

แต่เรื่องราวของเด็กสองคน เริ่มในประเทศไทยนี้แหละ

บิดาของเด็กๆ ชื่อ Tony H. Plimmerton

มารดาคือ กรรณิกา อุษาบรรณกิจ

ครอบครัวของมารดามีร้านหนังสือใหญ่โตที่จังหวัดอุบลราชธานี แต่เธอมาโตที่กรุงเทพฯ อยู่โรงเรียนราชินีบนจนจบจึงเรียนต่อคณะบัญชีที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้ปริญญาตรีและไปฝึกงานอยู่พักหนึ่งที่บริษัทบัญชีฝรั่งแห่งหนึ่ง

ต่อมาจึงย้ายไปทำบัญชีกับบริษัทต่างชาติ และเมื่อได้นายใหญ่เดินทางมาจากอังกฤษ คือ Tony ทั้งสองก็พบรัก

Tony ย้ายเธอจากฝ่ายบัญชีมาเป็นเลขานุการ และเธอต้องไปเรียนชวเลขและภาษาอังกฤษเพิ่มเติม

ทั้งสองบินกลับไปแต่งงานในโบสถ์ที่เคนซิงตัน

มีลูกสาวลูกชาย 2 คน โดยย่าตั้งชื่อให้ทั้ง 2 คน ตามที่เห็นว่าเด็กควรมีชื่อกลางเป็นภาษาอังกฤษ

กรรณิกาให้ชื่อเป็นไทย กับลูกสาวลูกชายให้รักษานามสกุลไทยไว้ เนื่องจากบัญชีเงินฝากในธนาคารไทย ใส่ชื่อเป็นภาษาไทย และพาสปอร์ตก่อนเปลี่ยนสัญชาติก็ใช้ชื่อนี้

เด็กทั้งสองเติบโตขึ้นมาอย่างอบอุ่น และฉายแววมาตั้งแต่เล็กๆ ว่า จะหล่อจะสวย ดูเป็นลูกครึ่งที่เหมือนฝรั่งมากกว่าคนไทย

ลูกสาวมีตาสีเขียว ซึ่งย่าบอกว่าเหมือนกับแม่ของย่าเธอมีเชื้อสายสวีเดนปนอยู่ด้วย

แต่เด็กทั้งสองคนไม่เคยคิดว่าตัวเองหล่อและสวย

จนเข้าโรงเรียน เพื่อนๆ ไม่คิดว่าเด็กสองคนเป็นลูกครึ่ง

พูดภาษาอังกฤษคล่องแคล่ว แม้สำเนียงออกจะไปทางภาษาถิ่นที่ไม่เหมือนชาวนครลอนดอน

การเรียนก็ดี เก่ง ได้คะแนนสูง เด็กผู้ชายได้รางวัลดีเด่น แต่ไม่เก่งเล่นกีฬา

เด็กผู้หญิงออกจะคล่องทั้งกีฬา เล่นอยู่ในทีมโรงเรียน ได้เปรียบเพราะสูงกว่าเด็กฝรั่ง อีกทั้งยังมีความสามารถ จนทำให้ทีมโรงเรียนชนะเลิศหลายครั้ง

เป็นที่ภูมิใจของครอบครัวพลิมเมอร์ตัน

ชีวิตของเด็ก 2 คน มาเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เมื่อได้รับโอกาสไปถ่ายโฆษณาสินค้า โดยผลตอบแทนทำให้ได้เงินจำนวนมากมาย และแม้ว่าย่าจะเก็บเงินไว้ให้ แต่เด็กทั้ง 2 คน ก็มีเงินใช้สบายๆ จนไม่ต้องพึ่งพ่ออีก

ย่าบอกอายุครบ 18 จะแบ่งเงินเข้าบัญชีให้คนละล้าน

หลังอายุ 21 ก็จะให้ทั้งหมด

เวลานี้ขอให้ตั้งใจเรียนจนจบ หลังเรียนจบก็อยากให้เรียนให้สูงที่สุด และอยากให้สักคนเป็นอาจารย์

