ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ฝนถล่มภาคใต้หนักเข้าขั้นวิกฤต หลายจังหวัดประกาศเป็นพื้นที่ประสบอุทกภัย "นราธิวาส" ดินเชิงเขาพังทับบ้าน 8 ชีวิต ยังไม่ทราบชะตากรรม ส่วนยะลา ก็โดนดินถล่มบ้านราษฎรเสียชีวิต 4 ราย ทุกพื้นที่สั่งปิดโรงเรียนไม่มีกำหนด
วานนี้ (6 พ.ย.) หลังจากเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องกันมาหลายในพื้นที่ภาคใต้ วันส่งผลให้ประชาชนหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ต้องได้รับผลกระทบอย่างหนักจากน้ำป่าที่ไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือน วัด และสถานที่ราชการ ทำให้หลายจังหวัดต้องสั่งปิดโรงเรียน สถานที่ราชการ โดยไม่มีกำหนด ประชาชนหลายพื้นที่ต้องอพยพไปอยู่ยังพื้นที่ปลอดภัย ขณะที่บางจังหวัดได้ประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบอุทกภัยทั้งจังหวัดแล้ว เช่น จ.ยะลา นราธิวาส ปัตตานี สงขลา พัทลุง พังงา ตรัง สุราษฏร์ธานี และ นครศรีธรรมราช เป็นต้น
โดยเฉพาะที่ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ได้เกิดดินเชิงเขาหลังหมู่บ้านไอเจี๊ยะ ม.5 ต.ศรีสาคร ถล่มลงมาใส่บ้านเรือนราษฎร 2 หลังจมหายไปในกองดิน มีผู้สูญหาย 8 คน คือ 1.นายสาและ ซาแล 2.นางคอซีเยาะ ซาแล 3.นายกอยา ซาแล 4.นายมาหมะ ซาแล 5.นางซีเสาะ ไม่ทราบนามสกุล 6.ด.ช.ฮามัน ซาแล 7.ด.ช.อาริส ซาแล และ 8.ด.ช.รีฮัน ซาแล ยังไม่ทราบชะตากรรม เนื่องจากเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถนำเครื่องจักรเข้าไปช่วยเหลือได้ เพราะเส้นทางไปยังบ้านหลังดังกล่าวมีน้ำท่วมสูง กระน้ำแสไหลเชี่ยวกราก
ต่อมานายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้นำคณะทำงานประจำศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันเหตุอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม ออกตรวจสอบความเสียหาย พร้อมเข้าอำนวยการค้นหาของเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย อส.และชาวบ้านที่ช่วยกันค้นหาผู้สูญหาย 8 ราย
นายนิพนธ์ กล่าวว่า การค้นหาเป็นไปด้วยความลำบาก เพราะยังมีฝนตกต่อเนื่อง และปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งยังไหลเชี่ยว จึงไม่สามารถออกค้นหาด้วยเรือยางได้ ต้องรอให้ฝนหยุดตก แต่เจ้าหน้าที่พยายามค้นหารอบบริเวณบ้านที่มีดินโคลนทับ ซึ่งการตรวจสอบบริเวณบ้านพบว่าพังเสียหายทั้งหมด ข้าวของถูกพัดลงลำธาร คาดว่าทั้ง 8 คน น่าจะถูกน้ำพัดพาไปเช่นกัน
รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ขณะนี้ในพื้นที่นราธิวาสถือว่าอยู่ในขั้นวิกฤติจากฝนตกหนักมาก โดยเฉพาะบริเวณต้นน้ำของแต่ละสายที่ไหลลงในพื้นที่ อาจทำให้มีน้ำท่วมขังเป็นวงกว้าง ล่าสุดได้ให้เจ้าหน้าที่ทั้ง 13 อำเภอ เร่งสำรวจความเสียหายและออกช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบในเบื้องต้น
ขณะที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ได้เกิดเหตุดินถล่มทับบ้านเลขที่ 3/8 ม.6 บ้านตลาดนิคม ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา เสียหายทั้งหลัง มีผู้เสียชีวิต 4 คน คือ นายอัศนัย อาคมา อายุ 28 ปี นางพาฝัน ไกรวิลาศ อายุ 29 ปี ด.ช.กรณ์ดนัย อาคมา อายุ 5 ขวบ ด.ช.คฑาวุธ อาคมา อายุ 3 ขวบ
นายณรงค์พร ณ พัทลุง นายอำเภอรัตภูมิ จ.สงขลา เปิดเผยถึงปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่จากฝนตกกระหน่ำอย่างหนักมาหลายวันว่า ล่าสุดน้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดและเทือกเขาแก้วทะลักเข้าท่วมฉับพลันถึง 12 หมู่บ้าน โดยเฉพาะ 7 หมู่บ้าน เดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากระดับน้ำสูง 1-2 เมตร ตัดขาดการสัญจร ซึ่งเร่งให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว พร้อมขอสนับสนุนเรือท้องแบนกับเต็นท์ขนาดใหญ่จากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 12 สงขลา และจาก จ.สตูล
