ASTVผู้จัดการรายวัน - จับโรคจิตแอบถ่ายบั้นท้าย“นุสบา ปุณณกันต์”กลางห้างสยามพารากอน ผู้ต้องหาสารภาพชอบดาราสาวเป็นการส่วนตัว เห็นเดินในห้างเลยกดถ่ายไว้ดูเอง ไม่คิดเผยแพร่ผ่านเน็ต ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ ตรวจกล้องเจอแอบถ่ายภาพหวิวสาวตรึม
วานนี้ (8 ธ.ค.) เวลา 12.30 น. นางนุสบา ปุณณกันต์ อายุ 36 ปี ดารานางเอกชื่อดัง พร้อมด้วย นายกงจักร เมผาสุข อายุ 24 ปี และนายวินัย ภู่พันธ์รัตน์ อายุ 28 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนอกเครื่องแบบของห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ได้ทำการควบคุมตัวนายปรีดา โคตรพันธ์กุล อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30/336-337 หมู่ 4 ต.ปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมของกลางกล้องถ่ายภาพเคลื่อนไหวขนาดเล็ก ลักษณะคล้ายรีโมตรถยนต์ ความจุขนาด 2 GB มาส่งให้ พ.ต.ท.(หญิง)อมร นาคประสิทธิ์ พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.ปทุมวัน ดำเนินคดี
นางนุสบา ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ไปเดินหาซื้อสินค้าที่แผนกซูเปอร์มาร์เกต ชั้น 1 ของห้างสยามพารากอน จากนั้นรู้สึกว่าทางด้านหลังของตนมีเสียงเหมือนคนทะเลาะกัน เลยรู้สึกตกใจ และพยายามวิ่งหนี เพราะเกรงว่าจะถูกลูกหลง พอพ้นออกมาจากบริเวณนั้น ตนก็ไม่ได้สนใจอะไร จนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนอกเครื่องแบบของห้างสยามพารากอนเข้ามาบอกให้ตนรู้ตัวว่าถูกนายปรีดา ใช้กล้องขนาดจิ๋วแอบถ่ายบั้นท้ายของตนไว้ และทาง รปภ.นอกเครื่องแบบสามารถจับกุมนายปรีดา เอาไว้ได้ พร้อมกล้องของกลาง ตนจึงนำกล้องมาตรวจสอบพบว่าเป็นภาพตนถูกแอบถ่ายจริงๆ
นางนุสบา กล่าวต่อไปว่า ตนไม่ค่อยอยากมาแจ้งความ เพราะไม่ติดใจเอาความเนื่องจากตนก็แต่งตัวมิดชิดนุ่งกางเกงยีนส์ขายาว และไม่คิดว่าจะมาถูกแอบถ่ายในลักษณะนี้ แต่ช่วงที่ตรวจสอบกล้องแล้วพบว่ายังมีภาพหญิงสาวอีกหลายรายที่ถูกแอบถ่ายใต้กระโปรงไว้ และทางเจ้าหน้าที่ของห้างฯ แนะนำให้ตนควรแจ้งความดำเนินคดีเพราะตนสามารถเป็นเจ้าทุกข์ได้เพียงผู้เดียว เพราะภาพหญิงสาวรายอื่นไม่ทราบว่าเป็นใคร หากปล่อยตัวไปอาจมีผู้หญิงตกเป็นเหยื่ออีก
ด้าน นายปรีดา ให้การรับสารภาพว่า ตนใช้กล้องแอบถ่ายนางนุสบา ไว้จริง เพราะชื่นชอบเป็นการส่วนตัว โดยช่วงจังหวะเดินอยู่ในห้างเห็นดาราสาวคนดังกำลังเดินอยู่จึงหยิบกล้องจิ๋วที่ซื้อมาจากประเทศญี่ปุ่นออกมากดถ่ายไว้ดูเองแค่นั้น โดยตนยืนยันว่าไม่คิดจะนำภาพที่ถ่ายไปโพสในอินเทอร์เน็ต
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของนายปรีดา เนื่องจากการตรวจสอบภายในกล้องยังพบภาพถ่ายใต้กระโปรงของหญิงสาวรายอื่นอีกจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่า เจ้าตัวน่าจะตั้งใจนำกล้องมาเดินตระเวนหาเหยื่อเพื่อแอบถ่ายใต้กระโปรงหญิงสาวโดยตรง จึงดำเนินคดีในข้อหาก่อความเดือดร้อนรำคาญ พร้อมปรับเงินจำนวน 500 บาท ก่อนปล่อยตัวไป.
