ASTVผู้จัดการรายวัน - ประชุมใหญ่สมาชิก “ก.ม.ม.” ครั้งแรกวันนี้ “สุริยะใส” เผยพร้อมเต็มพิกัด เปิดประชุม 9.00 น. “สมศักดิ์” เป็นประธาน คาดสมาชิกเข้าร่วม 5 พันคนจากยอดล่าสุดเฉียด 9 พัน เผยสร้างมิติใหม่ครั้งแรกของวงการเมืองไทย ให้สมาชิกทุกคนมีสิทธิร่วมประชุม คาดไม่เกินช่วงค่ำได้หัวหน้าพรรคคนใหม่พร้อมกรรมการบริหารพรรคครบชุด ก่อนเปิดตัวตอน 2 ทุ่ม ลงหลักปักฐานพรรคการเมืองของพันธมิตรฯ
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในฐานะเลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ (ก.ม.ม.) กล่าวผ่านรายการ “เวทีชาวบ้าน เวทีพันธมิตรฯ” ทางเอเอสทีวี เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 5 ต.ค.ถึงการประชุมใหญ่สมาชิกพรรคการเมืองใหม่ครั้งที่ 1 ในวันที่ 6 ต.ค.ที่อาคารธันเดอร์โดม เมืองทองธานีว่า กรรมการบริหารพรรคและเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ เพิ่งประชุมกันเสร็จ และทุกฝ่ายพร้อมเต็มที่แล้วที่จะประชุมใหญ่ของพรรค หลังจากมีการเตรียมการมาตลอด 2 สัปดาห์สำหรับการประชุมครั้งนี้
รูปแบบการประชุมสมาชิกพรรคการเมืองใหม่ครั้งนี้จะแตกต่างจากการประชุมพรรคการเมืองอื่นๆ ที่เคยทำมา โดยเฉพาะการให้สมาชิกทั้งประเทศ ซึ่งตัวเลขล่าสุดที่ได้รับการรับรองจากกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แล้วจำนวน 8,927 คน ทั้งหมดเป็นองค์ประชุม ทุกคนมีสิทธิเข้าร่วมประชุมและถูกเชิญประชุมจากกรมการบริหารพรรค ซึ่ง 1.ไม่มีพรรคการเมืองไหนทำกัน 2.พรรคต่างๆ ที่ทำกันคือใช้องค์ประชุมแค่ 200 คน ฉะนั้นนี้เมื่อองค์ประชุมมันใหญ่ จึงต้องใช้อาคารธันเดอร์โดม ซึ่งเราหวังว่า สมาชิกจะมาประชุมราว 4-5 พันคน เพราะสมาชิกที่อายุมากแล้วและสมัครสมาชิกอยู่ต่างจังหวัดอาจไม่สะดวกที่มา แต่ก็สามารถรับชมการถ่ายทอดสดได้ทาง เอเอสทีวี News1 ซึ่งเป็นกาว่าจ้างให้ถ่ายทอดให้
สำหรับวาระการประชุม นายสุริยะใส กล่าวว่า จะเปิดโต๊ะลงทะเบียนตั้งแต่เวลา 06.00 น. เนื่องจากสมาชิกต่างจังหวัดจะมาแต่เช้า ซึ่งเมื่อสมาชิกมาลงทะเบียนจะต้องยื่นบัตรประชาชนให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่าเป็นสมาชอกพรรคจริงหรือไม่ เมื่อตรวจสอบเสร็จเจ้าหน้าที่จะให้บัตรสมาชิกที่ติดไว้กับตัวตลอด เพื่อป้องกันบุคคลภายนอกเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการประชุม เช่น ไปรับบัตรลงคะแนน ซึ่งอาจจะมีคนนำไปร้องเรียน กกต.เป็นเหตุให้มีการยุบพรรคได้ โดยบุคคลภายนอกที่จะไปสังเกตการประชุมนั้นจะจัดพื้นที่พิเศษไว้ให้ต่างหาก
