ที่รัฐสภา วานนี้ (26 พ.ย.) นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) และนายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.กทม. และในฐานะวิปรัฐบาล พร้อมด้วยคณะร่วมกันแถลงข่าวถึงการทำจดหมายเปิดผนึกถึงนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร และพ.อ. อภิวันท์ วิริยะชัย รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 เพื่อเรียกร้องให้ พ.อ.อภิวันท์ พิจารณาตนเองด้วยการลาออกจากตำแหน่ง เนื่องจากมีพฤติกรรม ภายนอกที่ไม่เหมาะสมต่อตำแหน่งรองประธานสภาณ
นายบุญยอด กล่าวว่า วิปรัฐบาลได้พิจารณาพฤติกรรมของพ.อ.อภิวันท์ จากการขึ้นเวทีปราศรัยของกลุ่มเสื้อแดง เมื่อวันที่ 20 พ.ย. ที่ผ่านมา ที่จ.สมุทรปราการ ซึ่งมีการใช้คำพูดที่รุนแรงและหยาบคาย ประณาม เสียดสี กล่าวหาให้ร้ายกับหลายภาคส่วน ทั้งรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี พรรคประชาธิปัตย์ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และโดยเฉพาะพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ถึงแม้จะไม่เอ่ยชื่อ แต่เมื่อฟังแล้วก็จะรู้ว่าหมายถึงพล.อ.เปรม
ทั้งนี้ ยังได้ใช้คำพูดหยาบคายที่เป็นคำผวน เปรียบใบหน้าของนายกรัฐมนตรี เหมือนอวัยวะเพศหญิง อีกทั้ง พ.อ.อภิวันท์เป็นหนึ่งในผู้ต้องหาก่อความวุ่นวาย ที่หน้าบ้านสี่เสาเทเวศน์ เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2550 ซึ่งอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องและได้มีการเรียก พ.อ.อภิวันท์มารับทราบข้อกล่าวหา และได้ยื่นฟ้องต่อศาล เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นายบุญยอด กล่าวว่า ดังนั้นเมื่อพ.อ.อภิวันท์ เป็นผู้ต้องหาและต้องขึ้นให้การ ต่อศาล รวมทั้งพ.อ.อภิวันท์ขาดการประชุมร่วม 2 สภา เมื่อวันที่ 13 พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่ส.ส.พรรคเพื่อไทยส่วนใหญ่ เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นการแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากไม่มีภารกิจที่จำเป็น หรือก่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชน ดังนั้น จึงของเรียกร้องให้พ.อ.อภิวันท์ พิจารณาตัวเองด้วยการลาออก และต้องมีสำนึกทาง จริยธรรม ที่จะไม่ทำให้ตำแหน่งรองประธานรัฐสภา ฝ่ายนิติบัญญัติต้องมัวหมอง
ด้านนายวิรัตน์ กล่าวว่า การกระทำของพ.อ.อภิวันท์ครั้งนี้ ไม่ใช่ครั้งแรก ซึ่งตำแหน่งรองประธานสภาฯ เป็นตำแหน่งที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่การไปขึ้นเวที เสื้อแดง และให้ร้ายระบอบประชาธิปไตย เท่ากับว่าไม่ยอมรับระบบรัฐสภา และการกล่าวให้ร้ายประธานองคมนตรี ซึ่งทรงคัดเลือกตามพระราชอัธยาศัย เท่ากับเป็นการก้าวล่วงพระราชอำนาจ ส่วนการกล่าวถึงราชวงศ์โรมานอฟ ของประเทศรัสเซีย เทียบเคียงกับสังคมไทยในปัจจุบันนั้น ซึ่งคนไทยไม่ได้มีความรู้สึก ที่ไม่ดีต่อราชวงศ์จักรี เปรียบเสมือนเป็นการชี้ช่องให้ประชาชนลุกฮือ ดังนั้นพ.อ.อภิวันท์ไม่เหมาะกับการที่จะนั่งตำแหน่งรองประธานรัฐสภาอีกต่อไป เพราะจะทำให้สภาฯตกต่ำไปกว่านี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากยื่นเรื่องดังกล่าวไปแล้ว และพ.อ.อภิวันท์ไม่ยอมลาออก จะดำเนินการอย่างไรต่อไป นายวิรัตน์ กล่าวว่า โดยจิตสำนึกแล้ว การขึ้นเวทีนอกสภา หากเป็นส.ส.ยังพอทำใจได้ แต่ตำแหน่งรองประธานรัฐสภา เป็นตำแหน่งที่มีเกียรติ ดังนั้น พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของพ.อ.อภิวันท์ เราจึงยอมไม่ได้
