ASTVผู้จัดการรายวัน - หวัดใหญ่ 2009 รอบ 2 มาแล้ว เร็วกว่าที่คาด พบเด็กนักเรียน ทหารเริ่มป่วย คาดเริ่มระบาดมากเมืองใหญ่ ภาคเหนือ-อีสานเสี่ยง
นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 หรือ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009ว่า ขณะนี้น่าจะเริ่มมีการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 ในระลอกที่ 2 แล้ว โดยเริ่มมีนักเรียนในโรงเรียนต่างจังหวัด เช่น นครราชสีมา สมุทรปราการ รวมถึงทหารในค่ายทหาร จ.เพชรบูรณ์ เริ่มมีอาการป่วยคล้ายไข้หวัดมากถึง 1 ใน 3 ของทั้งหมด ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวนโรค ว่าเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 หรือไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล อย่างไรก็ตาม ถือว่าการระบาดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะมีการระบาดในช่วงสิ้นเดือน พ.ย.นี้
“มาตรการในการรับมือโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ ได้มีการสั่งการโรงพยาบาลทุกแห่งในสังกัดสธ.เตรียมความพร้อมมีการกระจายยาต้านไวรัส โอเซลทามิเวียร์อย่างเพียงพอในโรงพยาบาลทุกแห่ง เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษารวดเร็วที่สุด ซึ่งหากได้รับยาเร็วก็จะทำให้ปลอดภัย โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงที่มีภาระอ้วนและหญิงตั้งครรภ์ หากป่วยต้องรีบพบแพทย์ทันที”นายวิทยากล่าว
ด้านนพ.ภาสกร อัครเสวี ผู้อำนวยการสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ในขณะนี้ ทุกจังหวัด และทุกอำเภอในประเทศมีการระบาดแล้วทุกพื้นที่ แต่การระบาดยังไม่ถึงจุดอิ่มตัว เนื่องจากระลอกแรกมีการระบาดในต่างจังหวัดไม่มาก ทำให้การระบาดในระลอกที่ 2 ในประเทศไทย น่าจะเริ่มมีการระบาดในชนบท โดยเฉพาะจังหวัดใหญ่ๆ เช่น จ.สมุทรปราการ และเมืองใหญ่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือแต่จะไม่รุนแรงเท่าระลอกแรก เพราะทุกแห่งมีประสบการณ์ในการควบคุมโรคแล้ว
“สัญญาณที่บ่งชี้ว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่ระลอกใหม่เริ่มต้นขึ้นแล้ว เนื่องจากนักเรียนในโรงเรียนแห่งหนึ่งของ จ.นครราชสีมา และทหารในค่ายทหาร จ.เพชรบูรณ์ ประมาณร้อยละ 30 ของนักเรียนทั้งหมดและทหารทั้งหมด มีอาการป่วยเป็นไข้หวัด ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค รวมทั้ง การติดตามผู้ที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้นในจ.นครราชสีมา สมุทรปราการ พิษณุโลก สุโขทัย ลำพูน อำนาจเจริญและขอนแก่น” นพ.ภาสกร กล่าว
นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า อยากขอความร่วมมือเจ้าของโรงเรียน โรงงาน เรือนจำ ค่ายทหาร สถานบันเทิง และสถานที่ที่มีลักษณะที่คนเข้าไปรวมตัวกันจำนวนมาก ต้องร่วมกันเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรค หากพบคนป่วยมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่จำนวนมากให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขโดยเร็วเพื่อเข้าไปควบคุม สถานการณ์ จะช่วยให้จำกัดการระบาดของโรคได้ระดับหนึ่ง เพราะผู้ป่วยที่เป็นหวัดจะมีเพียง 10 %เท่านั้นที่เข้ารับบริการในสถานบริการสาธารณสุข แต่อีก 90 %ยังใช้ชีวิตปกติ จึงต้องช่วยกันเฝ้าระวังไม่ใช่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของโรงพยาบาลหรือกระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น
นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดสธ. กล่าวว่า สธ.เตรียมรับมือการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ โดยใช้ยุทธการ 4 x 4 x 4 x 4 มาใช้ป้องกันโรค คือ 1.ให้ทุกจัหงวัดดำเนินงานอย่างเข้มข้นเป็นเวลา 4 เดือน ตั้งแต่พฤศจิกายน 2553 ถึงกุมภาพันธ์ 2553 ยุทธการที่ 2 ดูแลกลุ่มเสี่ยง 4 กลุ่มคือ วัยเรียน วัยทำงาน คนอยู่บ้าน และคนอ้วน ที่ต้องระวังและดูแลตนเองพิเศษ ยุทธการที่ 3 เน้นพฤติกรรม 4 ด้านคือ ปิดปาก ล้างมือ ลดไปพื้นที่เสี่ยง เจ็บป่วยหยุดอยู่บ้าน และ ยุทธการที่ 4 คือใช้ 4 มาตรการในการบริหารจัดการ คือ ให้สื่อประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ประชาชนรู้ทันสถานการณ์ ร่วมมือป้องกันโรค ทุกภาคส่วนช่วยลดผู้ป่วย
