ASTVผู้จัดการรายวัน-"โรจนะ" คาดว่า ปี 53 จะมีกำไรและรายได้สูงกว่าปีนี้ รับอานิสงส์รับรู้รายได้ยอดขายคอนโดฯในจีน เฟสแรกทั้งหมดประมาณ 1.5-1.6 พันล้านบาท ขณะที่ยอดขายที่ดินตั้งเป้าไว้ที่ 500 ไร่ใกล้เคียงปีนี้
น.ส.อมรา เจริญกิจวัฒนกุล กรรมการบริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) หรือ ROJANA กล่าวว่า ในปี2553 รายได้หลักจะมาจากโครงการคอนโดมิเนียในประเทศจีน โดยจะมีการรับรู้รายได้ส่วนที่เหลือของโครงการแรกที่คิดว่าจะโอนได้หมด ส่วนโครงการที่สองเราเพิ่งเปิดไปเป็นคอนโดฯ 30 ชั้น เพิ่งขายได้ 1-2 เดือน เรามียอดขายไปแล้ว 20% คิดว่าเศรษฐกิจในจีน ยังไปได้ โดยตัวเลขยอดรับรู้รายได้จากคอนโดฯในจีนจะอยู่ที่ 1 พันล้านบาท จากมูลค่าโครงการ 3.3 พันล้านบาท ซึ่งทางบริษัทยังเดินหน้าธุรกิจคอนโดในประเทศจีน โดยได้เพิ่งเปิดขายเฟส 2 บริเวณใกล้เคียงกับเฟสแรก มูลค่าโครงการทั้งหมด 3.6 พันล้านบาท ขณะนี้มียอดขายแล้ว 20% ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 2 ปี
" ในปี 53 บริษัทตั้งเป้ายอดขายที่ดินประมาณ 500 ไร่ใกล้เคียงปีนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าอุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสหกรรมอาหาร ที่มีการขยายกำลังการผลิต "
สำหรับกรณีที่มีการระงับโครงการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด น.ส.อมรา กล่าวว่า ประเด็นนี้จะส่งผลกระทบด้านจิตวิทยากับนักลงทุนใหม่ แต่สำหรับนิคมอุตสาหกรรมของบริษัทส่วนใหญ่ไม่ได้ดำเนินธรกิจด้านอุตสาหกรรมหนัก จึงไม่ค่อยกังวลมากนัก
"เราก็คงไมได้กังวลเท่าไร แต่ก็อยากให้ภาครัฐมีความชัดเจน ก็จะทำให้นักลงทุนรายใหม่ เข้าใจสถานการณ์ ส่วนใหญ่ลูกค้าต่างชาติของเราก็เป็นญี่ปุ่น ลูกค้าก็คุยกันได้ดี โดยบริษัทได้ตั้งบประมาณในการลงทุนปี 53 วงเงิน 200-300 ล้านบาทเพื่อซื้อที่ดินเพิ่มเติม "
น.ส.อมรา เจริญกิจวัฒนกุล กรรมการบริษัท สวนอุตสาหกรรมโรจนะ จำกัด (มหาชน) หรือ ROJANA กล่าวว่า ในปี2553 รายได้หลักจะมาจากโครงการคอนโดมิเนียในประเทศจีน โดยจะมีการรับรู้รายได้ส่วนที่เหลือของโครงการแรกที่คิดว่าจะโอนได้หมด ส่วนโครงการที่สองเราเพิ่งเปิดไปเป็นคอนโดฯ 30 ชั้น เพิ่งขายได้ 1-2 เดือน เรามียอดขายไปแล้ว 20% คิดว่าเศรษฐกิจในจีน ยังไปได้ โดยตัวเลขยอดรับรู้รายได้จากคอนโดฯในจีนจะอยู่ที่ 1 พันล้านบาท จากมูลค่าโครงการ 3.3 พันล้านบาท ซึ่งทางบริษัทยังเดินหน้าธุรกิจคอนโดในประเทศจีน โดยได้เพิ่งเปิดขายเฟส 2 บริเวณใกล้เคียงกับเฟสแรก มูลค่าโครงการทั้งหมด 3.6 พันล้านบาท ขณะนี้มียอดขายแล้ว 20% ใช้ระยะเวลาก่อสร้าง 2 ปี
" ในปี 53 บริษัทตั้งเป้ายอดขายที่ดินประมาณ 500 ไร่ใกล้เคียงปีนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าอุตสาหกรรมชิ้นส่วนรถยนต์ ชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสหกรรมอาหาร ที่มีการขยายกำลังการผลิต "
สำหรับกรณีที่มีการระงับโครงการลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด น.ส.อมรา กล่าวว่า ประเด็นนี้จะส่งผลกระทบด้านจิตวิทยากับนักลงทุนใหม่ แต่สำหรับนิคมอุตสาหกรรมของบริษัทส่วนใหญ่ไม่ได้ดำเนินธรกิจด้านอุตสาหกรรมหนัก จึงไม่ค่อยกังวลมากนัก
"เราก็คงไมได้กังวลเท่าไร แต่ก็อยากให้ภาครัฐมีความชัดเจน ก็จะทำให้นักลงทุนรายใหม่ เข้าใจสถานการณ์ ส่วนใหญ่ลูกค้าต่างชาติของเราก็เป็นญี่ปุ่น ลูกค้าก็คุยกันได้ดี โดยบริษัทได้ตั้งบประมาณในการลงทุนปี 53 วงเงิน 200-300 ล้านบาทเพื่อซื้อที่ดินเพิ่มเติม "