ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ตลาดรถยนต์ในภูเก็ตซบตามภาวะเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวที่ชะลอตัว ฮอนด้ายอดขายลดลงถึง 20% ขณะที่มาสด้ายอดขายต่ำกว่าเป้าหมายเช่นกันเชื่อหลังออกมาสด้า 2 ยอดขายจะดีขึ้น
นายมนตรี หงษ์หยก กรรมการผู้จัดการ บริษัท อนุภาษวิวิธการ จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ฮอนด้าในภูเก็ตและพังงา เปิดเผยถึงตลาดรถยนต์ฮอนด้าในภูเก็ตและพังงา ว่า จากวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นทั่วโลกและประเทศไทย รวมถึงภูเก็ตได้รับผลกระทบจากวิกฤตเศรษฐกิจดังกล่าว ทำให้ส่งผลกระทบต่อยอดขายรถยนต์ฮอนด้า ทั้งในภูเก็ตและพังงา เนื่องจากเศรษฐกิจหลักของภูเก็ตอยู่ที่การท่องเที่ยว เมื่อการท่องเที่ยวซบเซาจากวิกฤตเศรษฐกิจโลกทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าภูเก็ตลดลง ส่งผลให้ยอดขายรถยนต์ลดลงตามไปด้วยไม่เฉพาะในส่วนของฮอนด้าเท่านั้น รถยนต์ค่ายอื่นๆก็ได้รับผลกระทบด้วย
สำหรับยอดขายรถยนต์ฮอนด้า ตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมาจนถึงขณะนี้ยอดขายลดลงประมาณ 20% ซึ่งในช่วงปลายปีและต้นปีนี้ก็เป็นห่วงในเรื่องของยอดขายอยู่เหมือนกัน เนื่องจากรถรุ่นใหม่ที่ฮอนด้าจะออกมานั้นแม้จะเป็นรถเล็กแต่ราคาสูงพอประมาณ รวมทั้งจะมีการปรับราคาในส่วนซีอาร์วีที่จะมีการเปลี่ยนรูปแบบในบางส่วน แต่บริษัทก็พยายามที่จะทำยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ด้วยการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ในงานมอเตอร์โชว์ ที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต เมื่อวันที่ 19-25 พฤศจิกายน ซึ่งได้รับการตอบรับดีมียอดจองถึง 90 คัน โดยเฉพาะรถเล็กอย่างแจ๊ซ และซิตี้ รวมถึงซีวิค
นายมนตรี เผยต่อว่า ตั้งแต่ต้นปีเป็นต้นมาฮอนด้าสามารถขายได้แล้วในภูเก็ตและพังงาประมาณ 1,800 กว่าคัน เกินกว่าเป้าหมายที่บริษัทฮอนด้า (ประเทศไทย) กำหนดไว้แล้ว แต่ยังไม่ถึงเป้าหมายที่บริษัทวางไว้คือ 2,400 คันต่อปี ซึ่งส่วนนี้ก็จะต้องมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่อไป และคิดว่าเมื่อการท่องเที่ยวของภูเก็ตดีขึ้น ตลาดรถยนต์ในภูเก็ตก็จะกลับมาคึกคักเหมือนช่วงที่การท่องเที่ยวดีๆอีกครั้งหนึ่ง
ส่วนโชว์รูมในตัวเมืองภูเก็ต คาดว่าประมาณปลายเดือนมีนาคม 2553 จะสามารถเปิดให้บริการทั้งโชว์รุมและศูนย์ซ่อม โดยได้ใช้เงินลงทุนไปทั้งสิ้น 50 ล้านบาท ส่วนโชว์รูมปัจจุบันที่ถนนเจ้าฟ้านั้นสามารถรองรับรถซ่อมได้วันละ 150 คันต่อวัน
นายธนาภูมิ หงษ์หยก รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทอนุภาษธุรกิจและการค้าภูเก็ต จำกัด ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์มาสด้าใน จ.ภูเก็ต กล่าวถึงภาพรวมของตลาดรถยนต์มาสด้า ว่า ตลอดปีที่ผ่านมาในส่วนของรถยนต์กระบะค่อนข้างเงียบเหงา แต่ในส่วนของรถยนต์เก๋งยังพอไปได้อยู่โดยเฉพาะมาสด้า 3 ซึ่งช่วยพยุงตลาดไว้ได้ระดับหนึ่ง แต่เชื่อว่าในปี 2553 ทุกอย่างจะดีขึ้น เห็นได้จากภาวะเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ รวมถึงของภูเก็ตเองด้วยขณะนี้นักท่องเที่ยวได้เดินทางเข้ามาเพิ่มมากขึ้น
ในปีนี้ได้ตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 250 คัน แต่พบว่ายอดขายน่าจะต่ำจากเป้าหมายเล็กน้อย โดยเฉพาะในช่วงต้นปีซึ่งตลาดค่อนข้างเงียบมาก เพราะตลาดหลักของมาสด้าจะเป็นรถยนต์กระบะซึ่งตลาดหดตัว เนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจของประเทศ อย่างไรก็ตาม ตลาดรถยนต์เก๋งมีสัดส่วนที่เพิ่มสูงขึ้นอยู่ที่ประมาณ 60% ขณะที่รถยนต์กระบะเหลือ 40% ซึ่งไม่ใช่เฉพาะตลาดภูเก็ตเท่านั้นแต่เป็นภาพรวมของประเทศด้วย
นายธนาภูมิ กล่าวด้วยว่า จากการที่มาสด้าได้เปิดตัวมาสด้า 2 ซึ่งเป็นรถสปอร์ต เชื่อว่าจะทำให้ตลาดรวมของมาสด้าดีขึ้น และในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี คาดว่าจะมียอดการขายไม่ต่ำกว่า 70 คัน เพราะจากการจัดงานเปิดตัวพบว่าได้รับความสนใจค่อนข้างมาก มียอดจองแล้วประมาณ 36 คัน เนื่องจากเป็นรถสปอร์ตที่เหมาะกับการใช้งานในเมือง มีสมรรถนะการทรงตัวที่ดี ส่งผลให้ได้รับรถยนต์ยอดเยี่ยมของโลกในปี 2008 ประเด็นสำคัญมีราคาไม่สูงจนเกินไปนัก นอกจากนี้ในช่วงต้นปีหน้าก็จะมีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ ออกมาอีก ทั้งในส่วนของมาสด้า 2 และมาสด้า 3 ซึ่งจะเป็นการมาเสริมตลาดรถยนต์เก๋งของมาสด้าให้มีความเข้มแข็งมากขึ้น
สำหรับตลาดรถยนต์ของภูเก็ตเชื่อว่าในปีหน้าจะดีขึ้น ขณะนี้มีสัญญาณของเศรษฐกิจที่เริ่มดีขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของการท่องเที่ยว ส่งผลให้การแข่งขันค่อนข้างที่จะรุนแรงมากขึ้นเช่นกันโดยเฉพาะตลาดรถเล็ก เนื่องจากจะมีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่ๆ ออกสู่ตลาดกันมากขึ้น มีการใช้กลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อสร้างแรงดึงดูด รวมไปถึงการบริการหลังการขาย ดังนั้นจากนี้ตลาดจึงเป็นของลูกค้า เพราะมีสินค้าให้เลือกอย่างหลากหลาย