ASTVผู้จัดการรายวัน - รัฐบาลตอบรับกระแสเรียกร้อง เปิดโอกาสประชาชนร่วมชื่นชมพระบารมี ขยายเวลาจัดงานเฉลิมพระเกียรติถึงวันที่ 13 ธ.ค. แต่จะงดในวันนี้เพื่อให้ก๊กแดงก่อม็อบป่วน ขณะที่ก๊กแดงยันไม่สำเหนียก ยืนยันชุมนุมแน่ไม่สนเสียงเรียกร้องที่ให้ชะลอออกไปก่อนเพื่อเปิดทางให้ประชาชนร่วมงานเฉลิมพระเกียรติ แถมขู่ถ้าถูกรังแกก่อม็อบยาว
นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ในฐานะประธานการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภายใต้แนวคิด ?ความสุขของคนไทย ใต้แสงพระบารมี? กล่าวว่า นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีการเนรมิตถนนราชดำเนินกลาง ตลอดสายให้เป็นถนนแห่งความสุขของคนไทย ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมเกินคาดจากประชาชนทั้งชาวไทยและต่างชาติที่เดินทางมาร่วมงานนับแสนคนในแต่ละวัน อีกทั้งยังมีประชาชนอีกเป็นจำนวนมากทั้งในเขตกรุงเทพฯ และในต่างจังหวัดที่แสดงความต้องการอยากเดินทางมาร่วมกิจกรรมชื่นชมพระบารมีอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งกระแสเรียกร้องดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงจิตใจเป็นหนึ่งเดียวของพสกนิกร ทุกคนที่ต่างมีความรักความห่วงใยในองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คณะผู้จัดงานจึงต้องการสานต่อปรากฏการณ์ครั้งประวัติศาสตร์นี้ โดยขยายการจัดงานครั้งนี้ไปจนถึงวันที่ 13 ธ.ค.2552 และจะนำกิจกรรมพิเศษทุกอย่างที่ผ่านมา นำมาร้อยเรียงเข้าไว้ด้วยกันเป็นหนึ่งเดียวโดยจัดเป็นการแสดง Panorama Light & Sound ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ในชื่อ "จากใจ สู่ใจ...ความสุขของคนไทยใต้แสงพระบารมี"
ทั้งนี้จะนำขบวนรถประดับไฟเฉลิมพระเกียรติเข้ามาจอดเรียงรายตลอด สองฟากฝั่งถนน และบริเวณเกาะกลางถนน ซึ่งมีพระบรมฉายาลักษณ์อยู่ 7 จุด จะจัดสร้างเวทีการแสดงขนาดเล็กขึ้นทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ร่วมกับการแสดงน้ำพุดนตรีและการแสดงพลุดอกไม้ไฟไพโรเทคนิค ผสานเป็นการแสดงแสง สี เสียงที่ยิ่งใหญ่อลังการที่สุดเท่าที่เคยมีมาตลอดถนนราชดำเนินกลาง
นายกรณ์ กล่าวว่าสำหรับเวทีหลัก 3 แห่ง และตลอดสองฟากฝั่งของถนนทั้งสายยังคงมีกิจกรรมน่าสนใจมากมายจาก หน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นดารานักแสดงรับเชิญชื่อก้องที่สลับเปลี่ยนหมุนเวียนร่วมสร้างสีสัน ตลอดระยะการ จัดงาน นอกจากนี้ยังมีการแสดงแสงสีเสียงแบบเลเซอร์มัลติวิชั่น ที่ยิ่งใหญ่ตระการตา โดย ?ยุ้ย? จีรนันท์ มโนแจ้ม ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ในชื่อชุด ?แสงพระบารมี ผสานไทย สมานฉันท์? การแสดงดนตรีจากศิลปินชื่อดังมากมาย อาทิ คาราบาว นันทิดา แก้วบัวสาย และโปงลางสะออน การแสดงพื้นบ้านจากภูมิภาคต่างๆ นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติของกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ รวมถึงบูทออกร้านจำหน่ายอาหารอร่อยและสินค้าอีกมากมาย
