xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์”ถก50สมาคมดันส่งออก เอกชนแนะรัฐแก้กีดกันการค้า

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-“พาณิชย์”เชิญ 50 สมาคมส่งออกถกแผนดันส่งออกปีนี้และปีหน้า หลังเห็นสัญญาณฟื้นตัว คาดปีนี้ยอดยังคงติดลบ แต่ปีหน้าเป็นบวกได้แน่ เอกชนแนะรัฐช่วยจับตาการใช้มาตรการกีดกันทางการค้าที่จะมีมากขึ้น โดยเฉพาะมาตรการเอดี เผยล่าสุดไทยถูกฟ้องแล้วกว่า 100 คดี

นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก เปิดเผยว่า กรมฯ ได้เชิญภาคเอกชนกว่า 50 สมาคมที่เกี่ยวข้องกับสินค้าเกษตร สินค้าอุตสาหกรรมเกษตร สินค้าอาหาร สินค้าอุตสาหกรรมสำคัญและธุรกิจบริการ มาหารือเพื่อรับฟังสถานการณ์ทางการค้าระหว่างประเทศ สถานการณ์การส่งออกและปัญหาอุปสรรคทางการค้าที่เกิดขึ้นรวมทั้งข้อเสนอแนะจากภาคเอกชนเพื่อเป็นแนวทางในการเร่งรัดการส่งออกของไทยให้มีมูลค่าและปริมาณเพิ่มขึ้นในปีนี้และวางแผนสำหรับการผลักดันการส่งออกในปีหน้า

“เป็นการหารือเพื่อรับฟังข้อเสนอแนะจากภาคเอกชนว่าจะผลักดันการส่งออกในช่วงที่เหลือของปีนี้อย่างไร มีปัญหาอุปสรรคอะไรที่จะต้องแก้ไข เพื่อผลักดันให้การส่งออกขยายตัวดีขึ้น โดยมั่นใจว่าการส่งออกจากนี้ไป กำลังจะดีขึ้น หลังจากที่ขยายตัวติดลบมาก่อนหน้านี้ แต่ภาพรวมทั้งปีน่าจะติดลบระหว่าง 10-18% แต่จะพยายามให้ติดลบน้อยกว่านี้ให้ได้ ส่วนปีหน้าน่าจะขยายตัวเป็นบวกได้ไม่ต่ำกว่า 10%”นายราเชนทร์กล่าว

นายเจน นำชัยศิริ รองเลขาธิการสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) กล่าวว่า ได้เสนอให้รัฐเดินหน้าการบุกเจาะตลาดส่งออก โดยเฉพาะตลาดใหม่ๆ แต่ต้องไม่ละทิ้งตลาดหลัก และจะต้องช่วยดูแลในเรื่องการนำมาตรการกีดกันทางการค้ามาใช้ เพราะขณะนี้ทั้งสหรัฐฯ สหภาพยุโรป (อียู) รวมทั้งจีน อินเดีย ได้มีการนำมาตรการกีดกันทางการค้ามาใช้เพิ่มมาขึ้นโดยเฉพาะการใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด (เอดี)

“อยากขอให้ภาครัฐช่วยสอดส่องดูแล และให้ความช่วยเหลือ โดยเฉพาะกรณีสินค้าไทยถูกเรียกเก็บเอดี ที่แต่เดิมรัฐมีกองทุนช่วยเหลือในการสู้คดี แต่ปัจจุบันได้ยกเลิกไปแล้ว เพราะในการสู้คดีแต่ละครั้งต้องใช้เงินไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท ถือเป็นภาระให้กับผู้ประกอบการอย่างมาก ยิ่งเป็นรายกลางรายเล็กยิ่งมีปัญหาจึงอยากให้รัฐเข้ามาช่วยดูแลในการต่อสู้คดี”นายเจนกล่าว

นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิพล รองประธานสอท. กล่าวว่า ปัจจุบันมีเอกชนถูกฟ้องร้องเอดีแล้วไม่ต่ำกว่า 100 คดีบางคดีต้องใช้เงินมากถึง 11 ล้านบาท โดยสินค้าที่เสี่ยงจะถูกฟ้องร้องเอดี ได้แก่ เหล็ก อาหาร พลาสติก กระจก ส่วนข้อเสนอของสอท.เพื่อดูแลการส่งออก ได้แก่ การดูแลต้นทุนสินค้าเพื่อให้แข่งขันได้ การดูแลค่าเงินบาทให้มีเสถียรภาพ รวมถึงการหาตลาดใหม่ที่เหมาะสมกับสินค้าแต่ละรายการ

นายพรศิลป์ พัชรินทร์ตนะกุล กรรมการรองเลขาธิการหอการค้าไทย กล่าวว่า อยากให้รัฐกำหนดมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อมเอง โดยเฉพาะเรื่องการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ คาร์บอน แทรก) มาตรการอนุรักษ์น้ำ โดยไม่ต้องรอให้ประเทศอย่างสหรัฐฯ อียู เป็นผู้กำหนด เนื่องจากทิศทางการค้าปัจจุบันจะมีการนำมาตรการที่ไม่ใช่ภาษีมาเป็นข้อกำหนดทางการค้ามากขึ้น นอกจากนี้รัฐควรดูแลเสถียรภาพค่าเงินบาท เพราะจะมีส่วนช่วยโดยตรงต่อสินค้ากลุ่มอาหารและสินค้าเกษตรที่มีวัตถุดิบในประเทศเป็นส่วนใหญ่
กำลังโหลดความคิดเห็น