รอยเตอร์ – หน่วยคอมมานโดของปากีสถาน จู่โจมอาคารที่ทำการหลังหนึ่งของกองทัพเมื่อวานนี้ (11) และช่วยเหลือตัวประกัน 39 คนซึ่งถูกกลุ่มคนร้ายที่คาดกันว่าเป็นพวกหัวรุนแรงตอลิบานจับตัวเอาไว้ หลังจากที่คนร้ายเหล่านี้ก่อเหตุบุกโจมตีกองบัญชาการกองทัพปากีสถานอย่างอุกอาจในวันเสาร์(10)
การจู่โจมกองบัญชาการกองทัพปากีสถาน ซึ่งอยู่ที่เมืองราวัลปินดี ใกล้ๆ นครหลวงอิสลามาบัดในวันเสาร์ เกิดขึ้นในระหว่างที่กองทัพกำลังเตรียมเปิดยุทธการเข้ากวาดล้างที่มั่นของพวกตอลิบานในเขตเซาท์วาซิริสถาน บริเวณชายแดนติดกับอัฟกานิสถาน และทำให้เกิดคำถามว่าเป็นความจริงอย่างที่รัฐบาลป่าวร้องหรือไม่ ที่ว่าพวกหัวรุนแรงต้องประสบความเพลี่ยงพล้ำหลายๆ ครั้งในระยะหลังๆ มานี้จนอยู่ในสภาพซวนเซย่ำแย่
“ขณะนี้ไม่มีผู้ก่อการร้ายหลงเหลืออีกแล้ว ปฏิบัติการสำเร็จลุล่วงแล้ว” พล.ต.อาธาร์ อับบาส โฆษกกองทัพปากีสถานระบุ และว่ามีตัวประกัน 3 คน หน่วยคอมมานโด 2 นาย กับคนร้าย 4 คน เสียชีวิตในระหว่างปฏิบัติการช่วยตัวประกัน หลังจากที่รัฐบาลเปิดฉากจู่โจมตั้งแต่เช้ามืดวานนี้ นอกจากนั้นยังมีคนร้ายที่ได้รับบาดเจ็บถูกจับกุมตัวไว้คนหนึ่ง ซึ่งอับบาสบอกว่าเป็นหัวหน้ากลุ่มคนร้ายเหล่านี้
ช่วงสองสามปีที่ผ่านมา พวกหัวรุนแรงตอลิบานส่วนที่อยู่ในปากีสถาน ซึ่งเชื่อมโยงกับกลุ่มอัลกออิดะห์ ได้ก่อเหตุรุนแรงหลายครั้ง ส่วนใหญ่พุ่งเป้าหมายที่รัฐบาลและกองกำลังรักษาความมั่นคง รวมทั้งก่อเหตุระเบิดหลายครั้งในเมืองราวัลปินดีด้วย
เมื่อวันเสาร์ กลุ่มคนร้ายซึ่งแต่งเครื่องแบบทหาร ได้เข้าโจมตีกองบัญชาการของกองทัพ สังหารทหารไป 6 คน รวมทั้งนายพลจัตวาและพันโทผู้หนึ่ง ระหว่างเกิดการต่อสู้กันที่บริเวณประตูทางเข้า
ส่วนฝ่ายคนร้ายถูกสังหารไป 5 คน และอีก 2 คนที่ได้รับบาดเจ็บได้ถูกจับกุมตัว ทว่าคนอื่นๆ ได้หลบหนีและจับตัวประกันในอาคารหลังหนึ่งซึ่งเป็นที่ทำการของพวกหน่วยงานรักษาความปลอดภัย บริเวณใกล้ๆ กับกองบัญชาการกองทัพ
หน่วยคอมมานโดบุกจู่โจมเข้าอาคารหลังนั้น ขณะที่ท้องฟ้ายังมืดมิด และมีเสียงระเบิดและเสียงปืนคำรามขึ้นในเวลา 6.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับ 7.00 น.เวลาเมืองไทย)
“พวกตัวประกันอยู่รวมกันในห้องๆ หนึ่ง โดยมีผู้ก่อการร้ายคนหนึ่งที่สวมแจ็คเก็ตติดระเบิดฆ่าตัวตายคอยเฝ้าอยู่ แต่หน่วยคอมมานโดบุกจู่โจมอย่างรวดเร็วและยิงเขาล้มลงก่อนที่จะทันดึงสลักระเบิด” อับบาสเล่าถึงการช่วยเหลือพวกตัวประกันกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่ง และบอกอีกว่ามีตัวประกัน 3 คนเสียชีวิตในระหว่างปฏิบัติการช่วยเหลือ แต่ที่เหลือนอกจากนั้นปลอดภัย