ส่วนของสายรัดข้อมือเฉลิมพระเกียรติชุด ?รักพ่อ? ที่ได้รับความสนใจ เป็นอย่างมาก ทางกระทรวงการคลัง จึงได้มีการจัดทำเพิ่มขึ้นอีก 99,999 เส้น จากที่จัดทำไปแล้ว 99,999 เส้น เพื่อจำหน่ายให้กับประชาชนที่มาร่วมงาน และเปิดโอกาส ให้ประชาชนต่างจังหวัดได้มีโอกาสจับจองเป็นเจ้าของเพื่อเก็บไว้เป็นของที่ระลึกอีกด้วย ในส่วนของชุดธนบัตรเลขเหมือนก็ได้มีการสั่งจัดทำเพิ่มเติมเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของผู้ที่มาร่วมงานเช่นกัน ซึ่งหาซื้อได้ที่บูทกระทรวงการคลัง
นายกรณ์ กล่าวว่า รัฐบาลมีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการขยายการจัดงานครั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ ณ บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า และพระที่นั่งอนันตสมาคม และสามารถรองรับความต้องการของประชาชนชาวไทย ที่มีความประสงค์จะเดินทางมาร่วมกิจกรรมแห่งประวัติศาสตร์และแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
อย่างไรก็ตามจะงดการจัดงานเฉพาะวันที่ 10 ธ.ค. เพื่อเปิดทางให้ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือ กลุ่มเสื้อแดง ได้ชุมนุมกันตามที่นัดหมายไว้ตั้งแต่ 12.00-24.00 น.ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนิน
กลาง
**ก๊กแดงไม่สำนึกยันก่อม็อบแน่
นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำกลุ่มนปช. กล่าวว่า รัฐบาล โดยนายประดิษฐ์? ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง ได้ประสานมายังตน ขอให้กลุ่มคนเสื้อแดงยุติการชุมนุมในวันที่ 10 ธ.ค.ในช่วงเย็น จากเดิมที่กำหนดไว้ เป็นเวลา 24.00 น. โดยให้เหตุผลว่า รัฐบาลจะขยายเวลาจัดงานต่อเนื่องจากวันที่ 5 ธ.ค. ซึ่งตนได้ยืนยันกลับไปว่า จะชุมนุมตามกำหนดการเดิมคือตั้งแต่เวลา 12.00-24.00 น. โดยจะนัดรวมตัวกันที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อรำลึกวันรัฐธรรมนูญ และร่วมสดุดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในฐานะประชาชนชาวไทยเช่นเดียวกัน โดยกลุ่มเสื้อแดงได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปประสานกับตำรวจนครบาลเพื่อจะนำเครื่องขยายเสียงและตั้งเวทีที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในคืนนี้(9 ธ.ค.) เวลา 24 .00 น.
