ส.โรงแรมไทย บี้รัฐคุมเข้มโรงแรมเถื่อน ระบุมีกฎหมายแต่ไม่ยอมใช้ สูญเงินภาษีเข้ารัฐ แถมคนผิดยังได้ใจ เปิดให้บริการเกลื่อนเมือง
นายประกิจ ชินอมรพงษ์ นายกสมาคมโรงแรมไทย เปิดเผยว่า ได้ทำหนังสือถึงรัฐบาล โดยขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการเอาผิดกับสถานประกอบการที่ให้บริการห้องพักรายวัน ทุกแห่ง เพื่อเป็นการบังคับให้ทุกสถานประกอบการที่เปิดให้บริการดังกล่าว เข้ามาจดทะเบียนให้ถูต้องตามกฎหมาย
“ที่ผ่านมา เคยทำหนังสือส่งถึงรัฐบาลแล้วแต่ไม่ได้รับความสนใจ ปล่อยให้เรื่องเงียบหาย ทำให้ผู้ประกอบการห้องพักรายวันเกิดเพิ่มขึ้นอีกจำนวนมาก รัฐบาลก็ไม่สามารถเก็บภาษีได้เต็มที่ เพราะห้องพักรายวันในรูปแบบโรงแรมนี้จะต้องเสียอัตราภาษีสูงกว่าห้องเช่ารายเดือน เช่น ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือแวต 7%“
ทั้งนี้หากผู้ประกอบการห้องพักรายวันที่ต้องการจดทะเบียนถูกต้อง แต่ติดขัดกฎเกณฑ์ข้อกฎหมายบางอย่าง ภาครัฐโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ควรพิจารณาผ่อนปรนเงื่อนไขบ้าง แต่ให้คงไว้ซึ่งมาตรฐานความสะอาดและปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม การที่ภาครัฐละเลยไม่บังคับใช้กฎหมายให้ถูกต้อง ยังส่งผลเสียในเรื่องมาตรฐานคุณภาพที่ให้บริการนักท่องเที่ยว เพราะห้องพักรายวันส่วนใหญ่ มีการจัดสร้างไม่ได้มาตรฐานโรงแรม เช่น ไม่มีบันไดหนีไฟ สปริงเคิลฉีดน้ำดับเพลิง สัญญาณเตือนภัย รวมถึงความสะอาดของเครื่องนอนและของใช้ ซึ่งหากการขาดสิ่งเหล่านี้แล้วก่อให้เกิดอันตรายแก่นักท่องเที่ยวจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยได้
ด้านอัตราเข้าพักนักท่องเที่ยว ขณะนี้เริ่มดีขึ้นต่อเนื่อง โดยเดือน พ.ย.-ธ.ค. คาดว่าอัตราเข้าพักโรงแรมจะเติบโตจากปีก่อน 60% แต่ถ้าเป็นภาพรวมตลอดปี ยังติดลบจากปีก่อราว 15-20% เนื่องจาก ครึ่งปีแรกของปี 2552 นี้ ประเทสเกิดความวุ่นวายทางการเมืองส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และ อุตสาหกรรมอื่นๆทั้งประเทศ จึงทำให้คาดการณ์ว่า ตลอดปีนี้จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 12 ล้านคน
สำหรับอัตราเข้าพัก 10 เดือนแรกปีนี้(ม.ค.-ต.ค.) เฉลี่ยอยู่ที่ 52.54% ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งได้ 65.73% ถ้าดูเฉพาะเดือน ต.คงปีนี้ อัตราเข้าพักอยู่ที่ 62.8% ดีกว่า ต.ค.ปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 58%
นายประกิจ ชินอมรพงษ์ นายกสมาคมโรงแรมไทย เปิดเผยว่า ได้ทำหนังสือถึงรัฐบาล โดยขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งดำเนินการเอาผิดกับสถานประกอบการที่ให้บริการห้องพักรายวัน ทุกแห่ง เพื่อเป็นการบังคับให้ทุกสถานประกอบการที่เปิดให้บริการดังกล่าว เข้ามาจดทะเบียนให้ถูต้องตามกฎหมาย
“ที่ผ่านมา เคยทำหนังสือส่งถึงรัฐบาลแล้วแต่ไม่ได้รับความสนใจ ปล่อยให้เรื่องเงียบหาย ทำให้ผู้ประกอบการห้องพักรายวันเกิดเพิ่มขึ้นอีกจำนวนมาก รัฐบาลก็ไม่สามารถเก็บภาษีได้เต็มที่ เพราะห้องพักรายวันในรูปแบบโรงแรมนี้จะต้องเสียอัตราภาษีสูงกว่าห้องเช่ารายเดือน เช่น ต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือแวต 7%“
ทั้งนี้หากผู้ประกอบการห้องพักรายวันที่ต้องการจดทะเบียนถูกต้อง แต่ติดขัดกฎเกณฑ์ข้อกฎหมายบางอย่าง ภาครัฐโดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ควรพิจารณาผ่อนปรนเงื่อนไขบ้าง แต่ให้คงไว้ซึ่งมาตรฐานความสะอาดและปลอดภัย
อย่างไรก็ตาม การที่ภาครัฐละเลยไม่บังคับใช้กฎหมายให้ถูกต้อง ยังส่งผลเสียในเรื่องมาตรฐานคุณภาพที่ให้บริการนักท่องเที่ยว เพราะห้องพักรายวันส่วนใหญ่ มีการจัดสร้างไม่ได้มาตรฐานโรงแรม เช่น ไม่มีบันไดหนีไฟ สปริงเคิลฉีดน้ำดับเพลิง สัญญาณเตือนภัย รวมถึงความสะอาดของเครื่องนอนและของใช้ ซึ่งหากการขาดสิ่งเหล่านี้แล้วก่อให้เกิดอันตรายแก่นักท่องเที่ยวจะส่งผลต่อภาพลักษณ์ของประเทศไทยได้
ด้านอัตราเข้าพักนักท่องเที่ยว ขณะนี้เริ่มดีขึ้นต่อเนื่อง โดยเดือน พ.ย.-ธ.ค. คาดว่าอัตราเข้าพักโรงแรมจะเติบโตจากปีก่อน 60% แต่ถ้าเป็นภาพรวมตลอดปี ยังติดลบจากปีก่อราว 15-20% เนื่องจาก ครึ่งปีแรกของปี 2552 นี้ ประเทสเกิดความวุ่นวายทางการเมืองส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และ อุตสาหกรรมอื่นๆทั้งประเทศ จึงทำให้คาดการณ์ว่า ตลอดปีนี้จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 12 ล้านคน
สำหรับอัตราเข้าพัก 10 เดือนแรกปีนี้(ม.ค.-ต.ค.) เฉลี่ยอยู่ที่ 52.54% ต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งได้ 65.73% ถ้าดูเฉพาะเดือน ต.คงปีนี้ อัตราเข้าพักอยู่ที่ 62.8% ดีกว่า ต.ค.ปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 58%