อับบาสยังระบุตัวคนร้ายที่ถูกจับตัวเมื่อวานนี้ว่าชื่อ อากีล และมีฉายาว่า ดร.อุสมาน บุคคลผู้นี้ได้ถูกพวกหัวรุนแรงซึ่งจับกุมได้คราวก่อนๆ ระบุว่าเป็นผู้วางแผนเข้าโจมตีนักกีฬาคริกเก็ตทีมชาติศรีลังกา ซึ่งเดินทางมาแข่งขันที่เมืองละฮอร์ ของปากีสถานเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ปฏิบัติการโจมตีกองบัญชาการกองทัพปากีสถานคราวนี้ บังเกิดขึ้นภายหลังเกิดเหตุรุนแรงต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ที่แล้ว โดยตั้งแต่วันจันทร์ (5) เกิดระเบิดฆ่าตัวตายที่สำนักงานแห่งหนึ่งของสหประชาชาติในกรุงอิสลามาบัด ทำให้เจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติเสียชีวิต 5 คน หลังจากนั้นในวันศุกร์ (9) ก็เกิดเหตุระเบิดอีกครั้งหนึ่งในเมืองเปชวาร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 49 คน
เรห์มาน มาลิก รัฐมนตรีมหาดไทยปากีสถานบอกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเปชวาร์ อิสลามาบัด และคราวเกิดขึ้นล่าสุดนี้ ล้วนเกี่ยวข้องกับพวกหัวรุนแรงที่ตั้งฐานอยู่ในเซาท์วาซิริสถานทั้งสิ้น ตอนนี้รัฐบาลไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้ปฏิบัติการรุกตอบโต้
ทางด้านรัฐมนตรีต่างประเทศ ฮิลลารี คลินตัน ของสหรัฐฯ ได้แถลงเมื่อวันเสาร์ ประณามการเข้าโจมตีกองบัญชาการทหารปากีสถานของพวกหัวรุนแรง นอกจากนั้นเธอกับรัฐมนตรีต่างประเทศ เดวิด มิลิแบนด์ ของอังกฤษ ต่างกล่าวแสดงความเชื่อมั่นต่อการรักษาความปลอดภัยสถานที่เก็บรักษาอาวุธนิวเคลียร์ของปากีสถาน
การจู่โจมกองบัญชาการกองทัพปากีสถาน ซึ่งอยู่ที่เมืองราวัลปินดี ใกล้ๆ นครหลวงอิสลามาบัดในวันเสาร์ เกิดขึ้นในระหว่างที่กองทัพกำลังเตรียมเปิดยุทธการเข้ากวาดล้างที่มั่นของพวกตอลิบานในเขตเซาท์วาซิริสถาน บริเวณชายแดนติดกับอัฟกานิสถาน และทำให้เกิดคำถามว่าเป็นความจริงอย่างที่รัฐบาลป่าวร้องหรือไม่ ที่ว่าพวกหัวรุนแรงต้องประสบความเพลี่ยงพล้ำหลายๆ ครั้งในระยะหลังๆ มานี้จนอยู่ในสภาพซวนเซย่ำแย่
“ขณะนี้ไม่มีผู้ก่อการร้ายหลงเหลืออีกแล้ว ปฏิบัติการสำเร็จลุล่วงแล้ว” พล.ต.อาธาร์ อับบาส โฆษกกองทัพปากีสถานระบุ และว่ามีตัวประกัน 3 คน หน่วยคอมมานโด 2 นาย กับคนร้าย 4 คน เสียชีวิตในระหว่างปฏิบัติการช่วยตัวประกัน หลังจากที่รัฐบาลเปิดฉากจู่โจมตั้งแต่เช้ามืดวานนี้ นอกจากนั้นยังมีคนร้ายที่ได้รับบาดเจ็บถูกจับกุมตัวไว้คนหนึ่ง ซึ่งอับบาสบอกว่าเป็นหัวหน้ากลุ่มคนร้ายเหล่านี้
ช่วงสองสามปีที่ผ่านมา พวกหัวรุนแรงตอลิบานส่วนที่อยู่ในปากีสถาน ซึ่งเชื่อมโยงกับกลุ่มอัลกออิดะห์ ได้ก่อเหตุรุนแรงหลายครั้ง ส่วนใหญ่พุ่งเป้าหมายที่รัฐบาลและกองกำลังรักษาความมั่นคง รวมทั้งก่อเหตุระเบิดหลายครั้งในเมืองราวัลปินดีด้วย