ดังนั้นขอเตือนไปยังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลว่า อย่านำสถาบันมารุกรานคนเสื้อแดงและมาใช้อ้างเพื่อทำให้สังคมมองว่ากลุ่มคนเสื้อแดงไม่สมควรมาชุมนุมในช่วงเวลานี้ แล้วหาเหตุมาขยายเวลาจัดงาน เพราะเนื่องจากวันดังกล่าวเป็นวันรัฐธรรมนูญ อีกทั้งคนเสื้อแดงก็มีสิทธิในฐานะคนไทยที่จะมาร่วมถวายพระพรเช่นกัน
สำหรับกิจกรรมตลอดทั้งวันนั้นจะอยู่บนเวทีเป็นหลักคือ นอกจากการปราศรัยเรื่องรัฐธรรมนูญ การบริหารประเทศของรัฐบาลแล้ว ไฮไลท์จะอยู่ที่เวลา 19.00 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะวีดีโอลิงค์มาบนเวทีการชุมนุมเพื่อนำคนเสื้อแดงจุดเทียนชัยถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา และนำคนเสื้อแดงร้องเพลงสดุดีมหาราชาและเพลงสรรเสริญพระบารมี พร้อมทั้งพูดคุยกับคนไทยในวาระสำคัญด้วย
**"เทือก"ไม่ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ยืนยันว่า รัฐบาล ไม่ประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรเหมือนครั้งก่อน เพราะรัฐบาลต้องการส่งเสริม บรรยากาศในช่วงประชาชนกำลังมีความสุขด้วยการออกมา แสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระองค์ท่าน
ทั้งนี้ คิดว่าคงไม่มีมือที่สามหรือสี่ที่จะสร้างสถานการณ์ให้เหตุการณ์บานปลาย คนไทยต้องเข้าใจถ้าใครไปทำอะไรที่ไม่ดีไม่งามไม่เหมาะสมในช่วงเวลาแบบนี้ สังคมไทยหรือคนไทยทั้งประเทศคงไม่ยินยอม ส่วนจะมีการชุมนุมยืดยาวถึงวันที่ 13 ธ.ค.หรือไม่นั้น ตนมองโลกในแง่ดี ไม่วิตกอะไรเป็นการล่วงหน้า เรามีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยบ้านเมือง พยายาม ทำหน้าที่ของเราและคิดว่าสามารถดูแลบ้านเมืองให้เป็นปกติสุข
**สงสัยจงรักภักดีแต่่ก่อม็อบป่วน
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีต รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ตนไม่เชื่อ คำพูดของ คนเสื้อแดง เพราะที่ผ่านมาพูดอย่างทำอีกอย่าง ซึ่งก็ไม่ต่างจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ทำทุกอย่างให้ตัวเองได้ประโยชน์ โดยจะมาอ้างเรื่องจุดเทียนชัยถวายพระพรเป็นเหตุผลในการชุมนุมนั้นฟังไม่ขึ้น ซึ่งการจุดเทียนถวายพระพรเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษานั้นต้องจุดในวันที่ 5 ธ.ค. ดังนั้น หากบุคคลเหล่านี้จงรักภักดีจริงและไม่ได้คิดอะไรนอกเหนือไปกว่านี้ก็ควรชะลอการชุมนุมออกไปก่อน จนกว่าผ่านช่วงการจัดงานเฉลิมฉลอง 5 ธันวามหาราช แต่แกนนำคนเสื้อแดงกลับผลักดันให้มีการชุมนุมแล้วอ้างเหตุผลแค่ว่าวันที่ 10 ธ.ค. และอยากย้อนถามว่า ที่ผ่านมากลุ่มคนเสื้อแดงเผารัฐธรรมนูญปี 2540 แล้วยังจะมาเผารัฐธรรมนูญ ปี 2550 อีกหรือ
"ปัญหาความวุ่นวายทั้งหลาย เกิดขึ้นมีต้นเหตุมาจาก พ.ต.ท.ทักษิณ คนเดียว หลังจากถูกศาลตัดสินจำคุกจนต้องหนีไปต่างประเทศ ดังนั้น หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีชีวิตอยู่ หรือยังไม่ถูกจับ ปัญหาความวุ่นวายก็ยากที่จะสงบ ฉะนั้น เราในฐานะที่เป็นชาวพุทธ ต้องดำเนินตามหลักสัจธรรม ต้นเหตุปัญหาอยู่ที่ไหนต้องดับที่นั้น ด้วยเหตุนี้จะมามองปัญหาว่าเกิดจากคนเสื้อแดงอย่างเดียวก็ไม่ถูก คนพวกนี้ เป็นเพียงแค่เครืองมืออย่างหนึ่ง ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เท่านั้น