ทั้งสองคนไม่ได้กลับมาเยี่ยมญาติที่เมืองไทยเลย ตลอดเวลานับ 10 ปี

ลืมภาษาไทย และนับถือศาสนาคริสต์ตามบิดา

เมื่ออายุได้ 8 ขวบ ปั้นพบรักครั้งแรกกับนักเรียนโรงเรียนเดียวกัน ชื่อ แฟตตี้ เด็กผู้หญิงอ้วน หน้าตาดี มาจากครอบครัวดี

แต่ปั้นไม่ชอบที่เธออ้วน และพยายามเลี่ยงที่พบเธอ

จดหมายรักของแฟตตี้พร่ำพรรณนาแต่ความหล่อเหลาของเขา

เมื่อปั้นไม่เล่นด้วย

ก็เกิดข่าวลือว่าเขาเป็นเกย์

จนโรสแมรี่ปกป้องพี่ชาย และไปพบพ่อแม่ของแฟตตี้ให้ช่วยอบรมลูกสาวด้วย

เรื่องจึงจบลงได้ด้วยเด็กหญิงอายุไม่ถึง 10 ขวบ

ส่วนตัวของโรสแมรี่ เองก็ไม่เบา

เธอไม่รู้ตัวเลยว่า เธอนั้นเป็นคนสวย เป็นที่หมายปองของเด็กหนุ่มอยู่หลายคน

มีเด็กขี้อายคนหนึ่ง เป็นเด็กข้างบ้าน ฐานะสู้พวกพลิมเมอร์ตันไม่ได้ แต่เด็กคนนี้ชื่อ แม็คเกรเกอร์ เล่นกีฬาเก่ง คือคริกเกตเป็นทีม 2 ของโรงเรียน

โรสแมรี่มารู้ว่าชอนชอบเธอ วันหนึ่ง ชอนแต่งบทกวีเสียหวานแหววให้เธอโดยแอบเอามาใส่ในล็อกเกอร์ไว้

โรสแมรี่อ่านแล้วก็หน้าแดง แต่ก็เอาไปให้เพื่อนๆ อ่านในห้องเรียน

เพื่อนๆ ส่งต่อกันไปจนครบ ถูกคุณครูจับได้ จึงเรียนชอนไปพบแต่ก็ไม่ได้ลงโทษ

“เธอนี้คงเป็นเวิร์ธเวิร์ดกลับชาติมาเกิด กลอนเธอแต่งได้ดีมา ไม่คิดว่าเด็กขนาดนี้จะหวานแหวว ไปรักใครเขามาล่ะ” คุณครูหยอกล้อ

หลังจากนั้น ชอนก็หายเงียบไป หมดจากชอนก็มีเด็กอีกคน คนนี้เอาจริงยิ่งกว่าชอน โรสแมรี่รู้ตัวตั้งแต่แรก

ริชาร์ด เพมบรู๊คเป็นนักรักบี้รุ่นจิ๋วที่โดดเด่นเล่นละครเป็นโรมิโอ ขณะที่โรสแมรี่เป็นจูเลียต เขาจับมือเธอไว้ตลอดเวลา แม้แต่หลังเวทีก็ตาม

โรสแมรี่เป็นเด็กกล้า จึงถามตรงๆ ว่า

“นี่เธอ... เธอน่ะเด็กกว่าฉันนะ ชอบฉันรึไง”

“ไม่ใช่ไม่ชอบนะ ฉันหลงรักเธอ เธอรู้จักไหม รักแรกพบนะ”

“อ๋อ งั้นเรอะ.... ฉันไม่ได้รักเธอหรอกนะ เธอก็เป็นเพื่อนที่ดีเท่านั้น”

ริชาร์ดไม่ลดราวาศอก แม้ยอมรับว่าคบกับโรสแมรี่ในฐานะเพื่อน

แต่ชะตากรรมบันดาลเป็นใจให้เรื่องไม่จบแค่นี้

โรงเรียนมีธรรมเนียมว่าปิดเทอม 2 อาทิตย์ให้เด็กแลกเปลี่ยนไปอยู่บ้าน โดยแต่ละครอบครัวไปอยู่ร่วมกัน ทำความรู้จักกันให้มากกว่าที่รู้จักในโรงเรียน

