วานนี้ (11 พ.ย.) ของบริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ NBC เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ตลาดหลักทรัพย์เอ็มเอไอ (mai) เป็นวันแรก โดยเปิดตลาดราคาซื้อขายอยู่ที่ 3.18 บาท เพิ่มขึ้น 0.28 บาท หรือเพิ่มขึ้น 9.65 % จากราคาจอง 2.90 บาท ระหว่างวันปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุด 3.22 บาท ปรับตัวต่ำสุด 2.98 บาท และกลับมาปิดตลาดที่ระดับ 3.02 บาท เพิ่มขึ้น 0.12 บาท หรือเพิ่มขึ้น4.13% มูลค่าซื้อขาย 124.28 ล้านบาท
นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ NBC เปิดเผยว่า พอใจกับราคาเข้าซื้อขายหุ้นวันแรกของบริษัทและนักลงทุนให้การตอบรับที่ดีในการเข้ามาลงทุนและจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวนั้นทำให้ส่งผลดีต่อธุรกิจเพราะโฆษณามีมากขึ้น และยังเป็นจังหวะที่เหมาะสมในการขยายงานด้านการผลิตคอนเทรนท์ต่างๆ การเปิดทีวีช่องใหม่ ฯลฯทำให้บริษัทมีรายได้เติบโตต่อเนื่อง
ทั้งนี้ การที่หุ้นของบริษัทได้รับการตอบรับที่ดีในการเข้ามาจดทะเบียนนั้น จะทำให้มีบริษัทที่ประกอบธุรกิจด้านสื่อ และธุรกิจเคเบิลทีวี หลายแห่งเข้ามาจดทะเบียนมากขึ้น เพราะมีหลายที่อยู่ในธุรกิจนี้จะเข้าจดทะเบียน เพื่อระดมเงินทุนขยายงานแต่ต้องการรอดูการเข้าจดทะเบียนของบริษัทก่อน เช่น บริษัท เคเบิลไทย โฮลดิ้ง
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้บริษัทจะนำไปซื้ออุปกรณ์ที่ใช้ในธุรกิจสื่อโทรทัศน์ ลงทุนช่องรายการโทรทัศน์ใหม่ โครงการพัฒนาศักยภาพเว็บไซด์ โครงการขยายธุรกิจสู่การเป็นผู้ให้บริการข้อมูลข่าวสารทางโทรศัพท์เคลื่อนที่และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
นายธนะชัย สันติชัยกูล รองประธานกรรมการ บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)หรือ NMG กล่าวว่า บริษัทจะบันทึกกำไรจากการขายหุ้นของบริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้งไตรมาส 4 ปีนี้ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาทของการขายหุ้น 15 ล้านหุ้น มูลค่ารวม 43.5 ล้านบาท เพราะมีต้นทุนการถือหุ้น เนชั่น บรอดแคสติ้งต่ำกว่า 2.90 บาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรเป็นไตรมาสแรก จาก 3 ไตรมาสที่ผ่านมาที่ขาดทุนจากการดำเนินงาน 190 ล้านบาท
โดยบริษัทคาดว่าปี 53 รายได้เติบโต 10% จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีรายได้ 3 พันล้านบาท และจะมีกำไรจากการที่ภาวะเศรษฐกิจดีขึ้น ทำให้มีโฆษณามาลงหนังสือของบริษัททุกเล่ม อีกทั้งมีแผนจะนำบริษัทย่อยคือ บริษัท เนชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็ดดูเทนเมนท์ จำกัด ( มหาชน ) เข้าจดทะเบียนปีหน้า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อนุมัติแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง )
นายฉัตรเฉลิม เฉลิมชัยวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไพลินบุ๊คเน็ต จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจสำนักพิมพ์ ผู้จัดจำหน่าย และร้านหนังสือ เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทพร้อมจะเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยได้แต่งตั้ง บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อเตรียมตัวระดมทุน คาดว่าในปี 53 บริษัทจะสามารถขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ได้ สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้จะชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงิน, ขยายไลน์หนังสือ เปิดร้านหนังสือใหม่ และเป็นเงินทุนหมุนเวียน
ทั้งนี้ ไพลินบุ๊คเน็ต มีจุดเด่นคือการเป็นบริษัทที่ผลิตหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊คส์เป็นของตัวเอง ประมาณ 5,000 ชื่อเรื่อง มีความหลากหลายครอบคลุมทุกๆ หมวดหมู่ โดยกลยุทธ์การทำตลาดจะมุ่งจำหน่ายปลีกให้กับผู้อ่านทุกเพศทุกวัย ในราคาประหยัดโดยเฉพาะตอนนี้ เน้นหนังสือเล่มละ 29 บาท (มีส่วนลด 70 %) ถือเป็นจุดเด่นของบริษัทที่มีเหนือคู่แข่ง ทั้งๆ ที่เป็นหนังสือสภาพใหม่ 100% เหมือนกัน