นายวิทยา แก้วภราดัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ ชนิดเอ เอช 1 เอ็น 1 หรือ ไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009ว่า ขณะนี้น่าจะเริ่มมีการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 ในระลอกที่ 2 แล้ว โดยเริ่มมีนักเรียนในโรงเรียนต่างจังหวัด เช่น นครราชสีมา สมุทรปราการ รวมถึงทหารในค่ายทหาร จ.เพชรบูรณ์ เริ่มมีอาการป่วยคล้ายไข้หวัดมากถึง 1 ใน 3 ของทั้งหมด ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวนโรค ว่าเป็นไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ 2009 หรือไข้หวัดใหญ่ตามฤดูกาล อย่างไรก็ตาม ถือว่าการระบาดเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะมีการระบาดในช่วงสิ้นเดือน พ.ย.นี้
“มาตรการในการรับมือโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ ได้มีการสั่งการโรงพยาบาลทุกแห่งในสังกัดสธ.เตรียมความพร้อมมีการกระจายยาต้านไวรัส โอเซลทามิเวียร์อย่างเพียงพอในโรงพยาบาลทุกแห่ง เพื่อให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษารวดเร็วที่สุด ซึ่งหากได้รับยาเร็วก็จะทำให้ปลอดภัย โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงที่มีภาระอ้วนและหญิงตั้งครรภ์ หากป่วยต้องรีบพบแพทย์ทันที”นายวิทยากล่าว
ด้านนพ.ภาสกร อัครเสวี ผู้อำนวยการสำนักระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค กล่าวว่า สถานการณ์โรคไข้หวัดใหญ่ในขณะนี้ ทุกจังหวัด และทุกอำเภอในประเทศมีการระบาดแล้วทุกพื้นที่ แต่การระบาดยังไม่ถึงจุดอิ่มตัว เนื่องจากระลอกแรกมีการระบาดในต่างจังหวัดไม่มาก ทำให้การระบาดในระลอกที่ 2 ในประเทศไทย น่าจะเริ่มมีการระบาดในชนบท โดยเฉพาะจังหวัดใหญ่ๆ เช่น จ.สมุทรปราการ และเมืองใหญ่ในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือแต่จะไม่รุนแรงเท่าระลอกแรก เพราะทุกแห่งมีประสบการณ์ในการควบคุมโรคแล้ว
“สัญญาณที่บ่งชี้ว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไข้หวัดใหญ่ระลอกใหม่เริ่มต้นขึ้นแล้ว เนื่องจากนักเรียนในโรงเรียนแห่งหนึ่งของ จ.นครราชสีมา และทหารในค่ายทหาร จ.เพชรบูรณ์ ประมาณร้อยละ 30 ของนักเรียนทั้งหมดและทหารทั้งหมด มีอาการป่วยเป็นไข้หวัด ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค รวมทั้ง การติดตามผู้ที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่เพิ่มขึ้นในจ.นครราชสีมา สมุทรปราการ พิษณุโลก สุโขทัย ลำพูน อำนาจเจริญและขอนแก่น” นพ.ภาสกร กล่าว
นพ.มานิต ธีระตันติกานนท์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า อยากขอความร่วมมือเจ้าของโรงเรียน โรงงาน เรือนจำ ค่ายทหาร สถานบันเทิง และสถานที่ที่มีลักษณะที่คนเข้าไปรวมตัวกันจำนวนมาก ต้องร่วมกันเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของโรค หากพบคนป่วยมีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่จำนวนมากให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขโดยเร็วเพื่อเข้าไปควบคุม สถานการณ์ จะช่วยให้จำกัดการระบาดของโรคได้ระดับหนึ่ง เพราะผู้ป่วยที่เป็นหวัดจะมีเพียง 10 %เท่านั้นที่เข้ารับบริการในสถานบริการสาธารณสุข แต่อีก 90 %ยังใช้ชีวิตปกติ จึงต้องช่วยกันเฝ้าระวังไม่ใช่ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของโรงพยาบาลหรือกระทรวงสาธารณสุขเท่านั้น
นพ.ไพจิตร์ วราชิต ปลัดสธ. กล่าวว่า สธ.เตรียมรับมือการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่สายพันธ์ใหม่ โดยใช้ยุทธการ 4 x 4 x 4 x 4 มาใช้ป้องกันโรค คือ 1.ให้ทุกจัหงวัดดำเนินงานอย่างเข้มข้นเป็นเวลา 4 เดือน ตั้งแต่พฤศจิกายน 2553 ถึงกุมภาพันธ์ 2553 ยุทธการที่ 2 ดูแลกลุ่มเสี่ยง 4 กลุ่มคือ วัยเรียน วัยทำงาน คนอยู่บ้าน และคนอ้วน ที่ต้องระวังและดูแลตนเองพิเศษ ยุทธการที่ 3 เน้นพฤติกรรม 4 ด้านคือ ปิดปาก ล้างมือ ลดไปพื้นที่เสี่ยง เจ็บป่วยหยุดอยู่บ้าน และ ยุทธการที่ 4 คือใช้ 4 มาตรการในการบริหารจัดการ คือ ให้สื่อประชาสัมพันธ์ให้ความรู้ประชาชนรู้ทันสถานการณ์ ร่วมมือป้องกันโรค ทุกภาคส่วนช่วยลดผู้ป่วย
