ศูนย์ข่าวศรีราชา - ชลประทานในพื้นที่ภาคตะวันออกได้รับ "งบไทยเข้มแข็ง" กว่า 3,000 ล้านบาทเร่งดำเนินการ 5 โครงการขนาดใหญ่ เพื่อบรรเทาอุทกภัยและพัฒนาแหล่งกักเก็บน้ำ
แหล่งข่าวจากกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ทางกรมชลประทาน เตรียมใช้งบลงทุนภายใต้ปฏิบัติการไทยเข้มแข็งในงบประมาณปี 2553 นี้จำนวน 3,283 ล้านบาท สำหรับโครงการชลประทานขนาดใหญ่ ในภาคตะวันออก จำนวน 5 โครงการ ประกอบด้วย 1.โครงการบรรเทาอุทกภัยจันทบุรี (ระยะที่ 2) งบประมาณ 489.52 ล้านบาท การจ้างงาน 800 คน 2.โครงการผันน้ำจากพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ไปยังแหล่งกักเก็บน้ำระยอง 720.23 ล้านบาท จ้างงาน 1,200 คน
3.โครงการผันน้ำจากพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตะวันออก-อ่างเก็บน้ำบางพระ 884.95 ล้านบาท จ้างงาน 1,500 คน 4.โครงการอ่างเก็บน้ำคลองหลวง 180.30 ล้านบาท การจ้างงาน 300 คน และ 5.โครงการวางท่อเชื่อมจากอ่างเก็บน้ำประแสร์ไปอ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ 1,008.00 ล้านบาท ซึ่งโครงการทั้งหมด ใช้งบลงทุนภายใต้ปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง จำนวน 3,283 ล้านบาท
สำหรับโครงการป้องกันและบรรเทาอุทกภัยจังหวัดจันทบุรี (แผนระยะที่ 2) ขณะนี้ได้รับงบประมาณไทยเข้มแข็งเข้ามาดำเนินการแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาได้เตรียมความพร้อม โดยดำเนินการทั้งในส่วนของรูปแบบแปลนการก่อสร้าง และการใช้ที่ดินโดยการเข้าไปดำเนินการขอปันเขตที่ดิน แต่ปรากฏว่าติดปัญหาราษฎรบางส่วนไม่ยินยอม ทางกรมชลประทานจึงขอออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดินเพื่อใช้ในการจัดหาที่ดิน
แหล่งข่าวจากกรมชลประทาน กล่าวต่อไปว่า ส่วนโครงการผันน้ำจากพื้นที่จังหวัดจันทบุรีไปยังแหล่งเก็บกักน้ำจังหวัด ระยอง จะเป็นการวางระบบท่อผันน้ำพร้อมอาคารประกอบจากคลองวังโตนดจังหวัดจันทบุรี ไปยังอ่างเก็บน้ำประแสร์ จังหวัดระยอง ประกอบด้วย การก่อสร้างสถานีสูบน้ำที่บ้านวังประดู่ อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 9 เครื่อง มีอัตราการสูบรวม 5 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ทั้งนี้ จะสูบน้ำจากคลองวังโตนด จ.จันทบุรี ในช่วงฤดูฝน ที่น้ำมีปริมาณสูงเข้าสู่ระบบท่อผันน้ำ วางระบบท่อผันน้ำ โดยแนวท่อจะเริ่มจากสถานีสูบน้ำบ้านวังประดู่ วางขนานไปตามทางหลวงชนบท ผ่านชุมชนต่าง ๆ ไปจนปล่อยน้ำลงอ่างเก็บน้ำประแสร์ รวมความยาวทั้งสิ้น 45.697 กิโลเมตร ปัจจุบันโครงการผันน้ำจากพื้นที่จันทบุรีไปยังแหล่งเก็บกักน้ำจังหวัดระยอง ได้ทำการศึกษาสำรวจออกแบบรายละเอียดโครงการแล้ว และเมื่อมีงบประมาณก็พร้อมจะดำเนินการได้ทันที
ด้านโครงการอ่างเก็บน้ำคลองหลวง เป็นแผนพัฒนาแหล่งน้ำในลุ่มน้ำคลองหลวง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของลุ่มน้ำบางปะกงตอนบนและสาขา สามารถรองรับความต้องการน้ำเพื่ออุปโภค บริโภค อุตสาหกรรม การท่องเที่ยวและเกษตรกรรม ทั้งในปัจจุบันและความต้องการในอนาคต
สำหรับอ่างเก็บน้ำคลองหลวงมีความจุ 98.0 ล้านลูกบาศก์เมตร มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแหล่งน้ำต้นทุนให้แก่พื้นที่ชลประทาน 44,000 ไร่ รวมทั้งยังเป็นแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค การอุตสาหกรรมให้แก่พื้นที่ท้ายน้ำอ่างเก็บน้ำ และยังสามารถช่วยบรรเทาอุทกภัยที่เกิดขึ้นเป็นประจำในพื้นที่อำเภอพานทอง อำเภอพนัสนิคม อำเภอเกาะจันทร์ อำเภอบ่อทอง และอำเภอเมืองชลบุรี ได้อีกด้วย
ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ก่อสร้าง ได้ดำเนินการปักหลักเขต บริเวณเขื่อนหลัก เขื่อนรอง และดำเนินการปักหลักแนวชลประทานไปตามเป้าหมายที่วางไว้ คาดว่าการปักหลักเขตจะแล้วเสร็จในเร็วๆนี้ ดังนั้น หากสามารถดำเนินการโครงการตามแผนการพัฒนาลุ่มน้ำคลองหลวงได้ จะสามารถก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคมให้แก่ชุมชนในพื้นที่เป็นอย่างยิ่ง
