นายขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานบริษัท สื่อสากล จำกัด และประธานจัดงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 26 หรือมอเตอร์เอ็กซ์โป 2009 เปิดเผยว่า ยอดจองรถยนต์หลังจบงานวันนี้(13 ธ.ค.) คาดว่าจะปิดประมาณ 22,000-23,000 คัน สูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้เดิม 15,000 คัน ขณะเดียวกันเงินสะพัดภายในงานเมื่อรวมยอดขายอุปกรณ์ตกแต่งและอื่นๆ น่าจะทำได้กว่า2.7 หมื่นล้านบาท
“งานปีนี้มีรถยนต์เข้าร่วมกว่า 30 ยี่ห้อ โดยตลอด 13 วัน (1-13 ธ.ค.) ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมาก ซึ่งตัวเลขล่าสุดประเมินว่าน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 1.5-1.6 ล้านคน ส่วนยอดจองรถยนต์ภายในงานก็ดีเกินความคาดหมาย หรือเติบโตกว่า37.5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว”
สำหรับปัจจัยที่ทำให้มียอดจองรถยนต์ภายในงานมากกว่า 22,000 คัน เป็นผลมาจาก สถาบันการเงินเริ่มปล่อยสินเชื่อหลังอั้นมาตั้งแต่ต้นปีถึงกลางปี บวกกับราคาน้ำมันนิ่ง ทั้งยังไร้ปัญหาการเมือง ยิ่งเดือนธันวาคมถือเป็นเดือนแห่งความมงคล ผู้คนมีอารมณ์จับจ่ายใช้สอย และแม้จะมีวิกฤตเศรษฐกิจแต่เชื่อว่าผู้บริโภคยังมีกำลังซื้ออยู่มาก เพียงแต่รอจังหวะเวลาเท่านั้น
นายขวัญชัย กล่าวว่า ผลสำรวจราคารถยนต์เฉลี่ยที่ถูกจองภายในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2009จะอยู่ประมาณ 9.6 แสนบาท สูงกว่าปีก่อนที่เคยสำรวจไว้คือ 8.5 แสนบาท หรือแบ่งตามเซกเมนต์ปรากฎว่า ยอดจองปิกอัพมีสัดส่วนเพียง 17% ขณะที่รถยนต์นั่งมีถึง 45% ซึ่งในจำนวนนี้เป็นส่วนแบ่งของเก๋งเล็กกว่า 60% สอดคล้องกับทิศทางตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมานิยมรถยนต์นั่งขนาดเล็กมากขึ้น
“เมื่อก่อนปิกอัพจะขายดี แต่ช่วงหลังเก๋งเล็กหรือรถเครื่องยนต์ต่ำกว่า 1500 ซีซี ราคาประมาณ 5 แสนบาทมาแรงมาก เห็นได้จากยอดจองภายในงาน ขณะเดียวกันยังสะท้อนถึงสัดส่วนยอดขายระหว่างปิกอัพกับเก๋งในตลาดรถยนต์เมืองไทย ที่จะปรับจาก65/35 เป็น 55/45 ในปีนี้”
อย่างไรก็ตามปรากฎการณ์ในงาานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2009ถือเป็นสัญญาณดี และจะเป็นจุดเริ่มให้ตลาดรถยนต์เมืองไทยปี 2553กลับมาคึกคักอีกครั้ง ที่สำคัญเมื่อวิกฤตเศรษฐกิจโลกเริ่มนิ่ง ย่อมส่งผลให้ยอดส่งออกรถยนต์กลับมาอยู่ในภาวะปกติ ด้านยอดขายในประเทศน่าจะเติบโตอย่างน้อย 5% - 10% เมื่อเทียบกับปีนี้ ส่วนงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2010 ยังจัดที่อิมแพค เมืองธองธานีเหมือนเดิม แต่อาจจะขยายพื้นที่จัดแสดงรถยนต์มากขึ้น
“สเกลงานและกิจกรรมปีหน้ายังจัดยิ่งใหญ่เหมือนเดิม แต่เราเตรียมพิจารณาการเพิ่มพื้นที่จัดแสดงรถยนต์ในชาเลนเจอร์ฮอล์ รวมถึงขยับขยายในส่วนของอุปกรณ์ตกแต่งอีกด้วย ส่วนยอดจองภายในงานนั้น ถือเป็นงานหนักที่จะทำให้ได้เทียบเท่าปีนี้” นายขวัญชัยกล่าว.
