เอกชนท่องเที่ยวจี้ สพท.คุ้มเข้มผู้ประกอบการขายทัวร์ผ่านเว็บ ชี้ให้จับเข้าระบบขึ้นทะเบียนรับใบอนุญาต เหตุเป็นกลุ่มที่เน้นขายทัวร์ราคาถูกแต่ไม่รับผิดชอบลูกทัวร์ส่งภาพลักษณ์ธุรกิจเสีย
นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว ในฐานะคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ เปิดเผยว่า ต้องการให้สำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ซึ่งอยู่ในการดูแลของสำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว(สพท.) ปรับปรุงกฎระเบียบข้อบังคับให้เข้มข้นขึ้นเพื่อประโยชน์ของผู้บริโภค โดยเฉพาะในเรื่องของการโฆษณาประชาสัมพันธ์โปรแกรมนำเที่ยวของบริษัททัวร์ ต้องการให้ทุกบริษัทลงเลขที่ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว ใส่ไว้ในรายละเอียดของเนื้อหาที่โฆษณาด้วย เพื่อยืนยันว่าเป็นบริษัทที่มีใบประกอบธุรกิจถูกต้องตามกฎหมาย
ทั้งนี้เพราะหลังจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)ถ่ายโอนงานกำกับดูแลธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์มาอยู่ในความดูแลของสพท. พบว่า ความเข้มข้นในการกำกับดูแลลดน้อยไปมาก โดยเฉพาะสื่อโฆษณาทางเว็บไซน์ ที่จะพบว่าผู้ประกอบการไม่ระบุเลขที่ใบอนุญาตในโฆษณา หรือระบุตัวอักษรเล็กเกินไป มองเห็นไม่ชัด และบางรายไม่ได้มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวจริงๆเป็นเพียงนายหน้าขายแพ็กเกจท่องเที่ยว แต่แอบอ้างทำธุรกิจเหมือนบริษัทนำเที่ยว
นายเจริญ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเคยเสนอที่ประชุมคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ไปบ้างแล้วว่าควรที่จะเชิญชวนผู้ประกอบการที่จำหน่ายตั๋วโดยสารเครื่องบิน ตั๋วโดยสารเรือท่องเที่ยว และแพกเกจท่องเที่ยว ให้มาเข้าระบบ โดยขึ้นทะเบียนกับสำนักธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ เช่นเดียวกับธุรกิจนำเที่ยวอื่นๆด้วย
เพราะผู้ประกอบการเหล่านี้ไม่ได้ทำธุรกิจแค่ขายตั๋ว หรือขายแพกเกจทัวร์เท่านั้น แต่บางรายยังจัดนำเที่ยวเองด้วย ทั้งที่ไม่มีใบอนุญาต และบางรายก็ทำทัวร์โดยใช้ราคานำทำให้ทัวร์ไม่มีคุณภาพ บางรายรับเงินแล้วหนีหายไป ทำให้ผู้บริโภคเกิดความรู้สึกที่ไม่ดีกับผู้ทำธุรกิจนี้ ก่อเกิดให้ลูกค้ามองธุรกิจนี้ในภาพลักษณ์ที่ไม่ดี
“คณะกรรมการฯ บางรายมองว่า ผู้ขายตั๋ว ไม่ต้องขึ้นทะเบียนเหมือนธุรกิจนำเที่ยว เพราะเป็นแค่ผู้ขาย ซึ่งมีกฎหมายอาญาและแพ่ง กำหนดบทลงโทษอยู่แล้ว ทำให้การผลักดันการขึ้นทะเบียนของผู้ประกอบการกลุ่มนี้ไม่คืบหน้า”
พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ฉบับปี 2551 ให้คำนิยามบริษัทนำเที่ยวกว้างขึ้น โดยครอบคลุมว่าธุรกิจนำเที่ยวคือการนำนักท่องเที่ยวเดินทางไปในที่ต่างๆ โดยจัดให้มีบริการหรือการอำนวยความสะดวกอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง อันได้แก่ สถานที่พัก อาหาร มัคคุเทศก์ หรือบริการอื่นใดตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ดังนั้นจึงต้องการให้คำว่าบริการอื่นใดตามที่กำหนดในกฎกระทรวงนั้น ครอบคลุมถึง บริการขายตั๋วโดยสารเครื่องบิน ตั๋วโดยสารเรือท่องเที่ยว ด้วย เพราะเห็นว่า เกือบ 100% ของผู้ประกอบการเหล่านี้ไม่ได้ขายตั๋วอย่างเดียว แต่ทำทัวร์ด้วยกรณีสายการบินที่ขายตั๋วเพียงอย่างเดียวก็ให้ยกเว้นไม่ต้องขึ้นทะเบียนได้ แต่หากเป็นสายการบินที่จัดทัวร์ เช่นทัวร์เอื้องหลวงของการบินไทยก็ควรมาขึ้นทะเบียนด้วย
นายวิโรจน์ สิตประเสริฐนันท์ นายกสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพ ในฐานะคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ กล่าวว่า การผลักดันให้ผู้ประกอบการเหล่านี้ขึ้นทะเบียน โดยส่วนตัวมองว่าน่าจะมีวาระซ่อนเร้น หรือเพื่อต้องการให้บริษัทนำเที่ยวขนาดเล็กอยู่ในระบบนี้ไม่ได้ เพราะไม่มีเงินเพียงพอเสียค่าธรรมเนียม หากปล่อยให้การผลักดันนี้เกิดขึ้นจริงก็เท่ากับเปิดโอกาสให้บริษัทนำเที่ยวรายใหญ่ที่มีสาขาเยอะเท่านั้นที่จะอยู่ได้
นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยบริการท่องเที่ยว ในฐานะคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ เปิดเผยว่า ต้องการให้สำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ซึ่งอยู่ในการดูแลของสำนักงานพัฒนาการท่องเที่ยว(สพท.) ปรับปรุงกฎระเบียบข้อบังคับให้เข้มข้นขึ้นเพื่อประโยชน์ของผู้บริโภค โดยเฉพาะในเรื่องของการโฆษณาประชาสัมพันธ์โปรแกรมนำเที่ยวของบริษัททัวร์ ต้องการให้ทุกบริษัทลงเลขที่ใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว ใส่ไว้ในรายละเอียดของเนื้อหาที่โฆษณาด้วย เพื่อยืนยันว่าเป็นบริษัทที่มีใบประกอบธุรกิจถูกต้องตามกฎหมาย
ทั้งนี้เพราะหลังจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย(ททท.)ถ่ายโอนงานกำกับดูแลธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์มาอยู่ในความดูแลของสพท. พบว่า ความเข้มข้นในการกำกับดูแลลดน้อยไปมาก โดยเฉพาะสื่อโฆษณาทางเว็บไซน์ ที่จะพบว่าผู้ประกอบการไม่ระบุเลขที่ใบอนุญาตในโฆษณา หรือระบุตัวอักษรเล็กเกินไป มองเห็นไม่ชัด และบางรายไม่ได้มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยวจริงๆเป็นเพียงนายหน้าขายแพ็กเกจท่องเที่ยว แต่แอบอ้างทำธุรกิจเหมือนบริษัทนำเที่ยว
นายเจริญ กล่าวว่า ที่ผ่านมาเคยเสนอที่ประชุมคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ไปบ้างแล้วว่าควรที่จะเชิญชวนผู้ประกอบการที่จำหน่ายตั๋วโดยสารเครื่องบิน ตั๋วโดยสารเรือท่องเที่ยว และแพกเกจท่องเที่ยว ให้มาเข้าระบบ โดยขึ้นทะเบียนกับสำนักธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ เช่นเดียวกับธุรกิจนำเที่ยวอื่นๆด้วย
เพราะผู้ประกอบการเหล่านี้ไม่ได้ทำธุรกิจแค่ขายตั๋ว หรือขายแพกเกจทัวร์เท่านั้น แต่บางรายยังจัดนำเที่ยวเองด้วย ทั้งที่ไม่มีใบอนุญาต และบางรายก็ทำทัวร์โดยใช้ราคานำทำให้ทัวร์ไม่มีคุณภาพ บางรายรับเงินแล้วหนีหายไป ทำให้ผู้บริโภคเกิดความรู้สึกที่ไม่ดีกับผู้ทำธุรกิจนี้ ก่อเกิดให้ลูกค้ามองธุรกิจนี้ในภาพลักษณ์ที่ไม่ดี
“คณะกรรมการฯ บางรายมองว่า ผู้ขายตั๋ว ไม่ต้องขึ้นทะเบียนเหมือนธุรกิจนำเที่ยว เพราะเป็นแค่ผู้ขาย ซึ่งมีกฎหมายอาญาและแพ่ง กำหนดบทลงโทษอยู่แล้ว ทำให้การผลักดันการขึ้นทะเบียนของผู้ประกอบการกลุ่มนี้ไม่คืบหน้า”
พ.ร.บ.ธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ฉบับปี 2551 ให้คำนิยามบริษัทนำเที่ยวกว้างขึ้น โดยครอบคลุมว่าธุรกิจนำเที่ยวคือการนำนักท่องเที่ยวเดินทางไปในที่ต่างๆ โดยจัดให้มีบริการหรือการอำนวยความสะดวกอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่าง อันได้แก่ สถานที่พัก อาหาร มัคคุเทศก์ หรือบริการอื่นใดตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ดังนั้นจึงต้องการให้คำว่าบริการอื่นใดตามที่กำหนดในกฎกระทรวงนั้น ครอบคลุมถึง บริการขายตั๋วโดยสารเครื่องบิน ตั๋วโดยสารเรือท่องเที่ยว ด้วย เพราะเห็นว่า เกือบ 100% ของผู้ประกอบการเหล่านี้ไม่ได้ขายตั๋วอย่างเดียว แต่ทำทัวร์ด้วยกรณีสายการบินที่ขายตั๋วเพียงอย่างเดียวก็ให้ยกเว้นไม่ต้องขึ้นทะเบียนได้ แต่หากเป็นสายการบินที่จัดทัวร์ เช่นทัวร์เอื้องหลวงของการบินไทยก็ควรมาขึ้นทะเบียนด้วย
นายวิโรจน์ สิตประเสริฐนันท์ นายกสมาคมมัคคุเทศก์อาชีพ ในฐานะคณะกรรมการธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ กล่าวว่า การผลักดันให้ผู้ประกอบการเหล่านี้ขึ้นทะเบียน โดยส่วนตัวมองว่าน่าจะมีวาระซ่อนเร้น หรือเพื่อต้องการให้บริษัทนำเที่ยวขนาดเล็กอยู่ในระบบนี้ไม่ได้ เพราะไม่มีเงินเพียงพอเสียค่าธรรมเนียม หากปล่อยให้การผลักดันนี้เกิดขึ้นจริงก็เท่ากับเปิดโอกาสให้บริษัทนำเที่ยวรายใหญ่ที่มีสาขาเยอะเท่านั้นที่จะอยู่ได้
