สำหรับเอ็ดเวิร์ด กรีน การตัดสินใจเสี่ยงชีวิตเข้ารับการผ่าตัดเพื่อบริจาคตับหนึ่งส่วนสี่เป็นเรื่องง่ายมาก เพราะผู้รับบริจาคคือเอมิเลีย ลูกสาวที่มีเวลาเหลืออยู่เพียงไม่กี่สัปดาห์ หากไม่ได้รับการเปลี่ยนถ่ายอวัยวะ
เอมิเลียเป็นโรคตับที่เกิดกับเด็กแค่ 1 ใน 10,000 ราย และมีประเภทเลือดผิดปกติกระทั่งศัลยแพทย์ไม่มั่นใจว่าจะสามารถหาผู้บริจาคที่เหมาะสมมาช่วยทันเวลาหรือไม่ หากใช้ขั้นตอนปกติ
ดังนั้น เอ็ดเวิร์ด เกษตรกรวัย 42 ปี จึงถามแพทย์ว่าหากเขาจะเสี่ยงชีวิตตัวเองเพื่อบริจาคตับให้เอมิเลีย ที่ขณะนี้อายุเพียง 17 เดือน จะได้หรือไม่
“ผมไม่ลังเลเลย เธอน่าสงสารมาก เราเจ็บปวดใจที่เห็นลูกนอนทรมานต่อสู้ยื้อยุดชีวิตบนเตียงคนไข้
“อาจจะน่ากลัว แต่การคิดว่าผมจะต้องสูญเสียลูกสาวในอีกไม่กี่เดือนถ้าไม่มีการปลูกถ่าย ทำให้ความกลัวหายไปหมด”
เดือนกันยายนปีที่แล้ว เอมิเลียที่ขณะนั้นอายุแค่ 7 สัปดาห์ ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคท่อน้ำดีตีบตัน ซึ่งมีอันตรายถึงชีวิต เพราะทำให้ท่อน้ำดีถูกทำลายหรือไม่สามารถทำงานได้ น้ำดีจึงไปทำลายตับ
หมอนำตัวเอมิเลียเข้าห้องผ่าตัดทันทีเพื่อปรับเส้นทางน้ำดีที่ไหลผ่านตับ แต่อาการเด็กน้อยยังไม่ดีขึ้น
คริสต์มาสปีที่แล้ว เอมิเลียเข้าคิวรอรับบริจาค เอ็ดเวิร์ดและโรเบอร์ตาที่มีลูกสี่คนและอาศัยอยู่ในเคมบริดจ์เชียร์ อังกฤษ เฝ้ารอด้วยความกระวนกระวาย
การตรวจเอ็ดเวิร์ดเริ่มต้นขึ้นในเดือนมกราคม กลางเดือนถัดมา หมอบอกว่าเขาบริจาคตับให้ลูกสาวได้
การผ่าตัดเกิดขึ้นที่โรงพยาบาลคิงส์ คอลเลจในลอนดอนในเดือนมีนาคม และใช้เวลาทั้งหมด 11 ชั่วโมง แพทย์ตัดตับของเอมิเลียทิ้ง ขณะที่ตับของเอ็ดเวิร์ดต้องผ่านการปรับเปลี่ยนบางอย่างเพื่อให้สามารถใช้เป็นตับใหม่ให้ลูกสาว
“ก่อนเข้าห้องผ่าตัด เอ็ดมาบอกลาเอมิเลียและฉัน เพราะเราต่างรู้ดีว่าถ้าเกิดอะไรผิดพลาด นั่นอาจเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้เห็นเขา” โรเบอร์ตา เภสัชกรวัย 37 ปี แม่ของเอมิเลีย เล่า
แม้การผ่าตัดดังกล่าวอันตรายกว่าการปลูกถ่ายไตถึง 30 เท่า แต่หลังจากนั้นตับจะสามารถสร้างตัวเองขึ้นมาใหม่ภายใน 6 สัปดาห์
“เอ็ดเจ็บมากหลังผ่าตัด เขาและเอมิเลียต้องพักฟื้นอยู่สามเดือน แต่ตอนนี้เธอมีพลังงานเหลือเฟือ ไม่มีใครหยุดเธอได้อีกแล้ว
