นางสุวรรณี คำมั่น รองเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) แถลงภาวะสังคมไตรมาส 3 (ก.ค.-ก.ย.) ปี 2552 วานนี้ (4 ธ.ค.) ว่า การจ้างงานเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปี 2551 ร้อยละ 1.4 ผู้ขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานลดลง อัตราการว่างงานอยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 1.2 การบรรจุกลับเข้าทำงานมีมากขึ้นประมาณร้อยละ 72 สะท้อนว่าคุณภาพชีวิตของประชาชนมีแนวโน้มดีขึ้น
ขณะที่ หนี้สินภาคครัวเรือนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยมีครัวเรือนร้อยละ 61.8 มีหนี้สิน ซึ่งมีมูลค่าหนี้เฉลี่ยตัวครัวเรือน 215,684 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.5 และประเด็นที่ต้องระวังคือหนี้นอกระบบโดยเฉพาะเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวเต็มที่และภาวะการเงินตึงตัวมากขึ้น ทำให้ประชาชนบางกลุ่มหันไปพึ่งเงินด่วนและแหล่งเงินกู้นอกระบบ โดยพบรูปแบบการกู้เงินใหม่โดยเฉพาะวัยรุ่นใช้มือถือหรือรายได้กองทุนเงิน ให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ( กยศ.) เป็นหลักประกันในการกู้ ส่วนใหญ่นำไปใช้ซื้อของฟุ่มเฟือย เที่ยวกลางคืนและใช้หนี้พนันบอล
นางสุวรรณี กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์หนี้นอกระบบของรัฐบาล หากการขยายโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุน บางครั้งไม่เกิดประสิทธิผลเท่าที่ควร หรือก่อให้เกิดผลลบ ถ้าไม่สามารถกำกับหรือติดตามผลการใช้เงินกู้ผิดวัตถุประสงค์ หรือแม้จะโอนหนี้เข้าสู่ระบบแต่จะกลับไปกู้นอกระบบอีก
นางสุวรรณี กล่าวว่า ผลสำรวจพบแนวโน้มใหม่ด้านการประกอบอาชีพ มีการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างคือ ประกอบอาชีพอิสระมากขึ้น ทั้งภาคการค้าและบริการ เป็นรูปแบบการทำงานกับเทคโนโลยี ยืดหยุ่นและอิสระในการทำงาน ซึ่งจะมีผลกระทบด้านความมั่นคงของการงานและประกันสังคมไม่ครอบคลุม
ส่วนปัญหาสุขภาพต้องเฝ้าระวังการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหญ่ 2009 และโรคติดต่ออุบัติใหม่ ในส่วนการสูบบุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีทิศทางลดลง แต่มีการใช้บุหรี่มวนเองมากขึ้นจาก 5 ล้านคนในปี 2550 เป็น 6.5 ล้านคน ในปี 2552
ขณะที่ หนี้สินภาคครัวเรือนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยมีครัวเรือนร้อยละ 61.8 มีหนี้สิน ซึ่งมีมูลค่าหนี้เฉลี่ยตัวครัวเรือน 215,684 บาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8.5 และประเด็นที่ต้องระวังคือหนี้นอกระบบโดยเฉพาะเมื่อเศรษฐกิจฟื้นตัวเต็มที่และภาวะการเงินตึงตัวมากขึ้น ทำให้ประชาชนบางกลุ่มหันไปพึ่งเงินด่วนและแหล่งเงินกู้นอกระบบ โดยพบรูปแบบการกู้เงินใหม่โดยเฉพาะวัยรุ่นใช้มือถือหรือรายได้กองทุนเงิน ให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ( กยศ.) เป็นหลักประกันในการกู้ ส่วนใหญ่นำไปใช้ซื้อของฟุ่มเฟือย เที่ยวกลางคืนและใช้หนี้พนันบอล
นางสุวรรณี กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์หนี้นอกระบบของรัฐบาล หากการขยายโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุน บางครั้งไม่เกิดประสิทธิผลเท่าที่ควร หรือก่อให้เกิดผลลบ ถ้าไม่สามารถกำกับหรือติดตามผลการใช้เงินกู้ผิดวัตถุประสงค์ หรือแม้จะโอนหนี้เข้าสู่ระบบแต่จะกลับไปกู้นอกระบบอีก
นางสุวรรณี กล่าวว่า ผลสำรวจพบแนวโน้มใหม่ด้านการประกอบอาชีพ มีการเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างคือ ประกอบอาชีพอิสระมากขึ้น ทั้งภาคการค้าและบริการ เป็นรูปแบบการทำงานกับเทคโนโลยี ยืดหยุ่นและอิสระในการทำงาน ซึ่งจะมีผลกระทบด้านความมั่นคงของการงานและประกันสังคมไม่ครอบคลุม
ส่วนปัญหาสุขภาพต้องเฝ้าระวังการระบาดของไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหญ่ 2009 และโรคติดต่ออุบัติใหม่ ในส่วนการสูบบุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีทิศทางลดลง แต่มีการใช้บุหรี่มวนเองมากขึ้นจาก 5 ล้านคนในปี 2550 เป็น 6.5 ล้านคน ในปี 2552