นายบุญยอด กล่าวว่า วิปรัฐบาลได้พิจารณาพฤติกรรมของพ.อ.อภิวันท์ จากการขึ้นเวทีปราศรัยของกลุ่มเสื้อแดง เมื่อวันที่ 20 พ.ย. ที่ผ่านมา ที่จ.สมุทรปราการ ซึ่งมีการใช้คำพูดที่รุนแรงและหยาบคาย ประณาม เสียดสี กล่าวหาให้ร้ายกับหลายภาคส่วน ทั้งรัฐบาล พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี พรรคประชาธิปัตย์ และนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และโดยเฉพาะพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ถึงแม้จะไม่เอ่ยชื่อ แต่เมื่อฟังแล้วก็จะรู้ว่าหมายถึงพล.อ.เปรม
ทั้งนี้ ยังได้ใช้คำพูดหยาบคายที่เป็นคำผวน เปรียบใบหน้าของนายกรัฐมนตรี เหมือนอวัยวะเพศหญิง อีกทั้ง พ.อ.อภิวันท์เป็นหนึ่งในผู้ต้องหาก่อความวุ่นวาย ที่หน้าบ้านสี่เสาเทเวศน์ เมื่อวันที่ 22 ก.ค. 2550 ซึ่งอัยการมีความเห็นสั่งฟ้องและได้มีการเรียก พ.อ.อภิวันท์มารับทราบข้อกล่าวหา และได้ยื่นฟ้องต่อศาล เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
นายบุญยอด กล่าวว่า ดังนั้นเมื่อพ.อ.อภิวันท์ เป็นผู้ต้องหาและต้องขึ้นให้การ ต่อศาล รวมทั้งพ.อ.อภิวันท์ขาดการประชุมร่วม 2 สภา เมื่อวันที่ 13 พ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่ส.ส.พรรคเพื่อไทยส่วนใหญ่ เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นการแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม เนื่องจากไม่มีภารกิจที่จำเป็น หรือก่อให้เกิดประโยชน์กับประชาชน ดังนั้น จึงของเรียกร้องให้พ.อ.อภิวันท์ พิจารณาตัวเองด้วยการลาออก และต้องมีสำนึกทาง จริยธรรม ที่จะไม่ทำให้ตำแหน่งรองประธานรัฐสภา ฝ่ายนิติบัญญัติต้องมัวหมอง
ด้านนายวิรัตน์ กล่าวว่า การกระทำของพ.อ.อภิวันท์ครั้งนี้ ไม่ใช่ครั้งแรก ซึ่งตำแหน่งรองประธานสภาฯ เป็นตำแหน่งที่ได้รับการโปรดเกล้าฯ แต่การไปขึ้นเวที เสื้อแดง และให้ร้ายระบอบประชาธิปไตย เท่ากับว่าไม่ยอมรับระบบรัฐสภา และการกล่าวให้ร้ายประธานองคมนตรี ซึ่งทรงคัดเลือกตามพระราชอัธยาศัย เท่ากับเป็นการก้าวล่วงพระราชอำนาจ ส่วนการกล่าวถึงราชวงศ์โรมานอฟ ของประเทศรัสเซีย เทียบเคียงกับสังคมไทยในปัจจุบันนั้น ซึ่งคนไทยไม่ได้มีความรู้สึก ที่ไม่ดีต่อราชวงศ์จักรี เปรียบเสมือนเป็นการชี้ช่องให้ประชาชนลุกฮือ ดังนั้นพ.อ.อภิวันท์ไม่เหมาะกับการที่จะนั่งตำแหน่งรองประธานรัฐสภาอีกต่อไป เพราะจะทำให้สภาฯตกต่ำไปกว่านี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากยื่นเรื่องดังกล่าวไปแล้ว และพ.อ.อภิวันท์ไม่ยอมลาออก จะดำเนินการอย่างไรต่อไป นายวิรัตน์ กล่าวว่า โดยจิตสำนึกแล้ว การขึ้นเวทีนอกสภา หากเป็นส.ส.ยังพอทำใจได้ แต่ตำแหน่งรองประธานรัฐสภา เป็นตำแหน่งที่มีเกียรติ ดังนั้น พฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของพ.อ.อภิวันท์ เราจึงยอมไม่ได้