นอกจากนี้ ทหาร ร.5 พัน 1 สนับสนุนรถยูนิบ็อก 3 คัน กำลังพลอีก 30 นาย เข้าช่วยเหลือประชาชนออกมาจากพื้นที่เสี่ยง เนื่องจากฝนยังคงตกตลอดเวลา ขณะเดียวกัน จ.สงขลา น้ำท่วม 7 อำเภอ และประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ว คือ อ.เมือง สะบ้าย้อย นาทวี เทพา หาดใหญ่ คลองหอยโข่ง และรัตภูมิ
วานนี้ (6 พ.ย.) หลังจากเกิดฝนตกหนักต่อเนื่องกันมาหลายในพื้นที่ภาคใต้ วันส่งผลให้ประชาชนหลายจังหวัดในพื้นที่ภาคใต้ต้องได้รับผลกระทบอย่างหนักจากน้ำป่าที่ไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือน วัด และสถานที่ราชการ ทำให้หลายจังหวัดต้องสั่งปิดโรงเรียน สถานที่ราชการ โดยไม่มีกำหนด ประชาชนหลายพื้นที่ต้องอพยพไปอยู่ยังพื้นที่ปลอดภัย ขณะที่บางจังหวัดได้ประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบอุทกภัยทั้งจังหวัดแล้ว เช่น จ.ยะลา นราธิวาส ปัตตานี สงขลา พัทลุง พังงา ตรัง สุราษฏร์ธานี และ นครศรีธรรมราช เป็นต้น
โดยเฉพาะที่ อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ได้เกิดดินเชิงเขาหลังหมู่บ้านไอเจี๊ยะ ม.5 ต.ศรีสาคร ถล่มลงมาใส่บ้านเรือนราษฎร 2 หลังจมหายไปในกองดิน มีผู้สูญหาย 8 คน คือ 1.นายสาและ ซาแล 2.นางคอซีเยาะ ซาแล 3.นายกอยา ซาแล 4.นายมาหมะ ซาแล 5.นางซีเสาะ ไม่ทราบนามสกุล 6.ด.ช.ฮามัน ซาแล 7.ด.ช.อาริส ซาแล และ 8.ด.ช.รีฮัน ซาแล ยังไม่ทราบชะตากรรม เนื่องจากเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถนำเครื่องจักรเข้าไปช่วยเหลือได้ เพราะเส้นทางไปยังบ้านหลังดังกล่าวมีน้ำท่วมสูง กระน้ำแสไหลเชี่ยวกราก
ต่อมานายนิพนธ์ นราพิทักษ์กุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้นำคณะทำงานประจำศูนย์อำนวยการเฉพาะกิจป้องกันเหตุอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม ออกตรวจสอบความเสียหาย พร้อมเข้าอำนวยการค้นหาของเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย อส.และชาวบ้านที่ช่วยกันค้นหาผู้สูญหาย 8 ราย
นายนิพนธ์ กล่าวว่า การค้นหาเป็นไปด้วยความลำบาก เพราะยังมีฝนตกต่อเนื่อง และปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งยังไหลเชี่ยว จึงไม่สามารถออกค้นหาด้วยเรือยางได้ ต้องรอให้ฝนหยุดตก แต่เจ้าหน้าที่พยายามค้นหารอบบริเวณบ้านที่มีดินโคลนทับ ซึ่งการตรวจสอบบริเวณบ้านพบว่าพังเสียหายทั้งหมด ข้าวของถูกพัดลงลำธาร คาดว่าทั้ง 8 คน น่าจะถูกน้ำพัดพาไปเช่นกัน
รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ขณะนี้ในพื้นที่นราธิวาสถือว่าอยู่ในขั้นวิกฤติจากฝนตกหนักมาก โดยเฉพาะบริเวณต้นน้ำของแต่ละสายที่ไหลลงในพื้นที่ อาจทำให้มีน้ำท่วมขังเป็นวงกว้าง ล่าสุดได้ให้เจ้าหน้าที่ทั้ง 13 อำเภอ เร่งสำรวจความเสียหายและออกช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบในเบื้องต้น
ขณะที่ อ.บันนังสตา จ.ยะลา ได้เกิดเหตุดินถล่มทับบ้านเลขที่ 3/8 ม.6 บ้านตลาดนิคม ต.ตลิ่งชัน อ.บันนังสตา เสียหายทั้งหลัง มีผู้เสียชีวิต 4 คน คือ นายอัศนัย อาคมา อายุ 28 ปี นางพาฝัน ไกรวิลาศ อายุ 29 ปี ด.ช.กรณ์ดนัย อาคมา อายุ 5 ขวบ ด.ช.คฑาวุธ อาคมา อายุ 3 ขวบ
นายณรงค์พร ณ พัทลุง นายอำเภอรัตภูมิ จ.สงขลา เปิดเผยถึงปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่จากฝนตกกระหน่ำอย่างหนักมาหลายวันว่า ล่าสุดน้ำป่าจากเทือกเขาบรรทัดและเทือกเขาแก้วทะลักเข้าท่วมฉับพลันถึง 12 หมู่บ้าน โดยเฉพาะ 7 หมู่บ้าน เดือดร้อนอย่างหนัก เนื่องจากระดับน้ำสูง 1-2 เมตร ตัดขาดการสัญจร ซึ่งเร่งให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว พร้อมขอสนับสนุนเรือท้องแบนกับเต็นท์ขนาดใหญ่จากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 12 สงขลา และจาก จ.สตูล
นอกจากนี้ ทหาร ร.5 พัน 1 สนับสนุนรถยูนิบ็อก 3 คัน กำลังพลอีก 30 นาย เข้าช่วยเหลือประชาชนออกมาจากพื้นที่เสี่ยง เนื่องจากฝนยังคงตกตลอดเวลา ขณะเดียวกัน จ.สงขลา น้ำท่วม 7 อำเภอ และประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติแล้ว คือ อ.เมือง สะบ้าย้อย นาทวี เทพา หาดใหญ่ คลองหอยโข่ง และรัตภูมิ