แหล่งข่าวจากกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ทางกรมชลประทาน เตรียมใช้งบลงทุนภายใต้ปฏิบัติการไทยเข้มแข็งในงบประมาณปี 2553 นี้จำนวน 3,283 ล้านบาท สำหรับโครงการชลประทานขนาดใหญ่ ในภาคตะวันออก จำนวน 5 โครงการ ประกอบด้วย 1.โครงการบรรเทาอุทกภัยจันทบุรี (ระยะที่ 2) งบประมาณ 489.52 ล้านบาท การจ้างงาน 800 คน 2.โครงการผันน้ำจากพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ไปยังแหล่งกักเก็บน้ำระยอง 720.23 ล้านบาท จ้างงาน 1,200 คน
3.โครงการผันน้ำจากพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตะวันออก-อ่างเก็บน้ำบางพระ 884.95 ล้านบาท จ้างงาน 1,500 คน 4.โครงการอ่างเก็บน้ำคลองหลวง 180.30 ล้านบาท การจ้างงาน 300 คน และ 5.โครงการวางท่อเชื่อมจากอ่างเก็บน้ำประแสร์ไปอ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ 1,008.00 ล้านบาท ซึ่งโครงการทั้งหมด ใช้งบลงทุนภายใต้ปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง จำนวน 3,283 ล้านบาท
สำหรับโครงการป้องกันและบรรเทาอุทกภัยจังหวัดจันทบุรี (แผนระยะที่ 2) ขณะนี้ได้รับงบประมาณไทยเข้มแข็งเข้ามาดำเนินการแล้ว ซึ่งที่ผ่านมาได้เตรียมความพร้อม โดยดำเนินการทั้งในส่วนของรูปแบบแปลนการก่อสร้าง และการใช้ที่ดินโดยการเข้าไปดำเนินการขอปันเขตที่ดิน แต่ปรากฏว่าติดปัญหาราษฎรบางส่วนไม่ยินยอม ทางกรมชลประทานจึงขอออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดินเพื่อใช้ในการจัดหาที่ดิน
แหล่งข่าวจากกรมชลประทาน กล่าวต่อไปว่า ส่วนโครงการผันน้ำจากพื้นที่จังหวัดจันทบุรีไปยังแหล่งเก็บกักน้ำจังหวัด ระยอง จะเป็นการวางระบบท่อผันน้ำพร้อมอาคารประกอบจากคลองวังโตนดจังหวัดจันทบุรี ไปยังอ่างเก็บน้ำประแสร์ จังหวัดระยอง ประกอบด้วย การก่อสร้างสถานีสูบน้ำที่บ้านวังประดู่ อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 9 เครื่อง มีอัตราการสูบรวม 5 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
ทั้งนี้ จะสูบน้ำจากคลองวังโตนด จ.จันทบุรี ในช่วงฤดูฝน ที่น้ำมีปริมาณสูงเข้าสู่ระบบท่อผันน้ำ วางระบบท่อผันน้ำ โดยแนวท่อจะเริ่มจากสถานีสูบน้ำบ้านวังประดู่ วางขนานไปตามทางหลวงชนบท ผ่านชุมชนต่าง ๆ ไปจนปล่อยน้ำลงอ่างเก็บน้ำประแสร์ รวมความยาวทั้งสิ้น 45.697 กิโลเมตร ปัจจุบันโครงการผันน้ำจากพื้นที่จันทบุรีไปยังแหล่งเก็บกักน้ำจังหวัดระยอง ได้ทำการศึกษาสำรวจออกแบบรายละเอียดโครงการแล้ว และเมื่อมีงบประมาณก็พร้อมจะดำเนินการได้ทันที
ด้านโครงการอ่างเก็บน้ำคลองหลวง เป็นแผนพัฒนาแหล่งน้ำในลุ่มน้ำคลองหลวง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของลุ่มน้ำบางปะกงตอนบนและสาขา สามารถรองรับความต้องการน้ำเพื่ออุปโภค บริโภค อุตสาหกรรม การท่องเที่ยวและเกษตรกรรม ทั้งในปัจจุบันและความต้องการในอนาคต
สำหรับอ่างเก็บน้ำคลองหลวงมีความจุ 98.0 ล้านลูกบาศก์เมตร มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแหล่งน้ำต้นทุนให้แก่พื้นที่ชลประทาน 44,000 ไร่ รวมทั้งยังเป็นแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค การอุตสาหกรรมให้แก่พื้นที่ท้ายน้ำอ่างเก็บน้ำ และยังสามารถช่วยบรรเทาอุทกภัยที่เกิดขึ้นเป็นประจำในพื้นที่อำเภอพานทอง อำเภอพนัสนิคม อำเภอเกาะจันทร์ อำเภอบ่อทอง และอำเภอเมืองชลบุรี ได้อีกด้วย
ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ก่อสร้าง ได้ดำเนินการปักหลักเขต บริเวณเขื่อนหลัก เขื่อนรอง และดำเนินการปักหลักแนวชลประทานไปตามเป้าหมายที่วางไว้ คาดว่าการปักหลักเขตจะแล้วเสร็จในเร็วๆนี้ ดังนั้น หากสามารถดำเนินการโครงการตามแผนการพัฒนาลุ่มน้ำคลองหลวงได้ จะสามารถก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคมให้แก่ชุมชนในพื้นที่เป็นอย่างยิ่ง