นายวรชาติ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) ให้ ไพลิน บุ๊คเน็ต และคาดว่าจะสามารถยื่นข้อมูลไฟลิ่งให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ( ก.ล.ต.) พิจารณาไตรมาสแรกปี 53 ขณะนี้รอสรุปผลประกอบการของปี 52 จากนั้นจึงจะกำหนดเม็ดเงินที่จะระดมทุนได้ชัดเจน ซึ่ง ไพลิน บุ๊คเน็ต ถือเป็นอีกบริษัทที่มีคุณภาพ และมีปัจจัยพื้นฐานที่โดดเด่น โดยบริษัทมีจุดเด่นและจุดแข็งในหลาย ๆ ด้าน และเชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนไม่น้อยไปกว่าบริษัทอื่น
นายอดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ NBC เปิดเผยว่า พอใจกับราคาเข้าซื้อขายหุ้นวันแรกของบริษัทและนักลงทุนให้การตอบรับที่ดีในการเข้ามาลงทุนและจากภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวนั้นทำให้ส่งผลดีต่อธุรกิจเพราะโฆษณามีมากขึ้น และยังเป็นจังหวะที่เหมาะสมในการขยายงานด้านการผลิตคอนเทรนท์ต่างๆ การเปิดทีวีช่องใหม่ ฯลฯทำให้บริษัทมีรายได้เติบโตต่อเนื่อง
ทั้งนี้ การที่หุ้นของบริษัทได้รับการตอบรับที่ดีในการเข้ามาจดทะเบียนนั้น จะทำให้มีบริษัทที่ประกอบธุรกิจด้านสื่อ และธุรกิจเคเบิลทีวี หลายแห่งเข้ามาจดทะเบียนมากขึ้น เพราะมีหลายที่อยู่ในธุรกิจนี้จะเข้าจดทะเบียน เพื่อระดมเงินทุนขยายงานแต่ต้องการรอดูการเข้าจดทะเบียนของบริษัทก่อน เช่น บริษัท เคเบิลไทย โฮลดิ้ง
สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้บริษัทจะนำไปซื้ออุปกรณ์ที่ใช้ในธุรกิจสื่อโทรทัศน์ ลงทุนช่องรายการโทรทัศน์ใหม่ โครงการพัฒนาศักยภาพเว็บไซด์ โครงการขยายธุรกิจสู่การเป็นผู้ให้บริการข้อมูลข่าวสารทางโทรศัพท์เคลื่อนที่และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน
นายธนะชัย สันติชัยกูล รองประธานกรรมการ บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)หรือ NMG กล่าวว่า บริษัทจะบันทึกกำไรจากการขายหุ้นของบริษัท เนชั่น บรอดแคสติ้งไตรมาส 4 ปีนี้ไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาทของการขายหุ้น 15 ล้านหุ้น มูลค่ารวม 43.5 ล้านบาท เพราะมีต้นทุนการถือหุ้น เนชั่น บรอดแคสติ้งต่ำกว่า 2.90 บาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรเป็นไตรมาสแรก จาก 3 ไตรมาสที่ผ่านมาที่ขาดทุนจากการดำเนินงาน 190 ล้านบาท
โดยบริษัทคาดว่าปี 53 รายได้เติบโต 10% จากปีนี้ที่คาดว่าจะมีรายได้ 3 พันล้านบาท และจะมีกำไรจากการที่ภาวะเศรษฐกิจดีขึ้น ทำให้มีโฆษณามาลงหนังสือของบริษัททุกเล่ม อีกทั้งมีแผนจะนำบริษัทย่อยคือ บริษัท เนชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล เอ็ดดูเทนเมนท์ จำกัด ( มหาชน ) เข้าจดทะเบียนปีหน้า ขณะนี้อยู่ระหว่างรอ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) อนุมัติแบบแสดงรายการข้อมูล (ไฟลิ่ง )
นายฉัตรเฉลิม เฉลิมชัยวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไพลินบุ๊คเน็ต จำกัด ผู้ประกอบธุรกิจสำนักพิมพ์ ผู้จัดจำหน่าย และร้านหนังสือ เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทพร้อมจะเข้าเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยได้แต่งตั้ง บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน เพื่อเตรียมตัวระดมทุน คาดว่าในปี 53 บริษัทจะสามารถขายหุ้นสามัญให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ได้ สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้จะชำระคืนเงินกู้สถาบันการเงิน, ขยายไลน์หนังสือ เปิดร้านหนังสือใหม่ และเป็นเงินทุนหมุนเวียน
ทั้งนี้ ไพลินบุ๊คเน็ต มีจุดเด่นคือการเป็นบริษัทที่ผลิตหนังสือพ็อกเก็ตบุ๊คส์เป็นของตัวเอง ประมาณ 5,000 ชื่อเรื่อง มีความหลากหลายครอบคลุมทุกๆ หมวดหมู่ โดยกลยุทธ์การทำตลาดจะมุ่งจำหน่ายปลีกให้กับผู้อ่านทุกเพศทุกวัย ในราคาประหยัดโดยเฉพาะตอนนี้ เน้นหนังสือเล่มละ 29 บาท (มีส่วนลด 70 %) ถือเป็นจุดเด่นของบริษัทที่มีเหนือคู่แข่ง ทั้งๆ ที่เป็นหนังสือสภาพใหม่ 100% เหมือนกัน
นายวรชาติ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) ให้ ไพลิน บุ๊คเน็ต และคาดว่าจะสามารถยื่นข้อมูลไฟลิ่งให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ( ก.ล.ต.) พิจารณาไตรมาสแรกปี 53 ขณะนี้รอสรุปผลประกอบการของปี 52 จากนั้นจึงจะกำหนดเม็ดเงินที่จะระดมทุนได้ชัดเจน ซึ่ง ไพลิน บุ๊คเน็ต ถือเป็นอีกบริษัทที่มีคุณภาพ และมีปัจจัยพื้นฐานที่โดดเด่น โดยบริษัทมีจุดเด่นและจุดแข็งในหลาย ๆ ด้าน และเชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากนักลงทุนไม่น้อยไปกว่าบริษัทอื่น