เมื่อสมาชิกได้รับบัตรแล้ว เจ้าหน้าที่จะพาไปห้องประชุม ซึ่งเป็นยิมเนเซียม มีที่นั่งเป็นอัฒจันทร์สำหรับชมกีฬา โดยให้นั่งตามลำดับเลขที่สมาชิก และมีบัลลังก็สำหรับประธานในที่ประชุมคือนายสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน อยู่ด้านบน จึงเป็นการจำลองแบบการประชุมของชาวเมืองเอเธนส์ ต้นแบบประชาธิปไตยในอดีต
วาระการประชุมจะเริ่ม 09.00 น. โดยเมื่อถึงเวลา จะมีการกดออดเรียกประชุม หลังจากนั้นประธานฯ จะกล่าวอะไรสั้นๆ กับสมาชิกเล็กน้อย เสร็จแล้ว จะเข้าวาระที่ 1 คือรายงานการดำเนินงานของพรรคในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา เช่น การรับสมาชิก การตั้งสาขาพรรค เงินบริจาค ค่าใช้จ่าย โดยวาระนี้จะใช้เวลาประมาณ 30 นาที เสร็จแล้วจะเป็นวาระพิจารณารับรองแผนการดำเนินงานของพรรคในปีต่อไป ซึ่งใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง
หลังจากนั้นจะเข้าสู่วาระเลือกตั้ง ซึ่งค่อนข้างจะซับซ้อนพอสมควรโดยวาระเลือกตั้งวาระแรกคือการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค ซึ่งก่อนที่จะเลือกตั้งหัวหน้าพรรค ประธานจะถามที่ประชุมก่อนว่า พรรคจะมีกรรมการบริหารพรรคกี่คน ซึ่งปัจจุบันมี 27 คน ก็อาจกำหนดใหม่ สมมุติว่าให้มี 19 คน ขั้นตอนต่อไปก็เลือกตั้งหัวหน้าพรรคก่อน โดยเปิดให้สมาชิกเสนอชื่อหัวหน้าพรรค ซึ่งสมาชิกทุกคนไม่ว่าจะมาจากภาคไหน ถ้ามีสิทธิประชุมก็มีสิทธิเสนอว่าใครควรเป็นหัวหน้าพรรค โดยให้มีคนรับรองการเสนอชื่อ 20 เสียง
เมื่อเสนอชื่อมาแล้ว สมมุติว่า เสนอใสชื่อ 5 คน ไม่มีใครเสนอเพิ่มอีก กรรมการจะปิดการเสนอชื่อ แล้วเข้าสู่การเลือกตั้ง โดยการหย่อนบัตร ซึ่งจะให้สมาชิกแต่ละคนไปรับบัตรแล้วกาเลือกคนที่ต้องการให้เป็นหัวหน้าพรรค นำมาหย่อนบัตรตรงคูหาเหมือนเลือกตั้งผู้แทนฯ หลังจากนั้นคอมพิวเตอร์จะสแกนบัตรและโชว์คะแนนตลอดเวลาว่าใครได้คะแนนเท่าไหร่ ซึ่งใช้เวลาสแกนไม่น่าจะเกินครึ่งชั่วโมงก็จะบอกได้ว่าใครจะเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ แต่ถ้ามีผู้สมัครเพียงคนเดียว โดยอาจเสนอไปหลายคนแต่คนอื่นถอนตัวหมด ก็ยังต้องมีการเลือกตั้ง ไม่ใช่แค่ให้ยกมือรับรอง โดยให้กาบัตรเลือกคนที่ถูกเสนอชื่อคนเดียวที่เหลืออยู่ หรือไม่กา หรือกาช่องไม่ลงคะแนน
