อปท.พิเศษ“นครแม่สอด”เริ่มชัดเจน“อภิรักษ์”เร่งทำร่าง พ.รบ.เสนอ ครม.

ตาก- “อภิรักษ์” ยันข้อสรุป อปท.พิเศษ “นครแม่สอด” เกือบสมบูรณ์แล้ว เตรียมเสนอคณะกรรมการการกระจายอำนาจฯ เร็ววันนี้ พร้อมขึ้นรูปร่าง พ.ร.บ.เสนอ ครม.ต่อ

นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการพัฒนารูปแบบการให้บริการสาธารณะขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในลักษณะเครือข่าย หรือกลุ่มพื้นที่และรูปแบบการจัดตั้งองค์กรบริหารจัดการในพื้นที่พิเศษ กล่าวถึงความคืบหน้าการจัดตั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น(อปท.)รูปแบบพิเศษ “นครแม่สอด” ว่า หลังคณะอนุกรรมการฯลงพื้นที่และประชุมร่วมกับหน่วยงานราชการ อปท. และภาคเอกชน ผู้นำชุมชน รวมทั้งพบปะประชาชนเขตเทศบาลเมืองแม่สอด และเทศบาลตำบลท่าสายลวด เมื่อช่วงปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้ข้อสรุปเกือบสมบูรณ์แบบแล้ว ก่อนที่จะเสนอต่อคณะกรรมกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่มีนายกรัฐมนตรี(นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ) เป็นประธาน พร้อมร่าง พ.ร.บ.จัดตั้ง ก่อนที่จะเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบต่อไป

นายอภิรักษ์ ยืนยันว่า นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาก เนื่องจากเป็นนโยบายที่จะพัฒนาและสนับสนุนท้องถิ่นที่มีความพร้อมในการจัดตั้ง อปท.พิเศษ เป็นการกระจายอำนาจให้แก่ท้องถิ่น

นอกจากนี้มติ ครม.เมื่อ 6 ตุลาคม2552 มีการพิจารณาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาพื้นที่ชายแดน อ.แม่สอด จ.ตาก และครม.เห็นชอบในหลักการ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ 3 ประการ คือ 1.เร่งรัดการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทย-พม่า แห่งที่ 2 - 2.เร่งรัดโครงการสร้างเขตเศรษฐกิจพิเศษ รวมทั้งศูนย์บริการนำเข้า-ส่งออกเบ็ดเสร็จ One Stop Service การก่อสร้างคลังสินค้า( Logistics Park)เพื่อการบริการ และ 3. เร่งรัดจัดตั้งคณะกรรมการพัฒนาธุรกิจการค้าชายแดนที่แม่สอด

มติดังกล่าว เป็นการพัฒนาที่สอดคล้องกับการจัดตั้ง อปท.รูปแบบพิเศษแม่สอดทั้งสิ้น ดังนั้นคณะอนุกรรมการฯ จึงเห็นควรกำหนดทิศทาง Positioning ของ “นครแม่สอด” ให้เป็นเมืองการค้าชายแดน การลงทุน การใช้แรงงาน การอุตสาหกรรม และการท่องเที่ยว เพื่อรองรับการพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจ ชายแดนและระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก (East-West Economic Corridor-EWEC) ประตูการค้าสู่อันดามัน โดยมีพื้นที่การพัฒนาในเขตเทศบาลเมืองแม่สอดและเทศบาลตำบลท่าสายลวด ในระยะตั้งแต่ปี 2554-2556

นายอภิรักษ์ บอกว่า อปท.รูปแบบพิเศษนครแม่สอด จะมีอำนาจในการบริหารด้านแรงงานต่างด้าว การจัดเก็บค่าธรรมเนียมแรงงานต่างด้าว ภาษีล้อเลื่อน ภาษีการค้าส่งออก และ VAT ค่าธรรมเนียมด่านศุลกากร ฯลฯ เป็นต้น

นายอภิรักษ์ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้การพัฒนาแม่สอด ยังต้องคำนึงถึงกรอบยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง(ACMECS) ภายใต้ปฎิญญาพุกาม ซึ่งได้ระบุถึงการส่งเสริมการเจริญเติบโตตามแนวชายแดนและเชื่อมโยงเมืองคู่แฝด แม่สอด-เมียวดี อันเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและการพัฒนาประเทศทั้ง 2 ฝ่ายด้วย