ริชาร์ด พยายามสืบจนรู้ว่าโรสแมรี่ถูกส่งไปอยู่กับครอบครัวของเด็กผู้หญิงในสกอตแลนด์

เขาติดสินบนโดยไปหาไอศกรีมแท่งเคียวที่ทัคชอป (ร้านค้าเล็กๆ ที่ขายขนม) เพื่อแลกกับการให้โรสแมรี่มาอยู่กับครอบครัวเขา

โรสแมรี่ไม่รู้เรื่องเลย

บิดาของโรสแมรี่ก็เต็มใจรวมทั้งย่าด้วย โดยย่าบอกว่าเคยรู้จักกับครอบครัวนี้ เพราะเคยไปดื่มน้ำชากันที่คลับแห่งหนึ่งเมื่อปีที่แล้ว

บิดาของริชาร์ด คือท่านลอร์ดเพมบรู๊คอยู่สภาขุนนาง บ้านอยู่ชานกรุงลอนดอน ใหญ่โตด้วยเนื้อที่หลายสิบเอเคอร์ ต้องมีรถม้านั่งผ่านถนนเล็กๆ จึงจะถึงตัวบ้านที่ใหญ่โตมาก มีพวกคนรับใช้และบัตเลอร์ดูแลอย่างดี

ริชาร์ดมีคนดูแล 2 คน คนหนึ่งคอยดูแลม้าของเขาด้วย

ท่านลอร์ดอายุมากแล้ว ใจดี มารดาอายุไม่มาก เวลานั้น 42 ท่านยังงามสง่า แม้จะเริ่มมีผมสีขาวประปราย แต่ก็แต่งกายเหมาะแก่วัย

ทั้งสองคนรักกันมาก และริชาร์ดเป็นบุตรชายคนเดียวที่ถูกอบรมเป็นผู้ดีทุกกระเบียดนิ้ว

โรสแมรี่ถูกจัดให้อยู่ในห้องที่กว้างใหญ่ มีทั้งห้องนั่งเล่น ห้องเสื้อผ้า ห้องแต่งตัว ห้องอาบน้ำ แยกระหว่างอ่างอาบน้ำกับห้องฝักบัว

แต่โรสแมรี่ก็อึดอัด และเริ่มรู้สึกว่า ริชาร์ดคิดกับเธอมากกว่าความเป็นเพื่อน

บิดามารดาก็คิดว่า เธอเป็นแฟนคนแรกของลูก จึงเอาใจเป็นพิเศษ รวมทั้งให้รถเข็นอาหารเช้าเข้ามาถึงในห้องนอน และให้ลูกของพวกเขาอยู่กับเธอตามลำพัง เห็นว่าเป็นเด็กทั้งคู่คงไม่ทำอะไรเกินงาม โรสแมรี่ก็ไม่คิดว่าจะทำอะไรที่ไม่สมควร

กระทั่งวันหนึ่ง ทั้งคู่เดินเล่นอยู่ในสวนดูดอกทิวลิปที่ออกเต็มไปหมด แล้วริชาร์ดก็รวบตัวเธอมาจูบ เป็นครั้งแรกที่โรสแมรี่รู้ว่าถ้าผู้ชายจูบเธอแล้ว เธอจะหวั่นไหวเหมือนตกอยู่ในภวังค์

“ริชาร์ด ฉันจะบอกเธอว่า นี่เป็นครั้งสุดท้าย ถ้าเธอมาแตะต้องตัวฉัน หรือทำรุ่มร่ามอีก ฉันจะกลับบ้าน และเราตัดขาดจากการเป็นเพื่อน”

ริชาร์ดหน้าถอดสี ไม่นึกว่าเขาจะโดนอย่างนี้ ไม่รู้ว่านี่เป็นจูบครั้งแรกที่โรสแมรี่ได้รับ เขาจะไม่ทำอีกเลย (อ่านต่อวันพฤหัสฯ หน้า)
กำลังโหลดความคิดเห็น