**"แม้ว"หวังให้ผู้ใหญ่เคลียร์ปัญหา
นายเทพไท เสนพงษ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ที่ พ.ต.ท.ทักษิณาบอกว่าศาลไม่เป็นกลาง ไม่อยากให้ศาล ยึดข้างใดข้างหนึ่งรวมไปถึงองค์กรอิสระ พ.ต.ท.ทักษิณก็มีอคติต่อกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด วันที่กระบวนการลงโทษ พ.ต.ท.ทักษิณก็บอกว่า ไม่เป็นกลาง แต่เมื่อได้ประโยชน์ก็ใช้กระบวนการยุติธรรมจัดการกับคนอื่น เป็นคนเอาแต่ได้เห็นแต่ประโยชน์ส่วนตัว เห็นแต่ตัวเองถูกต้อง ความเคลื่อนไหวทั้งหมดของลิ่วล้อสอดคล้องกับสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณพูดว่าถ้ายังไม่เคลียร์ก็ไม่มีทางที่จะสงบได้
”ความหวังสูงสุดคือการได้ผู้ใหญ่ในแผ่นดินมาเคลียร์ปัญหาของ พ.ต.ท.ทักษิณ เหมือนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาแก้ปัญหาพฤษทมิฬ 2535 ซึ่งสอดคล้องกับอดีตสมาชิกพรรคไทยรักไทยและสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ที่เดินทาง ไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณที่ดูไบ และให้สัมภาษณ์ว่า มีความ เคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านประเทศไทย และเพื่อต่อรองกับสถาบันเบื้องสูง เห็นได้จากพฤติกรรมของลิ่วล้อที่ไม่ยอมละเว้นแม้แต่เดือนมหามงคงที่คนไทย ต่างมีความสุข คนเหล่านี้ก็พยายามเคลื่อนไหวขัดขวางความสุข เพื่อให้บรรลเป้าหมายที่ พ.ต.ท.ทักษิณต้องการ”
นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง ในฐานะประธานการจัดงานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภายใต้แนวคิด ?ความสุขของคนไทย ใต้แสงพระบารมี? กล่าวว่า นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่มีการเนรมิตถนนราชดำเนินกลาง ตลอดสายให้เป็นถนนแห่งความสุขของคนไทย ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมเกินคาดจากประชาชนทั้งชาวไทยและต่างชาติที่เดินทางมาร่วมงานนับแสนคนในแต่ละวัน อีกทั้งยังมีประชาชนอีกเป็นจำนวนมากทั้งในเขตกรุงเทพฯ และในต่างจังหวัดที่แสดงความต้องการอยากเดินทางมาร่วมกิจกรรมชื่นชมพระบารมีอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งกระแสเรียกร้องดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงจิตใจเป็นหนึ่งเดียวของพสกนิกร ทุกคนที่ต่างมีความรักความห่วงใยในองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คณะผู้จัดงานจึงต้องการสานต่อปรากฏการณ์ครั้งประวัติศาสตร์นี้ โดยขยายการจัดงานครั้งนี้ไปจนถึงวันที่ 13 ธ.ค.2552 และจะนำกิจกรรมพิเศษทุกอย่างที่ผ่านมา นำมาร้อยเรียงเข้าไว้ด้วยกันเป็นหนึ่งเดียวโดยจัดเป็นการแสดง Panorama Light & Sound ที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม ในชื่อ "จากใจ สู่ใจ...ความสุขของคนไทยใต้แสงพระบารมี"
ทั้งนี้จะนำขบวนรถประดับไฟเฉลิมพระเกียรติเข้ามาจอดเรียงรายตลอด สองฟากฝั่งถนน และบริเวณเกาะกลางถนน ซึ่งมีพระบรมฉายาลักษณ์อยู่ 7 จุด จะจัดสร้างเวทีการแสดงขนาดเล็กขึ้นทั้งด้านหน้าและด้านหลัง ร่วมกับการแสดงน้ำพุดนตรีและการแสดงพลุดอกไม้ไฟไพโรเทคนิค ผสานเป็นการแสดงแสง สี เสียงที่ยิ่งใหญ่อลังการที่สุดเท่าที่เคยมีมาตลอดถนนราชดำเนินกลาง