“เมื่อเธอโตขึ้น เราจะเล่าให้เธอฟังว่าพ่อผู้กล้าหาญช่วยชีวิตเธอไว้อย่างไร”
เอมิเลียเป็นโรคตับที่เกิดกับเด็กแค่ 1 ใน 10,000 ราย และมีประเภทเลือดผิดปกติกระทั่งศัลยแพทย์ไม่มั่นใจว่าจะสามารถหาผู้บริจาคที่เหมาะสมมาช่วยทันเวลาหรือไม่ หากใช้ขั้นตอนปกติ
ดังนั้น เอ็ดเวิร์ด เกษตรกรวัย 42 ปี จึงถามแพทย์ว่าหากเขาจะเสี่ยงชีวิตตัวเองเพื่อบริจาคตับให้เอมิเลีย ที่ขณะนี้อายุเพียง 17 เดือน จะได้หรือไม่
“ผมไม่ลังเลเลย เธอน่าสงสารมาก เราเจ็บปวดใจที่เห็นลูกนอนทรมานต่อสู้ยื้อยุดชีวิตบนเตียงคนไข้
“อาจจะน่ากลัว แต่การคิดว่าผมจะต้องสูญเสียลูกสาวในอีกไม่กี่เดือนถ้าไม่มีการปลูกถ่าย ทำให้ความกลัวหายไปหมด”
เดือนกันยายนปีที่แล้ว เอมิเลียที่ขณะนั้นอายุแค่ 7 สัปดาห์ ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคท่อน้ำดีตีบตัน ซึ่งมีอันตรายถึงชีวิต เพราะทำให้ท่อน้ำดีถูกทำลายหรือไม่สามารถทำงานได้ น้ำดีจึงไปทำลายตับ
หมอนำตัวเอมิเลียเข้าห้องผ่าตัดทันทีเพื่อปรับเส้นทางน้ำดีที่ไหลผ่านตับ แต่อาการเด็กน้อยยังไม่ดีขึ้น
คริสต์มาสปีที่แล้ว เอมิเลียเข้าคิวรอรับบริจาค เอ็ดเวิร์ดและโรเบอร์ตาที่มีลูกสี่คนและอาศัยอยู่ในเคมบริดจ์เชียร์ อังกฤษ เฝ้ารอด้วยความกระวนกระวาย
การตรวจเอ็ดเวิร์ดเริ่มต้นขึ้นในเดือนมกราคม กลางเดือนถัดมา หมอบอกว่าเขาบริจาคตับให้ลูกสาวได้
การผ่าตัดเกิดขึ้นที่โรงพยาบาลคิงส์ คอลเลจในลอนดอนในเดือนมีนาคม และใช้เวลาทั้งหมด 11 ชั่วโมง แพทย์ตัดตับของเอมิเลียทิ้ง ขณะที่ตับของเอ็ดเวิร์ดต้องผ่านการปรับเปลี่ยนบางอย่างเพื่อให้สามารถใช้เป็นตับใหม่ให้ลูกสาว
“ก่อนเข้าห้องผ่าตัด เอ็ดมาบอกลาเอมิเลียและฉัน เพราะเราต่างรู้ดีว่าถ้าเกิดอะไรผิดพลาด นั่นอาจเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้เห็นเขา” โรเบอร์ตา เภสัชกรวัย 37 ปี แม่ของเอมิเลีย เล่า
แม้การผ่าตัดดังกล่าวอันตรายกว่าการปลูกถ่ายไตถึง 30 เท่า แต่หลังจากนั้นตับจะสามารถสร้างตัวเองขึ้นมาใหม่ภายใน 6 สัปดาห์
“เอ็ดเจ็บมากหลังผ่าตัด เขาและเอมิเลียต้องพักฟื้นอยู่สามเดือน แต่ตอนนี้เธอมีพลังงานเหลือเฟือ ไม่มีใครหยุดเธอได้อีกแล้ว
“เมื่อเธอโตขึ้น เราจะเล่าให้เธอฟังว่าพ่อผู้กล้าหาญช่วยชีวิตเธอไว้อย่างไร”