เมื่อวันเสาร์ กลุ่มคนร้ายซึ่งแต่งเครื่องแบบทหาร ได้เข้าโจมตีกองบัญชาการของกองทัพ สังหารทหารไป 6 คน รวมทั้งนายพลจัตวาและพันโทผู้หนึ่ง ระหว่างเกิดการต่อสู้กันที่บริเวณประตูทางเข้า
ส่วนฝ่ายคนร้ายถูกสังหารไป 5 คน และอีก 2 คนที่ได้รับบาดเจ็บได้ถูกจับกุมตัว ทว่าคนอื่นๆ ได้หลบหนีและจับตัวประกันในอาคารหลังหนึ่งซึ่งเป็นที่ทำการของพวกหน่วยงานรักษาความปลอดภัย บริเวณใกล้ๆ กับกองบัญชาการกองทัพ
หน่วยคอมมานโดบุกจู่โจมเข้าอาคารหลังนั้น ขณะที่ท้องฟ้ายังมืดมิด และมีเสียงระเบิดและเสียงปืนคำรามขึ้นในเวลา 6.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับ 7.00 น.เวลาเมืองไทย)
“พวกตัวประกันอยู่รวมกันในห้องๆ หนึ่ง โดยมีผู้ก่อการร้ายคนหนึ่งที่สวมแจ็คเก็ตติดระเบิดฆ่าตัวตายคอยเฝ้าอยู่ แต่หน่วยคอมมานโดบุกจู่โจมอย่างรวดเร็วและยิงเขาล้มลงก่อนที่จะทันดึงสลักระเบิด” อับบาสเล่าถึงการช่วยเหลือพวกตัวประกันกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่ง และบอกอีกว่ามีตัวประกัน 3 คนเสียชีวิตในระหว่างปฏิบัติการช่วยเหลือ แต่ที่เหลือนอกจากนั้นปลอดภัย
อับบาสยังระบุตัวคนร้ายที่ถูกจับตัวเมื่อวานนี้ว่าชื่อ อากีล และมีฉายาว่า ดร.อุสมาน บุคคลผู้นี้ได้ถูกพวกหัวรุนแรงซึ่งจับกุมได้คราวก่อนๆ ระบุว่าเป็นผู้วางแผนเข้าโจมตีนักกีฬาคริกเก็ตทีมชาติศรีลังกา ซึ่งเดินทางมาแข่งขันที่เมืองละฮอร์ ของปากีสถานเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
ปฏิบัติการโจมตีกองบัญชาการกองทัพปากีสถานคราวนี้ บังเกิดขึ้นภายหลังเกิดเหตุรุนแรงต่อเนื่องตลอดสัปดาห์ที่แล้ว โดยตั้งแต่วันจันทร์ (5) เกิดระเบิดฆ่าตัวตายที่สำนักงานแห่งหนึ่งของสหประชาชาติในกรุงอิสลามาบัด ทำให้เจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติเสียชีวิต 5 คน หลังจากนั้นในวันศุกร์ (9) ก็เกิดเหตุระเบิดอีกครั้งหนึ่งในเมืองเปชวาร์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 49 คน
เรห์มาน มาลิก รัฐมนตรีมหาดไทยปากีสถานบอกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในเปชวาร์ อิสลามาบัด และคราวเกิดขึ้นล่าสุดนี้ ล้วนเกี่ยวข้องกับพวกหัวรุนแรงที่ตั้งฐานอยู่ในเซาท์วาซิริสถานทั้งสิ้น ตอนนี้รัฐบาลไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้ปฏิบัติการรุกตอบโต้
ทางด้านรัฐมนตรีต่างประเทศ ฮิลลารี คลินตัน ของสหรัฐฯ ได้แถลงเมื่อวันเสาร์ ประณามการเข้าโจมตีกองบัญชาการทหารปากีสถานของพวกหัวรุนแรง นอกจากนั้นเธอกับรัฐมนตรีต่างประเทศ เดวิด มิลิแบนด์ ของอังกฤษ ต่างกล่าวแสดงความเชื่อมั่นต่อการรักษาความปลอดภัยสถานที่เก็บรักษาอาวุธนิวเคลียร์ของปากีสถาน