“งานปีนี้มีรถยนต์เข้าร่วมกว่า 30 ยี่ห้อ โดยตลอด 13 วัน (1-13 ธ.ค.) ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นจำนวนมาก ซึ่งตัวเลขล่าสุดประเมินว่าน่าจะมีไม่ต่ำกว่า 1.5-1.6 ล้านคน ส่วนยอดจองรถยนต์ภายในงานก็ดีเกินความคาดหมาย หรือเติบโตกว่า37.5% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว”
สำหรับปัจจัยที่ทำให้มียอดจองรถยนต์ภายในงานมากกว่า 22,000 คัน เป็นผลมาจาก สถาบันการเงินเริ่มปล่อยสินเชื่อหลังอั้นมาตั้งแต่ต้นปีถึงกลางปี บวกกับราคาน้ำมันนิ่ง ทั้งยังไร้ปัญหาการเมือง ยิ่งเดือนธันวาคมถือเป็นเดือนแห่งความมงคล ผู้คนมีอารมณ์จับจ่ายใช้สอย และแม้จะมีวิกฤตเศรษฐกิจแต่เชื่อว่าผู้บริโภคยังมีกำลังซื้ออยู่มาก เพียงแต่รอจังหวะเวลาเท่านั้น
นายขวัญชัย กล่าวว่า ผลสำรวจราคารถยนต์เฉลี่ยที่ถูกจองภายในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2009จะอยู่ประมาณ 9.6 แสนบาท สูงกว่าปีก่อนที่เคยสำรวจไว้คือ 8.5 แสนบาท หรือแบ่งตามเซกเมนต์ปรากฎว่า ยอดจองปิกอัพมีสัดส่วนเพียง 17% ขณะที่รถยนต์นั่งมีถึง 45% ซึ่งในจำนวนนี้เป็นส่วนแบ่งของเก๋งเล็กกว่า 60% สอดคล้องกับทิศทางตลาดและพฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมานิยมรถยนต์นั่งขนาดเล็กมากขึ้น
“เมื่อก่อนปิกอัพจะขายดี แต่ช่วงหลังเก๋งเล็กหรือรถเครื่องยนต์ต่ำกว่า 1500 ซีซี ราคาประมาณ 5 แสนบาทมาแรงมาก เห็นได้จากยอดจองภายในงาน ขณะเดียวกันยังสะท้อนถึงสัดส่วนยอดขายระหว่างปิกอัพกับเก๋งในตลาดรถยนต์เมืองไทย ที่จะปรับจาก65/35 เป็น 55/45 ในปีนี้”
อย่างไรก็ตามปรากฎการณ์ในงาานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2009ถือเป็นสัญญาณดี และจะเป็นจุดเริ่มให้ตลาดรถยนต์เมืองไทยปี 2553กลับมาคึกคักอีกครั้ง ที่สำคัญเมื่อวิกฤตเศรษฐกิจโลกเริ่มนิ่ง ย่อมส่งผลให้ยอดส่งออกรถยนต์กลับมาอยู่ในภาวะปกติ ด้านยอดขายในประเทศน่าจะเติบโตอย่างน้อย 5% - 10% เมื่อเทียบกับปีนี้ ส่วนงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2010 ยังจัดที่อิมแพค เมืองธองธานีเหมือนเดิม แต่อาจจะขยายพื้นที่จัดแสดงรถยนต์มากขึ้น
“สเกลงานและกิจกรรมปีหน้ายังจัดยิ่งใหญ่เหมือนเดิม แต่เราเตรียมพิจารณาการเพิ่มพื้นที่จัดแสดงรถยนต์ในชาเลนเจอร์ฮอล์ รวมถึงขยับขยายในส่วนของอุปกรณ์ตกแต่งอีกด้วย ส่วนยอดจองภายในงานนั้น ถือเป็นงานหนักที่จะทำให้ได้เทียบเท่าปีนี้” นายขวัญชัยกล่าว.