บริษัททัวร์รับอานิสงส์ บริษัทห้างร้านใช้กลยุทธ์กระตุ้นยอดขาย ใช้อินเซนทีฟล่อพนักงาน ส่งผลยอดคนไทยเดินทางเที่ยวต่างประเทศเริ่มกระเตื้อง ต.ค.นี้ดันยอดได้ 75% ของปีก่อน เชื่อถ้าสถานการณ์ประเทศปกติ ภาพรวมทั้งปีติดลบแค่ 15% ปีหน้าผนึกสมาคมท่องเที่ยวจัดงานเที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก 2 ครั้ง
นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า สถานการณ์คนไทยเดินทางเที่ยวต่างประเทศช่วงเดือน ต.ค.นี้เริ่มดีขึ้นโดยมีนักท่องเที่ยวคนไทยเดินทางไปต่างประเทศผ่านบริษัททัวร์ คิดเป็น 75% ของช่วงเดียวกันในปีก่อน ซึ่งเป็นระดับที่น่าพอใจในภาวะที่ไม่ค่อยปกติทั้งเรื่องความวุ่นวายในประเทศและปัญหาเศรษฐกิจโดยหากเหตุการณ์จากนี้ไปไม่มีเหตุวุ่นวาย คาดว่าภาพรวมทั้งปีคนไทยไปเที่ยวต่างประเทศจะลดลงจากปีก่อนเพียง 15-16%
ทั้งนี้ยอมรับว่าตลาดคนไทยเที่ยวต่างประเทศที่ดีกว่าคาดหมายนั้น เป็นอานิสงส์จากแผนกระตุ้นยอดขายของบริษัทเอกชน และ องค์กร ต่างๆ จึงจัดรางวัลให้แก่พนักงาน ได้เดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ เพื่อเป็นอินเซนทีฟ รวมถึงช่วงนี้เป็นระหว่างปิดภาพเรียน กลุ่มครอบครัวก็พาลูกหลานไปเที่ยวต่างประเทศเช่นกัน
“เส้นทางยอดฮิต ที่คนไทยเดินทาง ยังเป็นระยะใกล้ เช่น สิงคโปร์ มาเก๊า ฮ่องกง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายต่อทริปไม่มาก ส่วนเส้นทางระยะไกล แถบยุโรป อเมริกา ตัวเลขยังไม่ดีขึ้นเลย เพราะค่าใช้จ่ายสูง และใช้เวลาเดินทางต่อทริปนาน”
สำหรับสถานการณ์ท่องเที่ยวของคนไทยเส้นทางต่างประเทศระยะไกลแถบยุโรป อเมริกานั้น ซบเซามามากกว่า 1 ปี ซึ่งน่าจะเป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจ ทำให้บริษัทนำเที่ยวที่เคยจัดเส้นทางระยะไกลต่างก็ปรับตัวมาจัดเป็นเส้นทางระยะใกล้ เพื่อให้เกิดรายได้หมุนเวียนเข้ามาในบริษัทบ้าง ส่วนยุโรปแกรม ระยะไกลที่ยังต้องมีอยู่ก็ลดความถี่ของการจัดทริปไปบ้าง เพื่อรอให้ได้ลูกทัวร์คุ้มทุน ขณะที่พฤติกรรมลูกค้ากลับเปลี่ยนเป็นจากเคยวางแผนก่อนการเดินทางนาน 1-2 เดือน ปัจจุบันลดเหลือไม่เกิน 3 สัปดาห์ เพราะต้องการรอราคาโปรโมชั่นที่คุ้มที่สุด
อย่างไรก็ตามในปี 2553 ทีทีเอเอ วางแผนจับมือกับสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ(สทน.) และพันธมิตรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอื่นๆ จัดงาน เที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก 2 ครั้ง จากปกติจะจัดเพียงปีละ 1 ครั้ง ซึ่งเป็นไปตามการเรียกร้องของบริษัทนำเที่ยวที่ขายทัวร์เส้นทางต่างประเทศ(เอาท์บาวน์) เนื่องจากแต่ละครั้งที่มีการจัดงาน บริษัททัวร์สามารถเพิ่มยอดขายได้จริง
