xs
xsm
sm
md
lg

“พล.อ.พ.” ร่วมแผนชั่ว ยิงบึ้มใส่พันธมิตรฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แฉขบวนการชั่วยิงบึ้มพันธมิตรฯ ไม่พ้น 2 ทหารเลว "พล.อ.พ.-เสธ.ด." หวัง "ทำลายการเมืองภาคประชาชน" วางแผนไว้ล่วงหน้าสั่งทหารพรานเข้ากรุง พิรุธเสื้อแดงกลับใจแจ้งข่าวตำรวจบอกแกนนำส่งซิกให้ออกจากสนามหลวงก่อน 3 ทุ่ม ตำรวจต้องลาดตระเวน หน่วยยิงระเบิดล่าถอยไปตั้งฐานรอบนอก คาดลงมือใกล้ตึกราชบัณฑิตกับกระทรวงกลาโหม

เหตุการณ์คนร้ายใช้อาวุธปืนยิงระเบิดเอ็ม 79 ไปตกที่ด้านหลังเวทีปราศรัยของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ที่มาร่วมแสดงพลังเพื่อปกป้องสถาบันหลักของชาติ ที่บริเวณท้องสนามหลวง เมื่อเวลา 20.55 น.ของคืนวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมานั้น ถือเป็นการกระทำที่อุกอาจต่อพลังบริสุทธิ์ของประชาชนที่ได้ตั้งใจเดินทางมาร่วมแสดงออกถึงความจงรักภักดี และปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นสถาบันหลักของชาติ

มีรายงานข่าวระบุว่า การกระทำดังกล่าว ได้มีการเตรียมการและวางแผนไว้ล่วงหน้าอย่างแยบยลก่อนหน้านี้เแล้ว โดยมีจุดประสงค์เพียงเพื่อต้องการ "ทำลายการเมืองภาคประชาชน" ที่จะรวมพลังแสดงออกซึ่งความจงรักภักดี โดยในช่วงเช้าวันที่ 15 พ.ย. หน่วยข่าวหลักหลายหน่วยงานพบความเคลื่อนไหวของกลุ่มทหารพรานกลุ่มหนึ่ง เดินทางเข้ามายังกรุงเทพมหานคร เพื่อเตรียมการที่จะก่อเหตุรุนแรงขึ้นท่ามกลางการชุมนุมของพลังประชาชน บริเวณท้องสนามหลวง

ต่อมา ได้มีการประสานไปยังกองบัญชาการตำรวจนครบาล โดยเฉพาะกับนายตำรวจระดับผู้บังคับบัญชาที่รับผิดชอบเรื่องนี้โดยตรง เพื่อให้ติดตามการเคลื่อนไหวของกลุ่มทหารพรานกลุ่มดังกล่าวที่จะเข้ามาสร้างสถานการณ์ และทันทีที่ทางตำรวจได้รับรายงานดังกล่าว ในเวลา 12.00 น.วันเดียวกันนั้น พล.ต.ท.วรพงษ์ ชิวปรีชา ผบช.น. พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ ผบก.น. ได้เรียกประชุมนายตำรวจที่เกี่ยวข้องอย่างเร่งด่วน เพื่อหามาตรการป้องกันการเกิดเหตุรุนแรง โดยมีการสั่งการในเบื้องต้น เพื่อเพิ่มกำลังตำรวจให้มีจำนวนมากกว่าเดิม จากนั้นไม่นาน ในเวลา 19.00 น. ตำรวจนครบาลที่รับผิดชอบพื้นที่ดังกล่าว ได้เรียกประชุมด่วนอีกครั้งในเวลา 19.00 น. ภายในห้องประชุมมหาวิทยาลัยธรมศาสตร์ หลังจากที่ได้รับทราบข่าวกรองยืนยันแล้วว่า จะมีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นในเวลาอันไม่ช้านี้

นอกจากข่าวกรอง ที่ทางตำรวจได้รับ ยังมีสิ่งที่ยืนยันถึงสถานการณ์ในอันที่จะเกิดเหตุรุนแรง กับบรรดาคนเสื้อแดงที่กลับตัวกลับใจ ภายหลังจากได้รับทราบข้อเท็จจริง และการกระทำของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ที่มีต่อชาติ และสถาบันหลักของชาติ ที่ได้เดินทางมาร่วมชุมนุมเพื่อแสดงออกถึงความจงรักภักดีในครั้งนี้ โดยพวกเขา ได้รับการติดต่อจากบรรดาคนเสื้อแดงด้วยกัน ที่ไม่ได้เข้าร่วมชุมนุมในครั้งนี้ว่า ให้รีบออกจากบริเวณท้องสนามหลวงก่อนเวลา 21.00 น. เนื่องจาก อาจจะมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดได้ โดยระบุอย่างชัดเจนว่า ในเวลา 21.00 น. จะมีการยิงระเบิดเข้าใส่เวทีพันธมิตร ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล ขึ้นกล่าวปราศรัยพอดี และเรื่องนี้ ก็ไม่ได้รอดพ้นด้านการข่าวของตำรวจไปได้