นายกรณ์ กล่าวว่าสำหรับเวทีหลัก 3 แห่ง และตลอดสองฟากฝั่งของถนนทั้งสายยังคงมีกิจกรรมน่าสนใจมากมายจาก หน่วยงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นดารานักแสดงรับเชิญชื่อก้องที่สลับเปลี่ยนหมุนเวียนร่วมสร้างสีสัน ตลอดระยะการ จัดงาน นอกจากนี้ยังมีการแสดงแสงสีเสียงแบบเลเซอร์มัลติวิชั่น ที่ยิ่งใหญ่ตระการตา โดย ?ยุ้ย? จีรนันท์ มโนแจ้ม ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ในชื่อชุด ?แสงพระบารมี ผสานไทย สมานฉันท์? การแสดงดนตรีจากศิลปินชื่อดังมากมาย อาทิ คาราบาว นันทิดา แก้วบัวสาย และโปงลางสะออน การแสดงพื้นบ้านจากภูมิภาคต่างๆ นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติของกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ รวมถึงบูทออกร้านจำหน่ายอาหารอร่อยและสินค้าอีกมากมาย
ส่วนของสายรัดข้อมือเฉลิมพระเกียรติชุด ?รักพ่อ? ที่ได้รับความสนใจ เป็นอย่างมาก ทางกระทรวงการคลัง จึงได้มีการจัดทำเพิ่มขึ้นอีก 99,999 เส้น จากที่จัดทำไปแล้ว 99,999 เส้น เพื่อจำหน่ายให้กับประชาชนที่มาร่วมงาน และเปิดโอกาส ให้ประชาชนต่างจังหวัดได้มีโอกาสจับจองเป็นเจ้าของเพื่อเก็บไว้เป็นของที่ระลึกอีกด้วย ในส่วนของชุดธนบัตรเลขเหมือนก็ได้มีการสั่งจัดทำเพิ่มเติมเพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของผู้ที่มาร่วมงานเช่นกัน ซึ่งหาซื้อได้ที่บูทกระทรวงการคลัง
นายกรณ์ กล่าวว่า รัฐบาลมีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการขยายการจัดงานครั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ ณ บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า และพระที่นั่งอนันตสมาคม และสามารถรองรับความต้องการของประชาชนชาวไทย ที่มีความประสงค์จะเดินทางมาร่วมกิจกรรมแห่งประวัติศาสตร์และแสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
อย่างไรก็ตามจะงดการจัดงานเฉพาะวันที่ 10 ธ.ค. เพื่อเปิดทางให้ กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) หรือ กลุ่มเสื้อแดง ได้ชุมนุมกันตามที่นัดหมายไว้ตั้งแต่ 12.00-24.00 น.ที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนิน
กลาง
**ก๊กแดงไม่สำนึกยันก่อม็อบแน่
นายจตุพร พรหมพันธ์ ส.ส.สัดส่วน พรรคเพื่อไทย ในฐานะแกนนำกลุ่มนปช. กล่าวว่า รัฐบาล โดยนายประดิษฐ์? ภัทรประสิทธิ์ รมช.คลัง ได้ประสานมายังตน ขอให้กลุ่มคนเสื้อแดงยุติการชุมนุมในวันที่ 10 ธ.ค.ในช่วงเย็น จากเดิมที่กำหนดไว้ เป็นเวลา 24.00 น. โดยให้เหตุผลว่า รัฐบาลจะขยายเวลาจัดงานต่อเนื่องจากวันที่ 5 ธ.ค. ซึ่งตนได้ยืนยันกลับไปว่า จะชุมนุมตามกำหนดการเดิมคือตั้งแต่เวลา 12.00-24.00 น. โดยจะนัดรวมตัวกันที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อรำลึกวันรัฐธรรมนูญ และร่วมสดุดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในฐานะประชาชนชาวไทยเช่นเดียวกัน โดยกลุ่มเสื้อแดงได้ส่งเจ้าหน้าที่ไปประสานกับตำรวจนครบาลเพื่อจะนำเครื่องขยายเสียงและตั้งเวทีที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยในคืนนี้(9 ธ.ค.) เวลา 24 .00 น.
ดังนั้นขอเตือนไปยังนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลว่า อย่านำสถาบันมารุกรานคนเสื้อแดงและมาใช้อ้างเพื่อทำให้สังคมมองว่ากลุ่มคนเสื้อแดงไม่สมควรมาชุมนุมในช่วงเวลานี้ แล้วหาเหตุมาขยายเวลาจัดงาน เพราะเนื่องจากวันดังกล่าวเป็นวันรัฐธรรมนูญ อีกทั้งคนเสื้อแดงก็มีสิทธิในฐานะคนไทยที่จะมาร่วมถวายพระพรเช่นกัน
สำหรับกิจกรรมตลอดทั้งวันนั้นจะอยู่บนเวทีเป็นหลักคือ นอกจากการปราศรัยเรื่องรัฐธรรมนูญ การบริหารประเทศของรัฐบาลแล้ว ไฮไลท์จะอยู่ที่เวลา 19.00 น. พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร จะวีดีโอลิงค์มาบนเวทีการชุมนุมเพื่อนำคนเสื้อแดงจุดเทียนชัยถวายพระพรพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเนื่องในวโรกาสเฉลิมพระชนมพรรษา 82 พรรษา และนำคนเสื้อแดงร้องเพลงสดุดีมหาราชาและเพลงสรรเสริญพระบารมี พร้อมทั้งพูดคุยกับคนไทยในวาระสำคัญด้วย
**"เทือก"ไม่ประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง ยืนยันว่า รัฐบาล ไม่ประกาศใช้ พ.ร.บ.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรเหมือนครั้งก่อน เพราะรัฐบาลต้องการส่งเสริม บรรยากาศในช่วงประชาชนกำลังมีความสุขด้วยการออกมา แสดงความจงรักภักดีต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในวันเฉลิมพระชนมพรรษาของพระองค์ท่าน
ทั้งนี้ คิดว่าคงไม่มีมือที่สามหรือสี่ที่จะสร้างสถานการณ์ให้เหตุการณ์บานปลาย คนไทยต้องเข้าใจถ้าใครไปทำอะไรที่ไม่ดีไม่งามไม่เหมาะสมในช่วงเวลาแบบนี้ สังคมไทยหรือคนไทยทั้งประเทศคงไม่ยินยอม ส่วนจะมีการชุมนุมยืดยาวถึงวันที่ 13 ธ.ค.หรือไม่นั้น ตนมองโลกในแง่ดี ไม่วิตกอะไรเป็นการล่วงหน้า เรามีหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยบ้านเมือง พยายาม ทำหน้าที่ของเราและคิดว่าสามารถดูแลบ้านเมืองให้เป็นปกติสุข
**สงสัยจงรักภักดีแต่่ก่อม็อบป่วน
น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ อดีต รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ตนไม่เชื่อ คำพูดของ คนเสื้อแดง เพราะที่ผ่านมาพูดอย่างทำอีกอย่าง ซึ่งก็ไม่ต่างจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ทำทุกอย่างให้ตัวเองได้ประโยชน์ โดยจะมาอ้างเรื่องจุดเทียนชัยถวายพระพรเป็นเหตุผลในการชุมนุมนั้นฟังไม่ขึ้น ซึ่งการจุดเทียนถวายพระพรเนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษานั้นต้องจุดในวันที่ 5 ธ.