xs
xsm
sm
md
lg

แผนอุ้มแบงก์เหลวCITล้มอีก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ซีไอที กรุ๊ป อิงก์ สถาบันการเงินใหญ่ที่เป็นผู้ปล่อยกู้ให้แก่กิจการขนาดกลางและขนาดย่อมในสหรัฐฯเกือบล้านราย ประกาศขอเข้าสู่ภาวะล้มละลายเมื่อคืนวันอาทิตย์(1) กลายเป็นกรณีกิจการล้มครืนใหญ่เป็นอันดับ 5 ในประวัติศาสตร์ธุรกิจอเมริกัน รวมทั้งเป็นการตีกระหน่ำครั้งใหม่ต่อตลาด ที่หวั่นผวาว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯยังคงอ่อนแอมาก

คำแถลงของคณะกรรมการบริหารซีไอที ระบุว่า ตั้งจุดมุ่งหมายที่จะหลุดพ้นการขอความคุ้มครองจากศาล และออกจากภาวะล้มละลายได้ภายในสิ้นปีนี้ ทั้งนี้บริษัทสามารถทำความตกลงเอาไว้ก่อนแล้ว กับบรรดาเจ้าหนี้ในเรื่องการปรับโครงสร้าง ซึ่งจะทำให้หนี้สินของบริษัทลดลงมาราว 10,000 ล้านดอลลาร์
นักวิเคราะห์จำนวนไม่น้อยมองว่า เนื่องจากคาดหมายกันอย่างกว้างขวางมาแรมเดือนแล้วว่าซีไอทีจะต้องขอความคุ้มครองจากศาลตามหมวด 11 ของกฎหมายล้มละลายสหรัฐฯ ดังนั้นจึงไม่น่าที่จะส่งผลกระทบรุนแรงใหญ่โตในระยะสั้นต่อระบบการเงิน ถึงแม้อาจจะมีสภาพเป็นตัวถ่วงเพิ่มขึ้นอีกอย่างหนึ่ง ที่คอยดึงรั้งการกระเตื้องขึ้นของเศรษฐกิจอเมริกันก็ตามที
กระนั้นก็ตาม ปรากฏว่าปัจจัยนี้มีผลอยู่มากต่อภาวะการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์โตเกียววานนี้(2) โดยดัชนีหุ้นนิกเกอิปิดหล่นวูบลงมา 2.31% เนื่องจากนักลงทุนเกิดความระแวงสงสัยขึ้นมาใหม่ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯจะมีความยั่งยืนแค่ไหน สมทบกับกรณีของซีไอที ซึ่งเป็นผู้ปล่อยกู้รายหลักรายหนึ่งให้แก่บริษัทขนาดกลางและขนาดย่อมร่วมๆ 1 ล้านรายในอเมริกา นอกจากนั้นยังดำเนินกิจการอยู่ในอีก 50 ประเทศ โดยที่เมื่อช่วงกลางปีนี้ ซีไอทีและกิจการในเครือรายงานว่ามีสินทรัพย์ทั้งสิ้น 71,000 ล้านดอลลาร์ และหนี้สิน 64,900 ล้านดอลลาร์
ซีไอทีตกอยู่ในสภาพเช่นเดียวกับธนาคารใหญ่ๆ ของสหรัฐฯหลายๆ แห่ง นั่นคือ มีการดำเนินธุรกิจสินเชื่อผู้บริโภค รวมทั้งสินเชื่อที่อยู่อาศัยให้แก่ลูกค้าด้อยมาตรฐาน (ซับไพรม์) และสินเชื่อเพื่อการศึกษา ขณะที่ระดมหาเงินทุนมาปล่อยกู้ด้วยวิธีแปลงสินเชื่อที่ตนเป็นเจ้าหนี้ให้กลายเป็นตราสารหนี้ (ซีเคียวริไทเซชั่น) ตลอดจนขอกู้ในตลาดตราสารหนี้ ครั้นเมื่อเกิดวิกฤตการเงินซับไพรม์ ซีไอทีจึงประสบความลำบากหนัก ทั้งจากการที่ลูกหนี้จำนวนมากหมดความสามารถในการชำระคืนสินเชื่อ และการที่ภาวะสินเชื่อตึงตัวทำให้ระดมเงินทุนไม่ได้
สถาบันการเงินแห่งนี้ได้รับเงินกู้จากทางการสหรัฐฯตามโครงการบรรเทาสินทรัพย์มีปัญหา (TARP) เป็นจำนวน 2,330 ล้านดอลลาร์เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ทว่าความหวังของซีไอทีที่จะอาศัยฐานะความเป็นผู้ปล่อยกู้รายใหญ่ให้แก่ธุรกิจขนาดเล็กๆ จะทำให้ได้รับความสนับสนุนทางการเมืองมากขึ้นนั้น กลับประสบความล้มเหลว โดยในเดือนกรกฎาคมปีนี้ บรรษัทรับประกันเงินฝากสหรัฐฯ (เอฟดีไอซี) ปฏิเสธไม่ให้การค้ำประกันแก่ตราสารหนี้ของซีไอที บริษัทจึงต้องดิ้นรนหาหนทางอื่นเพื่อระดมเงินทุนมาชำระหนี้สิน
ถึงแม้ในเดือนกรกฎาคม ผู้ถือตราสารหนี้ของซีไอทีกลุ่มหนึ่ง ยินยอมปล่อยกู้ให้บริษัท 3,000 ล้านดอลลาร์โดยมีหลักทรัพย์ค้ำประกัน รวมทั้งยังได้รับเงินกู้ฉุกเฉินจากพวกนักลงทุน 4,500 ล้านดอลลาร์ในวันที่ 28 ตุลาคม ทว่าความช่วยเหลือเหล่านี้ก็เพียงแค่ช่วยต่ออายุให้ซีไอทีไปชั่วคราวเท่านั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น