“ปีหน้าเรากำหนดจัดงาน 2 ครั้ง เริ่มเดือนก.พ. 53 จัดที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อรองรับให้มีการท่องเที่ยวช่วงปิดเทอมเดือนมี.ค. ส่วนครั้งที่สอง จะจัดเดือน ส.ค. เพื่อต้อนรับปิดเทอมช่วง ต.ค.เช่นกัน แต่ในครั้งที่สองจะมีแพกเกจท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่นปลายปีด้วย” นายเจริญ กล่าวในที่สุด
นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว เปิดเผยว่า สถานการณ์คนไทยเดินทางเที่ยวต่างประเทศช่วงเดือน ต.ค.นี้เริ่มดีขึ้นโดยมีนักท่องเที่ยวคนไทยเดินทางไปต่างประเทศผ่านบริษัททัวร์ คิดเป็น 75% ของช่วงเดียวกันในปีก่อน ซึ่งเป็นระดับที่น่าพอใจในภาวะที่ไม่ค่อยปกติทั้งเรื่องความวุ่นวายในประเทศและปัญหาเศรษฐกิจโดยหากเหตุการณ์จากนี้ไปไม่มีเหตุวุ่นวาย คาดว่าภาพรวมทั้งปีคนไทยไปเที่ยวต่างประเทศจะลดลงจากปีก่อนเพียง 15-16%
ทั้งนี้ยอมรับว่าตลาดคนไทยเที่ยวต่างประเทศที่ดีกว่าคาดหมายนั้น เป็นอานิสงส์จากแผนกระตุ้นยอดขายของบริษัทเอกชน และ องค์กร ต่างๆ จึงจัดรางวัลให้แก่พนักงาน ได้เดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ เพื่อเป็นอินเซนทีฟ รวมถึงช่วงนี้เป็นระหว่างปิดภาพเรียน กลุ่มครอบครัวก็พาลูกหลานไปเที่ยวต่างประเทศเช่นกัน
“เส้นทางยอดฮิต ที่คนไทยเดินทาง ยังเป็นระยะใกล้ เช่น สิงคโปร์ มาเก๊า ฮ่องกง ซึ่งมีค่าใช้จ่ายต่อทริปไม่มาก ส่วนเส้นทางระยะไกล แถบยุโรป อเมริกา ตัวเลขยังไม่ดีขึ้นเลย เพราะค่าใช้จ่ายสูง และใช้เวลาเดินทางต่อทริปนาน”
สำหรับสถานการณ์ท่องเที่ยวของคนไทยเส้นทางต่างประเทศระยะไกลแถบยุโรป อเมริกานั้น ซบเซามามากกว่า 1 ปี ซึ่งน่าจะเป็นผลจากภาวะเศรษฐกิจ ทำให้บริษัทนำเที่ยวที่เคยจัดเส้นทางระยะไกลต่างก็ปรับตัวมาจัดเป็นเส้นทางระยะใกล้ เพื่อให้เกิดรายได้หมุนเวียนเข้ามาในบริษัทบ้าง ส่วนยุโรปแกรม ระยะไกลที่ยังต้องมีอยู่ก็ลดความถี่ของการจัดทริปไปบ้าง เพื่อรอให้ได้ลูกทัวร์คุ้มทุน ขณะที่พฤติกรรมลูกค้ากลับเปลี่ยนเป็นจากเคยวางแผนก่อนการเดินทางนาน 1-2 เดือน ปัจจุบันลดเหลือไม่เกิน 3 สัปดาห์ เพราะต้องการรอราคาโปรโมชั่นที่คุ้มที่สุด
อย่างไรก็ตามในปี 2553 ทีทีเอเอ วางแผนจับมือกับสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวภายในประเทศ(สทน.) และพันธมิตรในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวอื่นๆ จัดงาน เที่ยวทั่วไทยไปทั่วโลก 2 ครั้ง จากปกติจะจัดเพียงปีละ 1 ครั้ง ซึ่งเป็นไปตามการเรียกร้องของบริษัทนำเที่ยวที่ขายทัวร์เส้นทางต่างประเทศ(เอาท์บาวน์) เนื่องจากแต่ละครั้งที่มีการจัดงาน บริษัททัวร์สามารถเพิ่มยอดขายได้จริง
“ปีหน้าเรากำหนดจัดงาน 2 ครั้ง เริ่มเดือนก.พ. 53 จัดที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อรองรับให้มีการท่องเที่ยวช่วงปิดเทอมเดือนมี.ค. ส่วนครั้งที่สอง จะจัดเดือน ส.ค. เพื่อต้อนรับปิดเทอมช่วง ต.ค.เช่นกัน แต่ในครั้งที่สองจะมีแพกเกจท่องเที่ยวช่วงไฮซีซั่นปลายปีด้วย” นายเจริญ กล่าวในที่สุด