ค. ดังนั้น หากบุคคลเหล่านี้จงรักภักดีจริงและไม่ได้คิดอะไรนอกเหนือไปกว่านี้ก็ควรชะลอการชุมนุมออกไปก่อน จนกว่าผ่านช่วงการจัดงานเฉลิมฉลอง 5 ธันวามหาราช แต่แกนนำคนเสื้อแดงกลับผลักดันให้มีการชุมนุมแล้วอ้างเหตุผลแค่ว่าวันที่ 10 ธ.ค. และอยากย้อนถามว่า ที่ผ่านมากลุ่มคนเสื้อแดงเผารัฐธรรมนูญปี 2540 แล้วยังจะมาเผารัฐธรรมนูญ ปี 2550 อีกหรือ
"ปัญหาความวุ่นวายทั้งหลาย เกิดขึ้นมีต้นเหตุมาจาก พ.ต.ท.ทักษิณ คนเดียว หลังจากถูกศาลตัดสินจำคุกจนต้องหนีไปต่างประเทศ ดังนั้น หาก พ.ต.ท.ทักษิณ ยังมีชีวิตอยู่ หรือยังไม่ถูกจับ ปัญหาความวุ่นวายก็ยากที่จะสงบ ฉะนั้น เราในฐานะที่เป็นชาวพุทธ ต้องดำเนินตามหลักสัจธรรม ต้นเหตุปัญหาอยู่ที่ไหนต้องดับที่นั้น ด้วยเหตุนี้จะมามองปัญหาว่าเกิดจากคนเสื้อแดงอย่างเดียวก็ไม่ถูก คนพวกนี้ เป็นเพียงแค่เครืองมืออย่างหนึ่ง ของ พ.ต.ท.ทักษิณ เท่านั้น
**"แม้ว"หวังให้ผู้ใหญ่เคลียร์ปัญหา
นายเทพไท เสนพงษ์ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า ที่ พ.ต.ท.ทักษิณาบอกว่าศาลไม่เป็นกลาง ไม่อยากให้ศาล ยึดข้างใดข้างหนึ่งรวมไปถึงองค์กรอิสระ พ.ต.ท.ทักษิณก็มีอคติต่อกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด วันที่กระบวนการลงโทษ พ.ต.ท.ทักษิณก็บอกว่า ไม่เป็นกลาง แต่เมื่อได้ประโยชน์ก็ใช้กระบวนการยุติธรรมจัดการกับคนอื่น เป็นคนเอาแต่ได้เห็นแต่ประโยชน์ส่วนตัว เห็นแต่ตัวเองถูกต้อง ความเคลื่อนไหวทั้งหมดของลิ่วล้อสอดคล้องกับสิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณพูดว่าถ้ายังไม่เคลียร์ก็ไม่มีทางที่จะสงบได้
”ความหวังสูงสุดคือการได้ผู้ใหญ่ในแผ่นดินมาเคลียร์ปัญหาของ พ.ต.ท.ทักษิณ เหมือนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาแก้ปัญหาพฤษทมิฬ 2535 ซึ่งสอดคล้องกับอดีตสมาชิกพรรคไทยรักไทยและสมาชิกบ้านเลขที่ 111 ที่เดินทาง ไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณที่ดูไบ และให้สัมภาษณ์ว่า มีความ เคลื่อนไหวเพื่อต่อต้านประเทศไทย และเพื่อต่อรองกับสถาบันเบื้องสูง เห็นได้จากพฤติกรรมของลิ่วล้อที่ไม่ยอมละเว้นแม้แต่เดือนมหามงคงที่คนไทย ต่างมีความสุข คนเหล่านี้ก็พยายามเคลื่อนไหวขัดขวางความสุข เพื่อให้บรรลเป้าหมายที่ พ.ต.ท.ทักษิณต้องการ”
