ASTVผู้จัดการรายวัน - บริษัทฮาวายไทยฯ เปิดตัวนวัตกรรมใหม่เส้นใยสังเคราะห์ “ผักตบชวา ดูราวีร่า” ต่อยอดความสำเร็จจากหวายเหมือนธรรมชาติรายแรก เตรียมรุกตลาดในอเมริกาและยุโรป มั่นใจยอดขายเฟอร์นิเจอร์รวมปีนี้ 200 ล้านบาท
นายวิวัฒน์ วิภวพาณิชย์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทฮาวายไทย ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์สานและวัสดุถักทอจากเส้นหวายธรรมชาติ และหวายจากเส้นใยสังเคราะห์ภายใต้ชื่อ ดูราวีร่า “Durawera” เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทดำเนินการผลิตเส้นใยสังเคราะห์ “ดูราวีร่า” มายาวนานกว่า 17 ปี ล่าสุดบริษัทฯ ได้พัฒนาเส้นใยสังเคราะห์ใหม่ ซึ่งเป็นเส้นใยผักตบชวาเหมือนจริง และสามารถนำมาผลิตเฟอร์นิเจอร์ได้
“หลังจากที่ผลิตวัสดุออกมาปรากฏว่าได้รับการตอบรับอย่างดี ปัจจุบันสามารถผลิตเฟอร์นิเจอร์ได้เฉลี่ยวันละ 30-40 ตัว ขณะที่งานเฟอร์นิเจอร์อื่นๆจะผลิตได้วันละประมาณ 180 ตัว และในปีหน้าบริษัทฯ ยังได้เตรียมแผนเปิดตัวดีไซน์ใหม่ผลิตเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากเส้นใยผักตบชวา ดูราวีร่า โดย ดีไซน์เนอร์ชื่อดังจากประเทศสหรัฐอเมริกา และยุโรป ”
สำหรับผลประกอบการโดยรวมของบริษัทฯในปีนี้คาดว่าจะมียอดขายรวม 200 ล้านบาท โดยเป็นยอดขายในประเทศ 50%ส่วนที่เหลือเป็นยอดขายในระเทศ โดยลูกค้ายังเป็นกลุ่มตลาดระดับบนทั้งนี้ที่ผ่านมาสัดส่วนลูกค้าในประเทศจะน้อยกว่าต่างประเทศ แต่ระยะหลังลูกค้าคนไทยเชื่อมั่นในสินค้ามากขึ้น ทำให้บริษัทจะหันมาเน้นรุกตลาดที่ขายแบบ Big Lot มากขึ้น โดยจะเจาะกลุ่มตลาดคอนโดฯ และโครงการหมู่บ้านจัดสรระดับบน เพราะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง
นายวิวัฒน์ วิภวพาณิชย์ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มบริษัทฮาวายไทย ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์สานและวัสดุถักทอจากเส้นหวายธรรมชาติ และหวายจากเส้นใยสังเคราะห์ภายใต้ชื่อ ดูราวีร่า “Durawera” เปิดเผยว่า หลังจากที่บริษัทดำเนินการผลิตเส้นใยสังเคราะห์ “ดูราวีร่า” มายาวนานกว่า 17 ปี ล่าสุดบริษัทฯ ได้พัฒนาเส้นใยสังเคราะห์ใหม่ ซึ่งเป็นเส้นใยผักตบชวาเหมือนจริง และสามารถนำมาผลิตเฟอร์นิเจอร์ได้
“หลังจากที่ผลิตวัสดุออกมาปรากฏว่าได้รับการตอบรับอย่างดี ปัจจุบันสามารถผลิตเฟอร์นิเจอร์ได้เฉลี่ยวันละ 30-40 ตัว ขณะที่งานเฟอร์นิเจอร์อื่นๆจะผลิตได้วันละประมาณ 180 ตัว และในปีหน้าบริษัทฯ ยังได้เตรียมแผนเปิดตัวดีไซน์ใหม่ผลิตเฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากเส้นใยผักตบชวา ดูราวีร่า โดย ดีไซน์เนอร์ชื่อดังจากประเทศสหรัฐอเมริกา และยุโรป ”
สำหรับผลประกอบการโดยรวมของบริษัทฯในปีนี้คาดว่าจะมียอดขายรวม 200 ล้านบาท โดยเป็นยอดขายในประเทศ 50%ส่วนที่เหลือเป็นยอดขายในระเทศ โดยลูกค้ายังเป็นกลุ่มตลาดระดับบนทั้งนี้ที่ผ่านมาสัดส่วนลูกค้าในประเทศจะน้อยกว่าต่างประเทศ แต่ระยะหลังลูกค้าคนไทยเชื่อมั่นในสินค้ามากขึ้น ทำให้บริษัทจะหันมาเน้นรุกตลาดที่ขายแบบ Big Lot มากขึ้น โดยจะเจาะกลุ่มตลาดคอนโดฯ และโครงการหมู่บ้านจัดสรระดับบน เพราะเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง
