นายประสิทธิ์ ไพฑูรย์เจริญลาภ ผู้อำนวยการสายงานการเงินและบัญชี บริษัท ชุมพรอุตสาหกรรมน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) ( CPI ) ชี้แจงสาเหตุที่ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 52 ว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 3.73 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 37.62 ล้านบาท หรือกำไรสุทธิลดลง 33.90 ล้านบาท คิดเป็นลดลง 90 % เนื่องจากปัจจัยด้านราคาขายโดยรวมที่ลดลงกว่าปีก่อน ทำให้กำไรขั้นต้นลดลงเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปีที่แล้วและปริมาณขายลดลงกว่าปีก่อนจากยอดขายต่างประเทศ สาเหตุจากราคาตลาดโลกต่ำกว่าราคาในประเทศ
พร้อมกันนี้ CPI ยังแจ้งเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 52 คณะกรรมการบริษัทได้มีมติให้ขายห้องชุดเลขที่ 1168/65 อาคารลุมพินีทาวเวอร์ ชั้น 23 A ถนนพระราม 4 แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร เนื้อที่ 422.60 ตารางเมตร ในราคา 44,000 บาท/ตารางเมตรเป็นเงินทั้งสิ้น 18,594,400 บาท
นายอารีย์ ชวลิตชีวินกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย-เยอรมัน เซรามิค อินดัสทรี่ จำกัด (มหาชน) ( TGCI ) แจ้งผลการดำเนินของบริษัท ไตรมาส 3 ปี 52 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 52 พบว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 48.90 ล้านบาท ขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 317.23 ล้านบาท หรือกำไรเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 366.1 ล้านบาทคิดเป็น 115 % โดยในไตรมาส 3 ปี 51 มีผลขาดทุนสุทธิ 317.2 ล้านบาทซึ่ง
ได้รวมกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ 363.7 ล้านบาทและค่าใช้จ่ายอื่น 621.7 ล้านบาท หากไม่รวมรายการดังกล่าว บริษัทฯมีผลกำไรสุทธิ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 118.6 ล้านบาท ซึ่งผลประกอบการที่ดีขึ้นของบริษัทฯ เกิดจากธุรกิจเซรามิกมีปริมาณการขายเพิ่มขึ้นและมีต้นทุนผลิตต่อหน่วยลดลง ทำให้มีกำไรขั้นต้นสูงกว่าช่วงเดียวกันของปี ก่อน 126.7 ล้านบาทและ มีต้นทุนทางการเงินลดลง 45 % จากการปรับโครงสร้างหนี้
พร้อมกันนี้ CPI ยังแจ้งเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 52 คณะกรรมการบริษัทได้มีมติให้ขายห้องชุดเลขที่ 1168/65 อาคารลุมพินีทาวเวอร์ ชั้น 23 A ถนนพระราม 4 แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร เนื้อที่ 422.60 ตารางเมตร ในราคา 44,000 บาท/ตารางเมตรเป็นเงินทั้งสิ้น 18,594,400 บาท
นายอารีย์ ชวลิตชีวินกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทย-เยอรมัน เซรามิค อินดัสทรี่ จำกัด (มหาชน) ( TGCI ) แจ้งผลการดำเนินของบริษัท ไตรมาส 3 ปี 52 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 52 พบว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 48.90 ล้านบาท ขณะที่งวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 317.23 ล้านบาท หรือกำไรเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 366.1 ล้านบาทคิดเป็น 115 % โดยในไตรมาส 3 ปี 51 มีผลขาดทุนสุทธิ 317.2 ล้านบาทซึ่ง
ได้รวมกำไรจากการปรับโครงสร้างหนี้ 363.7 ล้านบาทและค่าใช้จ่ายอื่น 621.7 ล้านบาท หากไม่รวมรายการดังกล่าว บริษัทฯมีผลกำไรสุทธิ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 118.6 ล้านบาท ซึ่งผลประกอบการที่ดีขึ้นของบริษัทฯ เกิดจากธุรกิจเซรามิกมีปริมาณการขายเพิ่มขึ้นและมีต้นทุนผลิตต่อหน่วยลดลง ทำให้มีกำไรขั้นต้นสูงกว่าช่วงเดียวกันของปี ก่อน 126.7 ล้านบาทและ มีต้นทุนทางการเงินลดลง 45 % จากการปรับโครงสร้างหนี้