วานนี้ (8 ธ.ค.) เวลา 12.30 น. นางนุสบา ปุณณกันต์ อายุ 36 ปี ดารานางเอกชื่อดัง พร้อมด้วย นายกงจักร เมผาสุข อายุ 24 ปี และนายวินัย ภู่พันธ์รัตน์ อายุ 28 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนอกเครื่องแบบของห้างสรรพสินค้าสยามพารากอน ได้ทำการควบคุมตัวนายปรีดา โคตรพันธ์กุล อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 30/336-337 หมู่ 4 ต.ปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมของกลางกล้องถ่ายภาพเคลื่อนไหวขนาดเล็ก ลักษณะคล้ายรีโมตรถยนต์ ความจุขนาด 2 GB มาส่งให้ พ.ต.ท.(หญิง)อมร นาคประสิทธิ์ พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.ปทุมวัน ดำเนินคดี
นางนุสบา ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนได้ไปเดินหาซื้อสินค้าที่แผนกซูเปอร์มาร์เกต ชั้น 1 ของห้างสยามพารากอน จากนั้นรู้สึกว่าทางด้านหลังของตนมีเสียงเหมือนคนทะเลาะกัน เลยรู้สึกตกใจ และพยายามวิ่งหนี เพราะเกรงว่าจะถูกลูกหลง พอพ้นออกมาจากบริเวณนั้น ตนก็ไม่ได้สนใจอะไร จนกระทั่งมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนอกเครื่องแบบของห้างสยามพารากอนเข้ามาบอกให้ตนรู้ตัวว่าถูกนายปรีดา ใช้กล้องขนาดจิ๋วแอบถ่ายบั้นท้ายของตนไว้ และทาง รปภ.นอกเครื่องแบบสามารถจับกุมนายปรีดา เอาไว้ได้ พร้อมกล้องของกลาง ตนจึงนำกล้องมาตรวจสอบพบว่าเป็นภาพตนถูกแอบถ่ายจริงๆ
นางนุสบา กล่าวต่อไปว่า ตนไม่ค่อยอยากมาแจ้งความ เพราะไม่ติดใจเอาความเนื่องจากตนก็แต่งตัวมิดชิดนุ่งกางเกงยีนส์ขายาว และไม่คิดว่าจะมาถูกแอบถ่ายในลักษณะนี้ แต่ช่วงที่ตรวจสอบกล้องแล้วพบว่ายังมีภาพหญิงสาวอีกหลายรายที่ถูกแอบถ่ายใต้กระโปรงไว้ และทางเจ้าหน้าที่ของห้างฯ แนะนำให้ตนควรแจ้งความดำเนินคดีเพราะตนสามารถเป็นเจ้าทุกข์ได้เพียงผู้เดียว เพราะภาพหญิงสาวรายอื่นไม่ทราบว่าเป็นใคร หากปล่อยตัวไปอาจมีผู้หญิงตกเป็นเหยื่ออีก
ด้าน นายปรีดา ให้การรับสารภาพว่า ตนใช้กล้องแอบถ่ายนางนุสบา ไว้จริง เพราะชื่นชอบเป็นการส่วนตัว โดยช่วงจังหวะเดินอยู่ในห้างเห็นดาราสาวคนดังกำลังเดินอยู่จึงหยิบกล้องจิ๋วที่ซื้อมาจากประเทศญี่ปุ่นออกมากดถ่ายไว้ดูเองแค่นั้น โดยตนยืนยันว่าไม่คิดจะนำภาพที่ถ่ายไปโพสในอินเทอร์เน็ต
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อในคำให้การของนายปรีดา เนื่องจากการตรวจสอบภายในกล้องยังพบภาพถ่ายใต้กระโปรงของหญิงสาวรายอื่นอีกจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่า เจ้าตัวน่าจะตั้งใจนำกล้องมาเดินตระเวนหาเหยื่อเพื่อแอบถ่ายใต้กระโปรงหญิงสาวโดยตรง จึงดำเนินคดีในข้อหาก่อความเดือดร้อนรำคาญ พร้อมปรับเงินจำนวน 500 บาท ก่อนปล่อยตัวไป.