เมื่อทราบผลการเลือกตังหัวหน้าพรรคแล้ว ต่อไปคือการเลือกกรรมการบริหารพรรคซึ่งจะมี 2 ประเภท ประเภทหนึ่งคือ กรรมการบริหารที่หัวหน้าพรรคใช้สิทธิตามข้อบังคับพรรคเสนอชื่อโดยกึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการบริหารพรรคที่มีได้ทั้งหกมด สมมุติมี 19 คน หัวหน้าพรรคก็เสนอแค่ 9 ไม่รวมหัวหน้าพรรค แล้วให้ที่ประชุมไปเลือกโดยกาบัตรว่าเห็นด้วยกับทั้ง 9 คนหรือไม่ ถ้าเห็นด้วยก็ไปเลือกอีก 9 คนต่อ โดยให้สมาชิกเสนอชื่อผู้ที่ควรเป็นกรรมการบริหารพรรค หลังจากนั้นให้เลือกตั้งโดยการหย่อนบัตร สมมุติว่า เสนอชื่อมา 25 คน ถ้าต้องการ 9 คน ก็เลือกเอาผู้ที่ได้คะแนนสูงสุด 1-9
เลขาธิการพรรค ก.ม.ม.กล่าวต่อว่า เมื่อได้กรรมการบริหารพรรคครบแล้ว ก็เข้าวาระที่ 4 คือเลือกตั้งคณะกรรมการ ซึ่งตรงนี้พิเศษมาก เมื่อก่อนไม่เคยมี แต่กฎหมายใหม่กำหนดให้มีคณะกรรมการ 3 ฝ่ายคือ 1.คณะกรรมการกำหนดนโยบายพรรค 2.คณะกรรมการว่าด้วยการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้ง 3.คณะกรรมการส่งเสริมประชาธิปไตยในพรรค กรรมการ 3 ชุดนี้สำคัญ เพราะพรรคเราเป็นพรรคของมวลชน(แมสปาร์ตี้)ที่เราต้องการให้เป็นพรรคของประชาชนจริงๆ ต้องสร้างวัฒนธรรมประชาธิปไตยในพรรคให้ได้ ฉะนั้นต้องมีการกำหนดก่อนว่ากรรมการ 3 คณะนี้ มีคณะละกี่คน พรรคอื่นใช้ 9 คน ของเราจะใช้ 9 เหมือนคนอื่น หรือจะใช้ 5 ใช้ 11 ก็แล้วแต่ แต่เราจะเปิดให้พี่น้องเสนอมาว่า ใครควรจะอยู่ตำแหน่งไหน พอถึงเวลาเลือกตั้งสมาชิกก็ไปรับบัตร 3 ใบ เพื่อกาเลือก โดยใบหนึ่งหย่อนในหีบกรรมการนโยบาย ใบหนึ่งหย่อนในกล่องกรรมการคัดเลือกผู้สมัคร ใบหนึ่งหย่อนในกล่องกรรมการส่งเสริมประชาธิปไตยในพรรค เมื่อหย่อนบัตรเสร็จก็ปิดหีบ นับคะแนนโดยใช้คอมพิวเตอร์สแกน ซึ่งจะใช้ 200-300 เครื่อง สแกนขึ้นจอ โดยจะทราบผลทั้ง 4 วาระ ประมาณค่ำๆ
หลังจากเลือกตั้งเสร็จจะมีการเปิดตัว หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ประมาณ 2 ทุ่มวันเดียวกัน พร้อมทั้งเปิดตัวนโยบายพรรคและยุทธศาสตร์ของพรรค แต่ไม่ใช่การเปิดตัวเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้ง เพราะยังไม่มีพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้ง แต่เป็นการประกาศตัวว่าพรรคของเราลงหลักปักฐาน ตอกเสาเข็ม วางศิลาฤกษ์เป็นเรื่องเป็นราวแล้ว ถือเป็นการนับหนึ่งในการทำงานทางการเมืองของพันธมิตรฯ อย่างเป็นทางการ
การจัดการประชุมใหญ่ครั้งนี้ ต้องใช้เจ้าหน้าที่จำนวนมากพอสมควร ในนามพรรคต้องไปว่าจ้างเอกชน ที่เรียกว่าออร์แกไนเซอร์มาช่วยจัดงาน และต้องทำสัญญาว่าจ้าง ลงรายงานการเงินเสนอ กตต.หลังเสร็จงาน สำหรับอาหาร ตอนเช้าจะมีข้าวต้มบริการสมาชิกที่มาจากต่างจังหวัด ส่วนมื้อเที่ยงและมื้อเย็นก็มีการเตรียมไว้เช่นกัน โดยมีพี่น้องพันธมิตรฯ ช่วยกันนำมาบริการ.
นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ในฐานะเลขาธิการพรรคการเมืองใหม่ (ก.ม.ม.) กล่าวผ่านรายการ “เวทีชาวบ้าน เวทีพันธมิตรฯ” ทางเอเอสทีวี เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 5 ต.ค.ถึงการประชุมใหญ่สมาชิกพรรคการเมืองใหม่ครั้งที่ 1 ในวันที่ 6 ต.ค.ที่อาคารธันเดอร์โดม เมืองทองธานีว่า กรรมการบริหารพรรคและเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ เพิ่งประชุมกันเสร็จ และทุกฝ่ายพร้อมเต็มที่แล้วที่จะประชุมใหญ่ของพรรค หลังจากมีการเตรียมการมาตลอด 2 สัปดาห์สำหรับการประชุมครั้งนี้
รูปแบบการประชุมสมาชิกพรรคการเมืองใหม่ครั้งนี้จะแตกต่างจากการประชุมพรรคการเมืองอื่นๆ ที่เคยทำมา โดยเฉพาะการให้สมาชิกทั้งประเทศ ซึ่งตัวเลขล่าสุดที่ได้รับการรับรองจากกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) แล้วจำนวน 8,927 คน ทั้งหมดเป็นองค์ประชุม ทุกคนมีสิทธิเข้าร่วมประชุมและถูกเชิญประชุมจากกรมการบริหารพรรค ซึ่ง 1.ไม่มีพรรคการเมืองไหนทำกัน 2.พรรคต่างๆ ที่ทำกันคือใช้องค์ประชุมแค่ 200 คน ฉะนั้นนี้เมื่อองค์ประชุมมันใหญ่ จึงต้องใช้อาคารธันเดอร์โดม ซึ่งเราหวังว่า สมาชิกจะมาประชุมราว 4-5 พันคน เพราะสมาชิกที่อายุมากแล้วและสมัครสมาชิกอยู่ต่างจังหวัดอาจไม่สะดวกที่มา แต่ก็สามารถรับชมการถ่ายทอดสดได้ทาง เอเอสทีวี News1 ซึ่งเป็นกาว่าจ้างให้ถ่ายทอดให้
สำหรับวาระการประชุม นายสุริยะใส กล่าวว่า จะเปิดโต๊ะลงทะเบียนตั้งแต่เวลา 06.00 น. เนื่องจากสมาชิกต่างจังหวัดจะมาแต่เช้า ซึ่งเมื่อสมาชิกมาลงทะเบียนจะต้องยื่นบัตรประชาชนให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่าเป็นสมาชอกพรรคจริงหรือไม่ เมื่อตรวจสอบเสร็จเจ้าหน้าที่จะให้บัตรสมาชิกที่ติดไว้กับตัวตลอด เพื่อป้องกันบุคคลภายนอกเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการประชุม เช่น ไปรับบัตรลงคะแนน ซึ่งอาจจะมีคนนำไปร้องเรียน กกต.เป็นเหตุให้มีการยุบพรรคได้ โดยบุคคลภายนอกที่จะไปสังเกตการประชุมนั้นจะจัดพื้นที่พิเศษไว้ให้ต่างหาก
เมื่อสมาชิกได้รับบัตรแล้ว เจ้าหน้าที่จะพาไปห้องประชุม ซึ่งเป็นยิมเนเซียม มีที่นั่งเป็นอัฒจันทร์สำหรับชมกีฬา โดยให้นั่งตามลำดับเลขที่สมาชิก และมีบัลลังก็สำหรับประธานในที่ประชุมคือนายสมศักดิ์ โกศัยสุข หัวหน้าพรรคคนปัจจุบัน อยู่ด้านบน จึงเป็นการจำลองแบบการประชุมของชาวเมืองเอเธนส์ ต้นแบบประชาธิปไตยในอดีต