เมื่อการข่าวของตำรวจกับอดีตคนเสื้อแดงมาบรรจบรวมกัน ตำรวจจึงสั่งให้มีการกระจายกำลังกันออกลาดตระเวณเป็นแนววงกลมรอบกลุ่มผู้เข้าร่วมชุมนุม และการกระจายกำลังกันออกลาดตระเวนดังกล่าว จึงเท่ากับว่า เป็นการบีบให้คนร้ายต้องถอยร่นไปจากจุดที่ได้มีการวางแผนมาไว้ล่วงหน้า ทำให้เมื่อถึงวินาทียิงระเบิดเอ็ม 79 ใส่ โดยมีเป้าหมายอยู่ที่กลางเวทีปราศรัย จึงเกิดการผิดพลาด ลูกระเบิดไปตกที่หลังเวที แต่กระนั้นก็ตาม ยังส่งผลให้มีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจำนวนไม่น้อย

แหล่งข่าวระบุว่า หลังเกิดเหตุ มีการสันนิษฐานกันว่า จุดที่คนร้ายใช้ลอบยิงระเบิดเอ็ม 79 ในครั้งนี้ น่าจะมาจาก 2 จุดใหญ่ จุดแรก น่าจะมาจากซอยด้านข้างตึกราชบัณฑิตสถาน (ตึกแดง) ที่จะทะลุไปยังถนนท่าพระจันทร์ได้ จุดที่ 2 น่าจะมาจากถนนที่ขั้นกลางระหว่างศาลหลักเมืองกับกระทรวงกลาโหม แต่เมื่อมีการพิสูจน์ทางวิถีกระสุนแล้ว คนร้ายน่าจะยิงมาจากจุดที่ 2 มากกว่า อันเนื่องมาจากมีทางหนีทีไล่ ที่จะเล็ดรอดหลบหนีไปได้หลายทางมากกว่า

อย่างไรก็ตาม ในท่ามกลางนาทีแห่งความเป็นความตายของประชาชน ก็ยังมีเรื่องที่น่ายินดี เพราะขณะที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล กำลังกล่าวปราศรัยไปได้ราว 15 นาที ก็เกิดเหตุระเบิดที่หลังเวที เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว เสียงนั้น ก็ทำให้นายสนธิตกใจบ้างเล็กน้อย แต่ทว่า นายสนธิ กลับควบคุมสติได้อย่างมั่นคงและรวดเร็ว ไม่ได้แสดงอาการตกใจออกมาให้กับประชาชนที่ไปร่วมชุมนุมได้เห็น จึงทำให้ไม่เกิดเหตุรุนแรงและบานปลายขึ้น ซึ่งหากนายสนธิ ไม่สามารถควบคุมสติได้ อะไรจะเกิดขึ้น ภาพของประชาชนเรือนแสน ที่จะเบียดเสียดและเหยียบกันพินาศ ไม่อาจที่จะหลีกเลี่ยงได้ ซึ่งช่วงวินาทีนั้นเอง ที่นายสนธิ กล่าวปราศรัยกับผู้ชุมนุมต่อว่า "ไม่มีอะไรครับพี่น้อง พี่น้องช่วยกันโห่พวกป่วนเมืองหน่อย" นั่นเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง ที่ผู้ไปร่วมชุมนุมไม่อาจปฏิเสธได้

แหล่งข่าวระบุอีกว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้น ได้มีการประมวลสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด จนทำให้พบว่า ผู้ที่มีเพาว์เวอร์ที่จะก่อเหตุในลักษณะป่วนเมือง ทำร้ายชาติบ้านเมืองเช่นนี้ได้ มีอยู่เพียง 2 กลุ่มๆ แรก เป็นกลุ่ม "พล.อ.พ." ที่มีส่วนได้เสียกับการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรโดยตรง เนื่องจาก" พล.อ.พ."ผู้นี้ ได้เข้าสังกัดพรรคการเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยระหว่างที่มีการประชุมพรรค ได้มีการปรารภกันว่า สถานการณ์ที่ประเทศเขมร ทำให้พรรคเสียคะแนนนิยมไปมหาศาล ดังนั้น จึงน่าจะมีการทำลายและสร้างสถานการณ์ให้กับการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯได้บ้าง

ส่วนคนร้ายอีกกลุ่ม ถือเป็นกลุ่มที่ไม่มีราคา เป็นพวกที่ได้รับการว่าจ้างมา ภายใต้การควบคุมของ"เสธ.ด." ทั้งข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ยังได้ไปปรากฏบนเว็บไซด์ของเสธ.ด.ก่อนหน้านี้แล้วว่า ในวันที่ 15 พ.ย. อันเป็นวันชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ จะมีเหตุระเบิดเกิดขึ้นค่อนข้างแน่นอน

อย่างไรก็ดี การกระทำของกลุ่มคนร้าย คำนึงถึงเพียงแค่ว่า จะต้องทำลายฝ่ายพันธมิตรฯ ให้ย่อยยับเท่านั้น โดยไม่ได้คำนึงแม้เพียงสักนิดว่า พลังบริสุทธิ์ของประชาชน ที่มาร่วมแสดงออกในครั้งนี้นั้น เป็นพลังแห่งความจงรักภักดี จึงย่อมไม่มีอะไรที่จะเข้ามาแผ้วพานได้.
กำลังโหลดความคิดเห็น