ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ ก.เกษตรฯ – ก.ท่องเที่ยวฯเตรียมจัดงาน “ราชพฤกษ์ รวมใจภักดิ์ รักพ่อหลวง” เปิดสวนเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 ให้นักท่องเที่ยวชมฟรีระหว่างวันที่ 30 พ.ย.- 10 ธ.ค.52 โชว์ไฮไลต์สวนนานาชาติ 12 ประเทศ ลองไฟก่อนเป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมพืชสวนโลกอีกครั้งในปี 2554
ที่สวนเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 จังหวัดเชียงใหม่ นายธีระวงศ์สมุทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นายชุมพล ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วยนายอมรพันธุ์ นิมานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันแถลงข่าวการจัดงาน “ราชพฤกษ์ รวมใจภักดิ์ รักพ่อหลวง” ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 30 พฤศจิกายน- 10 ธันวาคม52 โดยความร่วมมือของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และจังหวัดเชียงใหม่ ณ สวนเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549
นายธีระ วงศ์สมุทร รมว.เกษตรฯ กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้ เพื่อแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และร่วมแสดงความจงรักภักดีในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 5 ธันวามหาราช โดยเปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวเข้าชมโดยไม่เสียค่าผ่านประตู โดยจะมีการจัดนิทรรศการและกิจกรรมโครงการพระราชดำริ เพื่อเผยแพร่พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ตลอดจนการจัดงานครั้งนี้ยังมีขึ้น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดเชียงใหม่ด้วย
ไฮไลต์ที่สำคัญของงานอยู่ที่การจัดแสดงสวนนานาชาติจาก 12 ประเทศ ได้แก่ ญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ โมร็อกโก เคนยา ซูดาน อินโดนีเซีย กัมพูชา บังกลาเทศ ภูฏาน อินเดีย เนปาล แอฟริกาใต้ รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนของไทยที่จะเข้าร่วมจัดแสดงอีก 10 หน่วยงาน ตลอดจนมีกิจกรรมด้านวิชาการเกษตร การท่องเที่ยวและความบันเทิงต่างๆ มากมาย
ด้านนายชุมพล กล่าวว่า พิธีเปิดงานจะมีขึ้นในวันที่ 30 พฤศจิกายน2552 ณ ลานหอคำหลวง โดยจะมีการปล่อยโคม “รวมใจภักดิ์ รักพ่อหลวง” และโคมลอยบริวาร รวม 999 ลูก พร้อมขบวนแห่ 4 ภาค ขณะที่ในวันที่ 5 ธันวาคม2552 จะมีการจัดพิธีถวายพระพรหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมจุดดอกไม้ไฟชุดพิเศษ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองและถวายพระพร จำนวน 9 ชุด ชุดละ 999 ลูก
“การจัดงานครั้งนี้ เป็นเสมือนการเตรียมความพร้อมของสวนเฉลิมพระเกียรติฯ ราชพฤกษ์ 2549 แห่งนี้ ก่อนที่จะใช้เป็นสถานที่จัดงานมหกรรมพืชสวนโลก ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าจัดขึ้นอีกครั้งในปี 2554”
ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า การจัดงานครั้งนี้นอกเหนือจากการเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้ว ยังนับเป็นโอกาสอันดีที่มีกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และใกล้เคียง โดยเชื่อว่าการจัดงานครั้งนี้จะมีนักท่องเที่ยวและผู้สนใจเดินทางเข้าร่วมงานในครั้งนี้เป็นจำนวนมากอย่างแน่นอน เพราะช่วงที่เชียงใหม่มีอากาศหนาวเย็นและบรรยากาศน่าท่องเที่ยวพอดี