วาระการประชุมจะเริ่ม 09.00 น. โดยเมื่อถึงเวลา จะมีการกดออดเรียกประชุม หลังจากนั้นประธานฯ จะกล่าวอะไรสั้นๆ กับสมาชิกเล็กน้อย เสร็จแล้ว จะเข้าวาระที่ 1 คือรายงานการดำเนินงานของพรรคในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมา เช่น การรับสมาชิก การตั้งสาขาพรรค เงินบริจาค ค่าใช้จ่าย โดยวาระนี้จะใช้เวลาประมาณ 30 นาที เสร็จแล้วจะเป็นวาระพิจารณารับรองแผนการดำเนินงานของพรรคในปีต่อไป ซึ่งใช้เวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง
หลังจากนั้นจะเข้าสู่วาระเลือกตั้ง ซึ่งค่อนข้างจะซับซ้อนพอสมควรโดยวาระเลือกตั้งวาระแรกคือการเลือกตั้งหัวหน้าพรรค ซึ่งก่อนที่จะเลือกตั้งหัวหน้าพรรค ประธานจะถามที่ประชุมก่อนว่า พรรคจะมีกรรมการบริหารพรรคกี่คน ซึ่งปัจจุบันมี 27 คน ก็อาจกำหนดใหม่ สมมุติว่าให้มี 19 คน ขั้นตอนต่อไปก็เลือกตั้งหัวหน้าพรรคก่อน โดยเปิดให้สมาชิกเสนอชื่อหัวหน้าพรรค ซึ่งสมาชิกทุกคนไม่ว่าจะมาจากภาคไหน ถ้ามีสิทธิประชุมก็มีสิทธิเสนอว่าใครควรเป็นหัวหน้าพรรค โดยให้มีคนรับรองการเสนอชื่อ 20 เสียง
เมื่อเสนอชื่อมาแล้ว สมมุติว่า เสนอใสชื่อ 5 คน ไม่มีใครเสนอเพิ่มอีก กรรมการจะปิดการเสนอชื่อ แล้วเข้าสู่การเลือกตั้ง โดยการหย่อนบัตร ซึ่งจะให้สมาชิกแต่ละคนไปรับบัตรแล้วกาเลือกคนที่ต้องการให้เป็นหัวหน้าพรรค นำมาหย่อนบัตรตรงคูหาเหมือนเลือกตั้งผู้แทนฯ หลังจากนั้นคอมพิวเตอร์จะสแกนบัตรและโชว์คะแนนตลอดเวลาว่าใครได้คะแนนเท่าไหร่ ซึ่งใช้เวลาสแกนไม่น่าจะเกินครึ่งชั่วโมงก็จะบอกได้ว่าใครจะเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ แต่ถ้ามีผู้สมัครเพียงคนเดียว โดยอาจเสนอไปหลายคนแต่คนอื่นถอนตัวหมด ก็ยังต้องมีการเลือกตั้ง ไม่ใช่แค่ให้ยกมือรับรอง โดยให้กาบัตรเลือกคนที่ถูกเสนอชื่อคนเดียวที่เหลืออยู่ หรือไม่กา หรือกาช่องไม่ลงคะแนน
เมื่อทราบผลการเลือกตังหัวหน้าพรรคแล้ว ต่อไปคือการเลือกกรรมการบริหารพรรคซึ่งจะมี 2 ประเภท ประเภทหนึ่งคือ กรรมการบริหารที่หัวหน้าพรรคใช้สิทธิตามข้อบังคับพรรคเสนอชื่อโดยกึ่งหนึ่งของจำนวนกรรมการบริหารพรรคที่มีได้ทั้งหกมด สมมุติมี 19 คน หัวหน้าพรรคก็เสนอแค่ 9 ไม่รวมหัวหน้าพรรค แล้วให้ที่ประชุมไปเลือกโดยกาบัตรว่าเห็นด้วยกับทั้ง 9 คนหรือไม่ ถ้าเห็นด้วยก็ไปเลือกอีก 9 คนต่อ โดยให้สมาชิกเสนอชื่อผู้ที่ควรเป็นกรรมการบริหารพรรค หลังจากนั้นให้เลือกตั้งโดยการหย่อนบัตร สมมุติว่า เสนอชื่อมา 25 คน ถ้าต้องการ 9 คน ก็เลือกเอาผู้ที่ได้คะแนนสูงสุด 1-9
