xs
xsm
sm
md
lg

"ศุภรัตน์"ทัวร์ดูไบ บุกบ้านคุยนักโทษ ด่าสื่อเข้าข้างปชป.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการ – “ศุภรัตน์ นาคบุญนำ” พาทัวร์บ้าน “นช.แม้ว” ที่ดูไบ ด่า ปชป. ไม่สุภาพกับ “ฮุน เซน” สอนรัฐบาลไม่ควรประกาศ พรก.ฉุกเฉินเพราะสร้างบรรยากาศไม่ดีให้กับประเทศ แว้งกัดสื่อไทยไม่มีความเป็นมืออาชีพ-ไร้อุดมการณ์ ระบุเพราะสื่อมวลชนเป็นคนใต้ จึงเชียร์ ปชป.

เมื่อวันที่ 28 ต.ค. ที่ผ่านมาสถานีโทรทัศน์และเว็บไซต์ของกลุ่มคนเสื้อแดงได้มีการเผยแพร่รายการสถานีประชาธิปไตย ซึ่งดำเนินรายการโดย น.ส.ศุภรัตน์ นาคบุญนำ อดีตรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีสมัยนายสมัคร สุนทรเวช และอดีตผู้ประกาศข่าวช่อง 7 สี โดยรายการดังกล่าว น.ส.ศุภรัตน์ ได้นำไปชมบ้านของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และผู้หลบหนีคำพิพากษาจำคุก 2 ปีจากศาลฎีกาที่นครดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

ในช่วงต้นรายการดังกล่าวได้นำชมภาพ และบรรยากาศภายในบ้านของ พ.ต.ท.ทักษิณ พร้อมกับการรับประทานส้มตำและอาหารต่างๆ จำนวนมากที่ถูกส่งมาจากประเทศไทย พร้อมทั้งนำภาพการเล่นอินเทอร์เน็ตของ พ.ต.ท.ทักษิณ จากนั้นจึงเป็นช่วงของการสนทนาระหว่าง น.ส.ศุภรัตน์ กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่อยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตแขนสั้นสีฟ้าและกางเกงขายาวสีเทา บนโซฟา

ตอนแรกของการสนทนา พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวว่าตนเองถือเคล็ดไม่ได้กินเนื้อแดงมาเป็นระยะเวลา 5 เดือน ก่อนวันเกิด 2 เดือนและหลังวันเกิด 3 เดือน โดยเพิ่งได้รับประทานก๋วยเตี๋ยวเนื้อเมื่อไม่นานมานี้เองทำให้รู้สึกกระชุ่มกระชวยเป็นอย่างมาก

ต่อมาเมื่อสอบถามถึงกรณีที่ สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ผู้นำกัมพูชา ที่กล่าวชักชวน พ.ต.ท.ทักษิณให้ไปอยู่ที่ประเทศกัมพูชา โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ยืนยันถึงคำชักชวนดังกล่าว แต่ได้กล่าวปฏิเสธโดยอ้างว่าไม่อยากให้สมเด็จฮุน เซนได้รับความลำบาก

“ท่านก็มีบ้าน ไปอยู่ได้เลยในฐานะที่เป็นเพื่อนฝูงกันมาเก่า ... ท่านก็บอก มีความรู้สึกว่า เอาน่ามาอยู่ที่นี่ ไม่เป็นไรหรอก เราเป็นเพื่อนกัน บอกให้สาธารณชนเขารู้ว่าเราเป็นเพื่อนกัน ทำไมอ่ะ เพื่อนก็เพื่อน เพื่อนก็ดูแลกันยามยาก ถ้าไม่ดูแลกันยามยากแล้วจะดูแลกันตอนไหนเล่า” พ.ต.ท.ทักษิณกล่าว พร้อมกล่าวพาดพิงถึงรัฐบาลประชาธิปัตย์ว่ามีท่าทีไม่เป็นผู้ใหญ่จากกรณีที่ไปตอบโต้คำพูดของสมเด็จฮุน เซน ระหว่างการประชุมอาเซียน

นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังตำหนิรัฐบาลจากการใช้มาตรการทางความมั่นคงที่เข้มงวดระหว่างการประชุมอาเซียนที่หัวหินด้วย โดยระบุว่าก่อให้เกิดบรรยากาศที่ไม่ดีแก่ประเทศ ทำให้รู้สึกว่าประเทศไม่ปลอดภัย อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.ทักษิณมิได้กล่าวถึงกรณีในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งกลุ่มคนเสื้อแดงภายใต้การชี้นำของ พ.ต.ท.ทักษิณ บุกไปล้มการประชุมอาเซียนที่พัทยา จ.ชลบุรี และก่อความวุ่นวายทั่วกรุงเทพมหานครแต่อย่างใด

ต่อมาอีกตอนหนึ่ง น.ส.ศุภรัตน์ได้สอบถาม พ.ต.ท.ทักษิณถึงทัศนะต่อความสัมพันธ์ระหว่างสื่อมวลชนในยุคปัจจุบันกับรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคประชาธิปัตย์ โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ตอบว่ารัฐบาลชุดปัจจุบันนั้นมิเพียงแทรกแซงสื่อแต่ยังยึดสื่อ ข่มขู่สื่อ ซื้อสื่อโดยใช้งบประมาณภาครัฐซื้อ ทุกประการ ทุกรูปแบบ

“แต่ดีนะสื่อสมัยนี้ไม่บ่นนะ ทำไมเป็นอย่างนี้รู้ไหม เพราะว่า ต้องเข้าใจก่อนว่า พื้นฐานพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคของคนปักษ์ใต้ แล้วใครเป็นคนปักษ์ใต้ถ้าไม่เลือกประชาธิปัตย์เหมือนกับไม่ใช่คนปักษ์ใต้ โดยที่ไม่สนใจเรื่องอะไรก็จะเลือกคนปักษ์ใต้ แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนนะ แต่ส่วนใหญ่เป็นอย่างนั้น ทีนี้บังเอิญว่าคนมาเป็นสื่อมวลชน 60 เปอร์เซ็นต์เป็นคนใต้ เพราะฉะนั้นยังไงก็ต้องประชาธิปัตย์ไว้ก่อน มันไม่ได้เป็นเรื่องของอุดมการณ์ หรือว่าเป็นเรื่องของการดำรงอาชีพที่มีจริยธรรมในอาชีพ มันไม่ได้เป็นอย่างนั้น”

จากนั้น น.ส.ศุภรัตน์กล่าวเสริมขึ้นว่า “เรียกได้ว่าใช้ทัศนคติ ความเห็นส่วนตัว อคติอะไร เข้าไปใช้ตรงนั้น”

“ใช่ครับ...คือวันนี้เนี่ย ผมพูดตลอดเวลาว่าเขามีคำหนึ่งเขาเรียกว่า ‘โปรเฟสชันนัลลิซึม’ แปลว่า ความเป็นอาชีพ ความเป็นอาชีพ สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือว่าเขามีกติกาแห่งการดำรงอาชีพนั้น แล้วมีจริยธรรม แล้วมีความรู้จริงในอาชีพและวิชาชีพ เพราะฉะนั้นบางคนเขาก็เอาความเป็นส่วนตัว เอาความเป็นภาคนิยมใส่เข้าไป” พ.ต.ท.ทักษิณกล่าวต่อ

ระหว่างการเผยแพร่รายการดังกล่าว ผู้สื่อข่าวยังสังเกตเห็นด้วยว่าทางสถานีดีสเตชั่น ได้มีการปล่อยข้อความจากผู้ชมทางบ้านที่ไม่เหมาะสมขึ้นเผยแพร่เป็นจำนวนมาก อย่างเช่น กรณีข้อความที่เปรียบเทียบว่า พ.ต.ท.ทักษิณ เป็น “มหาราษฎร” ที่เหนือกว่ายศฐาบรรดาศักดิ์ใดๆ.
กำลังโหลดความคิดเห็น