เลขาธิการพรรค ก.ม.ม.กล่าวต่อว่า เมื่อได้กรรมการบริหารพรรคครบแล้ว ก็เข้าวาระที่ 4 คือเลือกตั้งคณะกรรมการ ซึ่งตรงนี้พิเศษมาก เมื่อก่อนไม่เคยมี แต่กฎหมายใหม่กำหนดให้มีคณะกรรมการ 3 ฝ่ายคือ 1.คณะกรรมการกำหนดนโยบายพรรค 2.คณะกรรมการว่าด้วยการคัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้ง 3.คณะกรรมการส่งเสริมประชาธิปไตยในพรรค กรรมการ 3 ชุดนี้สำคัญ เพราะพรรคเราเป็นพรรคของมวลชน(แมสปาร์ตี้)ที่เราต้องการให้เป็นพรรคของประชาชนจริงๆ ต้องสร้างวัฒนธรรมประชาธิปไตยในพรรคให้ได้ ฉะนั้นต้องมีการกำหนดก่อนว่ากรรมการ 3 คณะนี้ มีคณะละกี่คน พรรคอื่นใช้ 9 คน ของเราจะใช้ 9 เหมือนคนอื่น หรือจะใช้ 5 ใช้ 11 ก็แล้วแต่ แต่เราจะเปิดให้พี่น้องเสนอมาว่า ใครควรจะอยู่ตำแหน่งไหน พอถึงเวลาเลือกตั้งสมาชิกก็ไปรับบัตร 3 ใบ เพื่อกาเลือก โดยใบหนึ่งหย่อนในหีบกรรมการนโยบาย ใบหนึ่งหย่อนในกล่องกรรมการคัดเลือกผู้สมัคร ใบหนึ่งหย่อนในกล่องกรรมการส่งเสริมประชาธิปไตยในพรรค เมื่อหย่อนบัตรเสร็จก็ปิดหีบ นับคะแนนโดยใช้คอมพิวเตอร์สแกน ซึ่งจะใช้ 200-300 เครื่อง สแกนขึ้นจอ โดยจะทราบผลทั้ง 4 วาระ ประมาณค่ำๆ
หลังจากเลือกตั้งเสร็จจะมีการเปิดตัว หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ประมาณ 2 ทุ่มวันเดียวกัน พร้อมทั้งเปิดตัวนโยบายพรรคและยุทธศาสตร์ของพรรค แต่ไม่ใช่การเปิดตัวเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้ง เพราะยังไม่มีพระราชกฤษฎีกากำหนดวันเลือกตั้ง แต่เป็นการประกาศตัวว่าพรรคของเราลงหลักปักฐาน ตอกเสาเข็ม วางศิลาฤกษ์เป็นเรื่องเป็นราวแล้ว ถือเป็นการนับหนึ่งในการทำงานทางการเมืองของพันธมิตรฯ อย่างเป็นทางการ
การจัดการประชุมใหญ่ครั้งนี้ ต้องใช้เจ้าหน้าที่จำนวนมากพอสมควร ในนามพรรคต้องไปว่าจ้างเอกชน ที่เรียกว่าออร์แกไนเซอร์มาช่วยจัดงาน และต้องทำสัญญาว่าจ้าง ลงรายงานการเงินเสนอ กตต.หลังเสร็จงาน สำหรับอาหาร ตอนเช้าจะมีข้าวต้มบริการสมาชิกที่มาจากต่างจังหวัด ส่วนมื้อเที่ยงและมื้อเย็นก็มีการเตรียมไว้เช่นกัน โดยมีพี่น้องพันธมิตรฯ ช่วยกันนำมาบริการ.